’กรวีร์-ภราดร’ ยกก๊วนภูมิใจไทยวอลค์เอาท์ หลังเถียงกันวุ่นญัตติเลือกรองประธานสภาฯ
สองพี่น้องอ่างทอง ’กรวีร์-ภราดร’ ยกก๊วนภูมิใจไทยวอลค์เอาท์ หลังเถียงกันวุ่นญัตติเลือกรองประธานสภาฯ สอนมวย ‘ฉลาด‘ ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม
วันนี้ (7 ส.ค. 68) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานการประชุม นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ลุกขึ้นอภิปรายว่าเมื่อเช้ามีการเลื่อนระเบียบวาระการเลือกรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 พิจารณาก่อนพรรคภูมิใจไทยไม่ได้ติดขัด คิดว่าจำเป็นจะต้องมีตำแหน่งรองประธานสภาฯ เนื่องจากสัปดาห์หน้ามีการประชุมงบประมาณ ตนเองเป็นห่วงเพราะเมื่อเช้านี้องค์ประชุมยังไม่ครบ ตอนนี้ก็ยังไม่ทราบองค์ประชุมจะครบหรือไม่ เราไม่ได้มีเจตนาที่จะขัดขวางการดำเนินการของสมาชิกและจะไม่ขอเสนอนับองค์ประชุม แต่ขอหารือหลังจากได้พูดคุยกับ สส.พรรคภูมิใจไทยว่าจะเสนอญัตติด่วนด้วยวาจาเพื่อให้สภาฯ พิจารณา เกี่ยวกับการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบเหตุภัยพิบัติในเขตชายแดน ใช้เวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง รัฐมนตรีก็อยู่ในสภาฯ จะได้ตอบข้อซักถาม และนำข้อเสนอไปแก้ไขอย่างเร่งด่วน
นายฉลาด จึงกล่าวต่อว่าขอให้พิจารณาจากวาระการเลือกรองประธานสภาฯ ก่อนได้หรือไม่ นายกรวีร์ จึงถามว่าฝ่ายรัฐบาลมีความพร้อมเลือกรองประธานสภาฯ ใช่หรือไม่
นายวัชระ ขาวขำ สส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ขอบคุณนายกรวีร์ที่เสนอเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน การเลือกรองประธานสภาฯ ใช้เวลาไม่เกิน 1 นาทีก็จบ ขอความกรุณาฝ่ายค้านสรรหาคนมาทำหน้าที่ในตำแหน่งที่ว่าง นายกรวีร์ จึงขอเสนอนับองค์ประชุม
นางสาวขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นท้วงว่าผู้รับรับรองไม่ครบ นายวัชรพล จึงเสนอขอให้นับองค์ประชุมแบบขานชื่อ เพื่อจะได้ให้เห็นว่า สส.ใครมาทำงานบ้าง ใครไม่ทำงานจะได้เห็นกันไปเลย ซึ่ง พลตำรวจตรี สุรินทร์ ปาลาเร่ สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ได้เสนอญัตติให้นับองค์ประชุมแบบขานชื่อ
นายภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า สส.พรรคเพื่อไทยเสนอให้มีการนับองค์ประชุมแบบขานชื่อ เมื่อมีสองญัตติ ประธานก็ต้องถามที่ประชุมว่าจะให้ลงมติแบบไหน ท่านก็ต้องให้มีการนับองค์ประชุมเสียก่อนจะถามทั้งสองญัตติ ท่านประธานจะวินิจฉัยเช่นนี้ไม่ได้ เล่มสีฟ้าอยู่ขวามือข้าง ๆ ค้อน ขอให้หยิบดู ท่านประธานต้องทำตามข้อบังคับ ทำตามข้อบังคับโดยใช้อำนาจของประธานไม่ได้
นายวัชรพล ชี้แจงว่าพรรคภูมิใจไทยเคยเป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1 แสดงว่าท่านไม่ได้อ่านข้อบังคับ ข้อที่ 32 ประธานมีอำนาจในการปรึกษาหารือ ที่ประชุมในปัญหาใด ๆ กำหนดวิธีการตรวจสอบองค์ประชุม การนับองค์ประชุมทั้งกดบัตรและขานชื่อ ไม่ใช่ญัตติ เป็นอำนาจของประธานในการวินิจฉัย
นายภราดร ใช้สิทธิพาดพิงกล่าวว่า ข้อบังคับข้อ 32 ต้องอ่านให้ดีไปเรียนมาใหม่ ประธานมีอำนาจในการบอกให้นับองค์ประชุมแบบไหน ในกรณีที่ไม่มีญัตติแต่ขณะนี้มีสองญัตติมีผู้รับรองถูกต้อง ฉะนั้นประธานวินิจฉัยอื่นไม่ได้และใช้ข้อ 32 ไม่ได้ นายวัชรพล ต้องไปเรียนมาใหม่
นายสุรินทร์ ลุกขึ้นถามว่าการเสนอญัตติเมื่อสักครู่ยังไม่มีการรับรองจะถือว่าเป็นญัตติหรือไม่ นายฉลาด จึงกล่าวต่อว่าถือว่าเป็นญัตติ ในเมื่อมีญัตติเดียวจึงขอใช้อำนาจตามข้อ 32 ในการตรวจสอบองค์ประชุม นายภราดร จึงขอเสนอเป็นญัตติให้มีการนับองค์ประชุมแบบขานชื่อ
นายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ สส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่าท่านประธานมาทำหน้าที่ใหม่ การทำหน้าที่ในวันนี้จะเป็นบรรทัดฐานในวันต่อไปมเกี่ยวกับการนับองค์ประชุม จึงขอเสนออีกทางเลือกคือ หากนับองค์ประชุมสั่งปิดประตูทั้งหมดแล้วให้เจ้าหน้าที่เดินนับ สส.ว่ามีจำนวนเท่าไร จะได้ดำเนินการ อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่านี้
นายภราดร กล่าวว่าเมื่อสักครู่มีการเสนอให้นับองค์ประชุมแบบกดบัตรมีผู้รับรองถูกต้อง นายสุรินทร์เสนอให้มีการขานชื่อแต่ไม่มีการรับรอง ตนเองจึงเสนอซ้ำให้มีการนับองค์ประชุมแบบขานชื่อ จึงมีอยู่สองญัตติ จะวินิจฉัยตามข้อ 32 มิไม่ได้ ประธานต้องถามมติในที่ประชุมว่าจะลงมติแบบใด แต่ก่อนจะลงมติจะต้องมีการนับองค์ประชุมก่อน
นายฉลาด จึงถามว่า สองพี่น้อง นายกรวีร์จะยอมถอนญัตติหรือไม่ เนื่องจากนายภราดรได้มีการเสนอญัตติให้นับองค์ประชุมแบบขานชื่อ นายกรวีร์ จึงถามว่าเหตุใดตนเองจะต้องยอมถอน เพราะนายภราดรเสนออีกญัตติหนึ่ง เพราะเป็นสิทธิของสมาชิกที่จะเสนอ ไม่ได้เกี่ยวว่าอยู่บ้านเดียวกัน นายภราดร ยืนยันว่าอย่างไรก็ตามจะต้องมีการลงมติ ตนเองเป็นคนเสนอญัตติก่อนที่ประธานจะวินิจฉัยให้ลงมติแบบขานชื่อ ไม่เช่นนั้นประธานจะบอกให้ใช้ญัตติของตนเองได้อย่างไร ขอให้ประธานดูเทปย้อนหลัง แต่ประธานกลับบอกว่าตนเองไม่ได้เสนอญัตติ และประธานวินิจฉัยก่อน ประธานต้องใจเย็นดูข้อบังคับให้ดี ขณะนี้มีญัตติคาสภาฯ อยู่สองญัตติจะต้องมีการวินิจฉัยให้ดี
นางสาวขัตติยา ลุกขึ้นประท้วง ขอให้มีการย้อนไปดูเทป เพราะประธานวินิจฉัยไปแล้ว นายภราดรถึงขอเสนอญัตติขึ้นใหม่ นายฉลาด กล่าวว่าในเมื่อตนเองมีคำวินิจฉัยไปแล้ว ก็ขอให้ตรวจสอบองค์ประชุมโดยการขานชื่อ
นายภราดร กล่าวต่อว่าตนเองได้แสดงผลให้ประธานแล้ว แต่ประธานไม่ฟังเหตุผล จึงไม่สามารถจะร่วมเป็นองค์ประชุมให้ได้ จึงขอวอล์คเอาท์ ด้านนายวิสุทธิ์ ไชยณรุน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวต่อว่า ในเมื่อคนขอนับองค์ประชุมไม่ร่วมสังฆกรรมออกจากห้องประชุมไปแล้ว จึงขอให้ดำเนินการตามระเบียบวาระต่อไปในการเลือกรองประธานสภาฯ คนที่ 1
ก่อนที่นายกรวีร์ ที่ย้ายที่นั่งไปอยู่ด้านหลังห้องประชุม จะกล่าวว่า ตนเองงงมากล่าวหาว่าไม่อยู่ในที่ประชุมได้อย่างไร เพราะตนเองก็อยู่ข้างหลัง รออยู่ตรงนี้ ก่อนที่นายฉลาด จะสั่งให้นับองค์ประชุมต่อ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ภายหลังเริ่มนับองค์ประชุม สส.พรรคภูมิใจไทยได้วอล์คเอาจากที่ประชุมด้วย













