‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ นำทีมไทยแลนด์ ชี้แจงผลปราบปรามการค้ามนุษย์ เตรียมลุ้นขึ้นเทียร์ 1 พ.ค.นี้
‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ ยิ้มแก้มปริ นำทีมไทยแลนด์ ชี้แจงผลปราบปรามการค้ามนุษย์ เตรียมลุ้นขึ้นเทียร์ 1 พฤษภาคมนี้ เผย ทุกฝ่ายชมปฏิบัติการเล่าก์ก่าย เตรียมกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ การบังคับใช้กฎหมายไทยดีขึ้นอย่างก้าวกระโดด
วันนี้ (7 มี.ค. 67) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บังคับบัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์กับ The Reporters หลังได้เข้าร่วมหารือกับกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ประเทศสหรัฐอเมริกา เกี่ยวกับการติดตามผลการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และความคืบหน้าของทีมไทยแลนด์ที่ไปรายงานผลเรื่องการปราบปรามการค้ามนุษย์
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ทีมไทยแลนด์ ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อธิบดีอัยการจากสำนักงานอัยการสูงสุด กระทรวงแรงงาน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้เดินทางมาเพื่อรายงานความก้าวหน้าในการบังคับใช้กฎหมายการปราบปรามและต่อต้านการค้ามนุษย์ โดยเป็นประเด็นสำคัญของประเทศไทย คือ ผลการจัดระดับประเทศไทยในรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ (Trafficking in Persons Report: TIP Report หรือที่เรียกว่าการให้ความร่วมมือในการต่อต้านการค้ามนุษย์และการปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็ก รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายในภาคประมง
ขณะนี้ สถานะของประเทศไทยในปัจจุบัน อยู่ในระดับเทียร์ 2 แล้ว หลังจากที่ติดอยู่ในระดับเทียร์ 2 Watchlist มาหลายปี ซึ่งเป็นระดับที่ไทยติดอยู่มายาวนานถึง 4 ปี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตนเองได้ให้ความสำคัญถึงเรื่องการบังคับใช้กฎหมายการปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กและการปราบปรามค้ามนุษย์ โดยที่ผ่านมาหน้าที่ในการรับผิดชอบของตนเองหลังจากเป็นผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตนเองจึงพยายามเข้ามาขับเคลื่อนและผลักดันการบังคับใช้กฎหมายจริงจังอย่างก้าวกระโดด ทำงานร่วมกันกับกระทรวงต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จนวันนี้เราได้ยกระดับมาเป็นเทียร์ 2 แล้ว
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า การเดินทางมายังประเทศสหรัฐอเมริกาครั้งนี้ ก็เพื่อรายงานผลความคืบหน้าของผลงานในรอบปีที่ผ่านมา ว่าเรามีกระบวนการทำงานและการบังคับใช้กฎหมายการต่อต้านการค้ามนุษย์ การคุ้มครองเหยื่อ การคุ้มครองพยานอย่างไรบ้าง รวมถึงกฎหมายต่างๆ ที่นำมาใช้ในการเอาทรัพย์คืนประชาชน ซึ่งวันนี้ประเทศไทยมีกฎหมายฉบับใหม่ของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ที่เพิ่งออกกฎหมายฉบับนี้มาเมื่อปีที่แล้ว ในการนำทรัพย์ที่ได้ยึดมาจากผู้กระทำความผิดหรือผู้ต้องหา ซึ่งเดิมทีแล้วเมื่อยึดทรัพย์มา ของกลางจะตกเป็นของแผ่นดิน แต่วันนี้เรามีกฎหมายที่จะให้ทรัพย์ตกไปเป็นของประชาชนผู้เสียหายแล้ว สิ่งนี้ถือเป็นการพัฒนากฎหมายเพื่อให้สอดรับกับประเทศที่มีการพัฒนาแล้วในปัจจุบัน ถือเป็นการเท่าทันยุคสมัย เคารพสิทธิ และคืนสิทธิให้กับประชาชน เพราะฉะนั้นวันนี้เราจึงนำข้อมูลทั้งหมดมาพูดคุยกับรัฐบาลสหรัฐอเมริกา เพื่อรายงานถึงความก้าวหน้าในการทำงานของประเทศไทย
เมื่อถามว่าหากมีการตกลำดับของเทียร์ สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมากับประเทศไทยจะเป็นอย่างไร พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า จะมีปัญหาเกิดขึ้นตามมาทันที โดยเฉพาะเรื่องการส่งออกของประเทศไทย ตั้งแต่เรื่องสินค้าเกษตร สินค้าภาคประมง เครื่องนุ่งห่ม พร้อมย้ำว่าเราต้องเข้าใจว่าตลาดของสหรัฐอเมริกาเป็นตลาดใหญ่ ถ้าเมื่อไหร่ที่ไม่มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดและจริงจัง เพื่อการเดินหน้าในการปราบปรามจะส่งผลทำให้ระดับเทียร์ตกกลับลงไปอีก ซึ่งจะส่งผลต่อภาคอุตสาหกรรมของประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง ทำให้เกิดการกีดกันทางการค้า ส่งผลต่อการประกอบอาชีพคนไทย และทำให้บริษัทต่างๆ ของไทยลำบากขึ้นและไม่มีที่ยืน
เพราะฉะนั้น วันนี้การเดินทางมารายงานความก้าวหน้าของทีมไทยแลนด์ ตนเองจึงอยากเรียนกับประชาชนว่า วันนี้รัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้มีการชื่นชมประเทศไทยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในเรื่องการบังคับใช้กฎหมายอย่างก้าวกระโดด มีสถิติการจับกุมของขบวนการค้ามนุษย์ที่เป็นขบวนการอย่างเป็นรูปธรรม มีการยึดทรัพย์และจับกุมที่มากขึ้น การขยายผลไปถึงผู้ใช้บริการทางเพศเด็กที่สูงขึ้นถึงเก้าสิบกว่าเปอร์เซนต์ ถือเป็นสถิติที่มีตัวเลขอย่างชัดเจนและจับต้องได้ และเรื่องการปราบปรามที่เพิ่มสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมากว่าสามสิบเปอร์เซ็นต์ รวมถึงการที่เราสามารถพิสูจน์ตัวตนเหยื่อและช่วยเหลือเหยื่อได้ สามารถนำเด็กกลับมาคืนสู่วัยเรียน กลับมาคืนสู่สังคม กลับมาคืนสู่อ้อมอกของพ่อแม่ได้
อย่างเรื่องล่าสุดที่รัฐบาลสหรัฐให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก คือการช่วยเหลือคนไทยที่เมืองเล่าก์ก่าย ในประเทศเมียนมา 500 กว่าคน ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลสหรัฐให้ความสนใจอย่างมาก โดยถามถึงกระบวนการทำงานและการให้ความช่วยเหลือคนไทยในประเทศเมียนมา โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการรบ ว่ามีการประสานงานและความร่วมมืออย่างไรในการเข้าไปช่วยเหลือคนไทยได้ ซึ่งวันนี้ถือว่าได้รับคำชมจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกาเป็นอย่างยิ่ง
ส่วนในเรื่องการยกระดับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า วันนี้เรามีความคาดหวังที่จะมีโอกาสขยับขึ้นเป็นเทียร์ 1 แต่อย่างไรก็ตามตนเองก็เผื่อใจไว้ว่าเราไม่มีทางที่จะแย่ลงไปกว่าเดิม อย่างไรก็ตามหากเราสามารถรักษาสถานการณ์การดำเนินงานแบบนี้ได้ มั่นใจว่าเราก็สามารถขยับขึ้นเป็นเทียร์ 1 ได้แน่นอน ซึ่งปีนี้เราก็มีโอกาสลุ้น แต่หากภายในปีนี้ไม่สามารถขยับขึ้นเทียร์ 1 มาได้ ก็ยืนยันว่าจะทำงานอย่างเข้มข้น ตั้งใจ เหมือนอย่างในทุกวันนี้พร้อมย้ำว่า จะไม่มีทางทำให้ลำดับตกลงได้
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า หลังจากที่คณะผู้แทนไทยมีโอกาสได้พบกับ สส. คริส สมิธ ณ ห้องทำงานที่สภาฯ คองเกรส ท่านได้ชมเชยถึงการทำงานของประเทศไทยว่ามีความกระตือรือร้น เอาใจใส่ของรัฐบาลไทย ที่ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ โดยมอบหมายให้ผู้แทนทั้งอธิบดีอัยการสูงสุด รอง ผบ.ตร. กระทรวงแรงงาน กระทรวง พม. เดินทางมารายงานความคืบหน้ากันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตากัน ซึ่งไม่มีประเทศไหนที่เขาทำกันแบบนี้
เมื่อถามว่าจะมีการประกาศลำดับหรือจะมีการพิจารณาการขยับลำดับเทียร์เมื่อไหร่นั้น พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ในทุกปีจะมีการประกาศผลการ จัดอันดับเทียร์ทั่วโลกในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม ซึ่งหากประเทศไทยได้มีโอกาสขึ้นเทียร์ 1 ในปีนี้ จะถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทย และเป็นของขวัญชิ้นสำคัญให้คนไทย
นอกจากนี้ทางรัฐบาลสหรัฐยังได้มีการถามถึงการช่วยเหลือคนจีนกลับไปยังประเทศจีน 800 กว่าคน ที่ทางไทยได้ประสานงานและให้การช่วยเหลือ ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่รัฐบาลสหรัฐให้ความชมเชยกลับมาและให้ความสนใจถึงกระบวนการทำงานของประเทศไทยที่สามารถให้ความช่วยเหลือคนจีนกลับไปยังประเทศได้โดยใช้ระยะเวลาเพียงแค่ 3 วัน รวมถึงเรื่องการปราบปรามอาชญกรรมแก๊งคอลเซนเตอร์ชายแดน การปราบปรามเว็บพนัน ในพื้นที่ของชเวโก๊กโก่ ประเทศเมียนมา เช่นเดียวกัน
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่าหากจำได้ว่าเมื่อปีที่แล้ว รัฐบาลสหรัฐมีการคว่ำบาตรบุคคลอยู่ 3 คน คือ ‘จ้าวเหว่ย’ เจ้าของสัมปทานเขตเศรษฐกิจสามเหลี่ยมทองคำ ‘พ.อ.หม่อง ชิต ตู่’ ผู้บังคับการบีจีเอฟ ในฐานะผู้นำกองกำลังบริเวณแหลมเมียวดี และ ‘สือ จื้อเจียง’ นายทุนใหญ่กลุ่มจีนเทา ผู้ก่อตั้งเมืองชเวโก๊กโก่ และเป็น 1 ใน 3 บุคคลที่ทางการสหรัฐคว่ำบาตรไว้ได้ ปัจจุบันอยู่ในความควบคุมในเรือนจำของทางการไทย ซึ่งทั้ง 3 คน ล้วนแล้วแต่เป็นบุคคลสำคัญที่รัฐบาลสหรัฐให้ความสำคัญ เนื่องจากเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการค้ามนุษย์ กระบวนการ Hybrid Scam หลอกลวงคนไทยไปทำงานและบังคับค้ามนุษย์ ทำให้รัฐบาลสหรัฐได้เห็นถึงความตั้งใจในการจับกุมบุคคลที่รัฐบาลสหรัฐได้คว่ำบาตรเมื่อปีที่แล้วได้
ส่วนในเรื่องของแก๊งคอลเซนเตอร์ที่มีปัญหาอยู่บริเวณชายแดน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่รัฐบาลสหรัฐให้ความสนใจมาก โดยเฉพาะในพื้นที่รอยต่อของ อ.แม่สอด จ.ตาก และฝั่งเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา ที่ได้มีการเน้นย้ำเป็นพิเศษ รวมถึงถามถึงมาตรการและการรับมือของประเทศไทยว่ามีการดำเนินการอย่างไร เมื่อรู้ว่าฐานของคอลเซนเตอร์ และฐานของ Hybrid Scam มาอยู่ที่เมืองเมียวดีแล้ว ซึ่งมีจำนวนมากถึงกว่า 10,000 คน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้เปิดเผยว่า ในส่วนของประเทศไทย ได้มีการตั้งศูนย์เฉพาะกิจร่วมกันระหว่างไทย กัมพูชา และจีน ที่บริเวณชายแดน อ.แม่สอด จ.ตาก โดยมี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เป็นผู้อำนวยการศูนย์ ซึ่งจะใช้ศูนย์แห่งนี้ในการขับเคลื่อนและเข้าไปปราบปรามร่วมกับกองกำลังต่างๆ ในพื้นที่ของเมืองเมียวดี
“สิ่งสำคัญคือความร่วมมือผ่านแดนทั้งแบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ วันนี้จึงต้องเรียนว่า ปัจจุบันนี้ยังมีคนไทยกว่า 2,000 คนที่ยังทำแก๊งคอลเซนเตอร์อยู่ในพื้นที่ของเมียวดี และพื้นที่อื่นๆ ในประเทศเมียนมา วันนี้เราจึงสังเกตได้ว่าคนไทยในแผ่นดินไทยยังถูกหลอกลวงอย่างต่อเนื่อง โดยแก๊งคอลเซตเตอร์เหล่านี้ เพราะฉะนั้นสิ่งนี้คือความท้าทายของตนเองในฐานะผู้การกำกับดูแลเรื่องการต่อต้านการค้ามนุษย์และการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งจะต้องเดินหน้าขับเคลื่อนต่อเพื่อที่จะทำให้แก๊งคอลเซนเตอร์ ไม่กล้ามาหลอกคนไทยในดินแดนไทยได้” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ประเทศไทยถือเป็นผู้นำในเอเชียในเรื่องของการเป็นผู้บังคับใช้กฎหมายการต่อต้านการค้ามนุษย์ และประเทศสหรัฐเองก็หวังให้ประเทศไทยเป็นผู้นำประเทศในแถบลุ่มแม่น้ำโขง และถึงแม้ว่าจะมีการปรับระดับเทียร์แล้ว แต่ก็ยังยืนยันว่าต้องมีการดำเนินงานเดินหน้าต่อไปอย่างเข้มงวด เพื่อให้กระบวนการเหล่านี้หมดไปและทำให้คนไทยได้รับความเสียหายและถูกหลอกลวงน้อยที่สุด
