POLITICS

เปิดใจ “ครู-นักเรียน” ร.ร.สาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

เผยหลักสูตรการเรียนไม่ได้บิดเบือนประวัติศาสตร์ ส่งเสริมสังคมการเรียนรู้และเคารพการอยู่ร่วมกัน เข้าใจในความเป็นมนุษย์ ขอสังคมเปิดใจยอมรับการศึกษาแนวใหม่

“หนูเป็นนักเรียนรุ่นแรก ซึ่งทุกคนตื่นเต้นว่าโรงเรียนเราไม่ต้องใส่ชุดนักเรียน แต่เมื่อได้เรียนก็ค่อนข้างฟรีสไตล์แต่เราต้องรับผิดชอบตัวเองด้วย และไม่ได้ส่งผลกระทบกับการเรียนของหนู ว่าเราตั้งใจเรียนหรือเข้าใจเรื่องเนื้อหาการเรียนยังไง”

น้องใยบัว น.ส.วิรัลพัชร บัวเพ็ชร์ นักเรียนชั้น ม.5 เปิดใจถึง ความแตกต่างของ ร.ร. ที่ไม่ต้องใส่เครื่องแบบ ไม่ได้ทำให้ทุกคนต้องแต่งตัวแข่งขันในแต่งกายแบรนด์เนม หรือ แต่งหรู อาจมีแฟชั่นบ้าง แต่ไม่มีการเหยียดกันเรื่องเสื้อผ้า

เช่นเดียวกับน้องนาปาล์ม นายจุลกรี ช้างรักษา นักเรียนชั้น ม.3 ที่ยืนยันว่า ที่โรงเรียนให้แต่งตัวอย่างไรก็ได้ สามารถทำสีผมได้ แต่นักเรียนก็ต้องแต่งกายสุภาพเรียบร้อยและให้เกียรติสถานที่ด้วย อาจมีแฟชั่นบ้าง แต่ทุกคนตั้งใจเรียน ส่งการบ้านถูกต้อง ไม่ส่งผลกระทบการเรียน ซึ่งที่สำคัญ นาปาล์ม เห็นว่า การมีอิสระในการแต่งกาย ทำให้ทุกคนมีความมั่นใจ ซึ่งนาปาล์มเห็นว่า มีควมสำคัญในการใช้ชีวิต ให้เรามีความสุขในการเรียนและมั่นใจในการใช้ชีวิตด้วย

ตรงกับความเห็นของ อาจารย์ อธิษฐาน์ คงทรัพย์ ผู้อำนวยการ ร.ร.สาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ระบุว่า แม้จะไม่ใส่ชุดนักเรียน แต่โรงเรียนมีเสื้อโปโลสัญลักษณ์ให้นักเรียนได้ใส่ในวันจันทร์ที่มีตลาดนัดเพื่อความปลอดภัย และในวันกิจกรรมสำคัญ แต่วันอื่นสามารถใส่เสื้อผ้าได้ตามต้องการ โดยยึดความเหมาะสม สุภาพ ส่วนทรงผมก็สามารถทำได้ตามต้องการ ซึ่งทางโรงเรียนให้พื้นที่ตรงนี้ในการค้นหาความเป็นตัวของตัวเอง เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างวินัยที่คิดว่าวินัยคือการรับผิดชอบต่อบทบาทหน้าที่ การส่งงานให้ตรงเวลา การอยู่ร่วมกันโดยไม่บูลลี่ และเคารพกฏระเบียบของสังคมที่อยู่ร่วมกัน

สำหรับการเรียนการสอนที่มีวิชาแตกต่างจากโรงเรียนอื่นเช่น การไม่มีวิชาลูกเสือเนตรนารี แต่มีวิชาอยู่รอดปลอดภัยแทนนั้น ทั้งใยบัว และนาปาล์ม เปิดเผยว่า การเรียนวิชาอยู่รอดปลอดภัยนั้นการบูรณาการหลายๆอย่างที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ ไม่ต่างจากวิชาลูกเสือ แต่คลอบคลุมการใช้ชีวิตให้ปลอดภัย เช่นถ้าตกน้ำ หรือแขนขาหัก จะช่วยชีวิตเพื่อนอย่างไร ซึ่งจะสอนให้มีสติถ้าเกิดอุบัติเหตุ ป้องกันการบาดเจ็บ ที่เป็นประโยชน์มากและสามารถใช้ได้จริง อย่างวิชาว่ายน้ำ ไม่ใช่สอนท่าต่างๆ แต่ถ้าหากอยู่ในน้ำลึกเราต้องว่ายอย่างไรให้ปลอดภัย

“ความมีวินัยถูกฝึกในระหว่างการเรียน เช่น ม.ปลาย เราเลือกวิชาการ จัดการตัวเองเหมือนเรียนมหาวิทยาลัย ทำให้เรามีวินัย การที่เราไม่ได้เข้าแถวเคารพธงชาติเหมือนที่อื่น ไม่ได้ทำให้เราขาดวินัย เพราะแม้ไม่มีการเคารพธงชาติตอน 8 โมง แต่เราก็ต้องมาเข้าโฮมรูม พบครูที่ปรึกษา เรานำเวลาตรงนั้นไปทำประโยชน์อื่นๆในการเรียนแทน”

“ใยบัว” ยืนยันว่าโรงเรียนสอนให้เรามีวินัยในตัวเอง ที่สำคัญโรงเรียนทำให้นักเรียนมีความเข้าใจความเป็นมนุษย์ ต้องเคารพในการกระทำของคนอื่น และแม้เราไม่ได้ยืนเคารพธงชาติ เราก็ยังรักชาติ เราไม่ได้ลืม มีหลายวิธีที่เราแสดงถึงความรักชาติได้

“ถ้าเราจะรักชาติ เราต้องรักจากใจ ไม่ได้รักจากการปฏิบัติ หนูคิดว่าการที่เราไปยืนตากแดดร้อนๆทำให้เราเสียสุขภาพด้วย การสวดมนต์หน้าธงชาติ เราสวดได้ แต่เราสามารถสวดในกิจกรรมอื่นได้” นาปาล์ม กล่าว

“ใยบัว” ย้ำว่า การเรียนการสอนอาจแปลกใหม่ สิ่งที่มีใหม่อาจมีคำถาม อยากให้เปิดใจว่ามีอะไรคล้ายของเดิม หรือมีอะไรที่ต้องเรียนรู้ใหม่

“นาปาล์ม”กล่าวย้ำว่าที่โรงเรียนสอนทุกศาสนาในชื่อวิชา วิถีศรัทธา ที่สอนให้รู้ว่าแต่ละศาสนามีคำสอน มีวิธีปฏิบัติอย่างไร เพื่อให้เราเข้าใจสังคม จึงอยากให้สังคมเข้าใจเรียนรู้กับสิ่งใหม่นี้ อย่างเช่นวิชาประวัติศาสตร์ ก็เรียนในทุกแง่มุม แต่จะเน้นประวัติศาสตร์กระแสรอง มากกว่ากระแสหลัก

นักเรียนร.ร.สาธิติแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ยังรู้สึกภาคภูมิใจที่โรงเรียน เน้นเรื่องความเท่าเทียม และการเคารพกัน เหมือนสโลกแกนโรงเรียนที่เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้และเคารพร่วมกัน อย่างเช่น ความเท่าเทียมทางเพศ ที่เราต้องให้กำลังใจเขา ไม่ใช่การไปเหยียดเพศ ซึ่งที่ ร.ร.ก็มีห้องน้ำเสมอภาค ที่ไม่จำกัดเพศ และให้สำหรับผู้พิการด้วย และการที่โรงเรียนให้ความอิสระ เป็นการให้ความเชื่อมั่นที่จะใช้ชีวิตในสังคม และปลูกฝังให้เข้าใจในความเป็นมนุษย์

“หนูไม่ได้กังวลเรื่องที่นายกรัฐมนตรี จะตรวจสอบ เพราะเราเป็นการศึกษาแนวใหม่ ที่อยากให้เปิดใจและเรียนรู้ไปกับเรา” นาปาล์ม กล่าว

อาจารย์ อธิษฐาน์ ย้ำว่า หลักสูตรให้เด็กเป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้ ผ่านการลงมือทำ เพื่อให้มีประสปการณ์จริง และให้ความสำคัญนิเวศน์การเรียนรู้ ที่มีมากกว่าโรงเรียน ครูกับพ่อแม่จะช่วยสร้างพื้นที่การเรียนรู้ ให้เขาค้นพบตัวเอง และสอนเด็กให้เข้าใจในมิติสังคมความเป็นมนุษย์ ในการอยู่ร่วมกันกับเพื่อนที่แตกต่างกันอย่างไร

“ที่โรงเรียนกำลังเป็นข่าวก็เป็นโอกาสในวิกฤต ที่เขาจะได้เรียนรู้ เด็กไม่ได้โกรธเกรี้ยว หรือขุ่นเคือง สามารถอธิบายได้ว่า ในฐานะเด็กนักเรียนคนหนึ่งรู้สึกอย่างไร ในสังคมแห่งความหลากหลาย ถ้าเราไม่เข้าใจในความเป็นมนุษย์ เราจะกล่าวโทษกัน โรงเรียนจึงเน้นตรงนี้ เด็กในโรงเรียนมีความหลากหลาย รักความเป็นชาติไทย มีเด็กหัวก้าวหน้าแฟชั่น มีเด็กพิเศษ แต่ทั้งหมดคือการอยู่ร่วมกันด้วยความเคารพกัน”

ผอ.ร.ร.สาธิตฯ ระบุว่า เรากำลังทำสิ่งใหม่ ที่ต้องใช้เวลา เพื่อไปสู่เป้าหมายการศึกษาของไทย และให้เด็กๆได้เรียนรู้ อย่างเวลานี้ ร.ร.เริ่มเปิดเรียน On-Site มาเป็นเวลากว่า 2 เดือนแล้ว ตามวิถี New-Normal เพราะ ร.ร.คิดว่า การมาเรียนที่ ร.ร.มีความสำคัญ ทำให้เด็กได้เรียนรู้ที่ดีกว่า โดย ร.ร.ดุแลมาตรการความปลิดภัย ทั้งการจัดสถานที่ ห้องเรียน การทานอาหาร มีห้องพยาบาล มีห้องกักตัว School Isolation เป็นต้น

“การเรียน On-site มีความสำคัญต่อการเรียนมากเพราะความสัมพันธ์กับมนุษย์ การทำงานร่วมกัน ได้มีปฏิสัมพันธ์กับครู หรือครูจะมีการสังเกตพฤติกรรมของเด็ก และสามารถเข้าไปดูแลได้อย่างตรงจุด หลายกระบวนการของโรงเรียนมีการจัดแบบ active learning แต่เมื่อไปอยู่บนออนไลน์ ทำให้คุณภาพลดลง เราจึงต้องการให้การกลับมาเรียน On-site เป็นไปอย่างปลอดภัยที่สุด”
 
รศ.ดร.อนุชาติ พวงสำลี ประธานบริหารโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวเสริมว่า การเรียนการสอนมีการปรับหลักสูตรของทั้งต่างประเทศแลไทย นำมาออกแบบให้เป็นหลักสูตรของไทยที่ตอบโจทย์การพัฒนาอย่างแท้จริง มีการสอนอย่างครบถ้วนทุกสาระ แต่จะต้องลดทอนสิ่งที่ไม่จำเป็นและไม่สอดคล้องกับยุคปัจจุบันลง แต่ให้ความสำคัญและใส่ใจกับวิธีการจัดการเรียนการสอน ที่ทำให้เรียนแล้วสนุก

“หลักคิดของ ร.ร.คือเรียนแล้วแล้วต้องปฏิบัติได้ วิธีการเรียนจึงมีหลากหลายรูปแบบ ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของเด็ก เรียนรู้ร่วมกันผ่านการทำกิจกรรมต่างๆ เป็นหลักสูตรฐานสมรรถนะ เป้าหมายคือทำให้เด็กเกิด K (knowledge) S (skill) A (attitude) ซึ่งเป็นสิ่งที่มี คุณค่ากับเด็กในระยะยาว ต้องมีทักษะในการเเสวงหาและปรับตัวในการเรียนรู้ เพราะการเรียนรู้มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โดยให้จะให้ทักษะการคิดไปใช้”

รศ.ดร.อนุชาติ กล่าวถึงสาเหตุที่ไม่มีวิชาพุทธศาสนา เพราะมีการเปลี่ยนเป็นวิชาวิถีศัทธา ซึ่งมีการสอนถึง พระพุทธศาสนาและศาสนาอื่นรวมถึงความเชื่ออื่นด้วย ส่วนประวัติศาสตร์มีการสอนถึงแนวคิดต่างๆ และส่วนใหญ่ใช้ตำราของสพฐ. แต่ปรับให้สนุก และน่าเรียน โดยยืนยันว่าสอนการเรียนรู้ การศึกษา ไม่เกี่ยวกับวิธีคิดทางการเมือง

ประธานบริหาร ร.ร.สาธิตมธ. ยินดีให้ตรวจสอบหลักสูตรของโรงเรียน และอยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มาเยี่ยมชมที่โรงเรียนได้ แต่จากข่าวที่เกิดขึ้นทำให้เป็นห่วงผลกระทบของข่าว วิงวอนสื่อ ให้มีการตรวจสอบกับทางโรงเรียนก่อนนำไปทำข่าว ซึ่งไม่ควรผูกโยงสถาบันการศึกษากับการเมือง และควรทำให้โรงเรียนเป็นพื้นที่ปลอดภัยอย่างแท้จริง

ใยบัว และ นาปาล์ม

Related Posts

Send this to a friend