‘ชลน่าน’ ย้ำ แพ้ไม่ได้ แลนด์สไลด์เท่านั้น ‘อุ๊งอิ๊ง’ ลั่น ไม่ต้องย้ายประเทศ เปลี่ยนผู้นำง่ายกว่า

“คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน” ‘ชลน่าน’ ย้ำ แพ้ไม่ได้ แลนด์สไลด์เท่านั้น ‘แพทองธาร’ ลั่น ไม่ต้องย้ายประเทศ เปลี่ยนผู้นำง่ายกว่า โชว์วิสัยทัศน์ ‘ประเทศไทย 2570’
วันนี้ (6 ธ.ค. 65) พรรคเพื่อไทย จัดการประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ 1 ประจำปี 2565 โดยมี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย รวมถึง นายพานทองแท้ ชินวัตร ตลอดจนกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แกนนำพรรคเพื่อไทย ส.ส. ว่าที่ผู้สมัครฯ และสมาชิกพรรคเพื่อไทย เข้าร่วมงานอย่างล้นหลาม ณ ห้องประชุมชั้น 7 ที่ทำการพรรคเพื่อไทย
ในช่วงต้นของการประชุม มีการเผยแพร่คลิปวีดีโอ ที่เป็นการสรุปภาพการเปลี่ยนแปลง และการทำงานของพรรคเพื่อไทยตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ก่อนที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ขึ้นกล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ ‘2565 พรรคเพื่อไทย’
นพ.ชลน่าน ประกาศปักธงลงทุกพื้นที่ แลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน ในปี 2566 จะมีการเลือกตั้งครั้งสำคัญที่พรรคเพื่อไทย มีเป้าหมายชนะการเลือกตั้งแบบถล่มทลายแลนด์สไลด์ 250 คน ขึ้นไป และต้องตั้งรัฐบาลพรรคเพื่อไทยให้ได้ หากไม่แลนด์สไลด์ ประชาชนจะตายทั้งเป็นเหมือน 8 ปีที่ผ่านมา
“การเลือกตั้งปี 2562 เราชนะ มาเป็นอันดับ 1 ได้ 136 คะแนน เราชนะแต่เหมือนแพ้ เพื่อไทยแพ้ ประชาชนก็แพ้ไปด้วย ดังนั้น ความหวัง ความต้องการของพี่น้องประชาชน คือพรรคเพื่อไทย”
นพ.ชลน่าน ยกกรณีการเลือกตั้งซ่อมในเขต 9 (จตุจักร-หลักสี่) กทม. ในปี 2565 ที่พรรคเพื่อไทยชนะ รวมถึงชนะการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ถึง 20 ที่นั่ง และการเลือกตั้งซ่อมนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ใน จ.ร้อยเอ็ด ที่เพื่อไทยได้รับคะแนนเสียงแบบแลนด์สไลด์ นั่นคือสัญญาณที่ชี้ให้เห็นว่าประชาชนไว้วางใจพรรคเพื่อไทย
“การชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ไม่ใช่ของง่าย แน่นอนเรามีกระแส ความนิยม แต่เขามีกระสุน มีอำนาจรัฐ อำนาจเงิน แต่ผมเชื่อว่ามวลมิตร มวลสมาชิกของพรรคเพื่อไทย ไม่ย่อท้อ เพราะอำนาจแท้จริงอยู่ที่พี่น้องประชาชน เอาชนะกระสุน เอาชนะอำนาจรัฐ อำนาจเงินลงได้”
นพ.ชลน่าน ย้ำว่า 5 เดือนก่อนเลือกตั้ง เวลาเรามีน้อย ดังนั้นทั้ง ส.ส. และว่าที่ผู้สมัครฯ ของพรรค ต้องทำงานอย่างเข้มแข็งอดทน และพรรคเพื่อไทยพร้อมจับมือกับท่านเพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย การรบครั้งนี้เราแพ้ไม่ได้ เพราะประชาชนจะแพ้ด้วย และตกอยู่ในอำนาจเงินอย่างโงหัวไม่ขึ้น เป็นการทำลายระบอบประชาธิปไตยอย่างสิ้นเชิง ต้องชนะเท่านั้นเพื่อนำพาความหวังมาสู่ประชาชน
ว่าที่ผู้สมัครฯ ของพรรคเพื่อไทย ถือเป็นกุญแจดอกสำคัญของชัยชนะ ในฐานะนักรบ ต้องนำนโยบายไปบอกต่อกับประชาชน เพราะประชาชนเชื่อมั่นในว่าที่นายกรัฐมนตรีของพรรค ซึ่งเป็นคนรักประชาชน เข้าใจและเห็นอกเห็นใจประชาชน สามารถนำพานโยบายไปตามเข็มมุ่งสู่การแก้ปัญหาของประเทศชาติได้ เราต้องคิดใหญ่ ทำเป็น ทำให้เห็นเพื่อคนไทยทุกคน
จากนั้น เข้าสู่ไฮไลต์ของงาน อย่างการเปิดวิสัยทัศน์ของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ในหัวข้อ ‘คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน Think Big, Act Smart, For All Thais’
นางสาวแพทองธาร เปิดประเด็นว่า จากการลงพื้นที่สำรวจข้อมูลทำให้พบว่า ประเทศของเราถอยหลังไปมาก และยังไร้ที่ยืนบนเวทีโลก ทั้งในอีกมิติของการเมือง สังคม เศรษฐกิจ ประชาชนมีหนี้สะสมท่วมท้น ไม่รู้จะใช้หมดเมื่อไหร่
“ปัญหาในปัจจุบัน ไม่สามารถคิดเล็กๆ ได้ จึงจำเป็นต้องคิดใหญ่ เพื่อแก้ปัญหาใหญ่ และต้องทำให้เป็น ถ้ามัวแต่แก้ปัญหาเฉพาะหน้าเหมือนในปัจจุบันจะเห็นว่า ปัญหาจะมีแต่เพิ่มมากขึ้น ไม่ได้ลดลง”
หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย แสดงวิสัยทัศน์ของอนาคต หลังพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลมาแล้ว 4 ปี ในปี 2570 ประเทศไทยได้พัฒนาสิ่งใดไปแล้วบ้าง ในด้านเศรษฐกิจ ยึดหลักลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส การรดน้ำที่รากจะทำให้ต้นไม้เติบโต แม้น้ำจะมีจำกัด รวมทั้งการใช้ Soft Power เพื่อส่งเสริมให้ 1 คนต่อ 1 ครอบครัว ได้บ่มเพาะทักษะ เพื่อเปิดโอกาสสู่อาชีพใหม่ๆ
“ในปี 2570 คนไทยต้องได้ค่าแรงให้สมกับความเป็นมนุษย์ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี 600 บาทต่อวัน นักศึกษาปริญญาตรีต้องมีรายได้เริ่มต้น 25,000 บาทต่อเดือน และเราจะช่วยประชาชนล้างหนี้ให้หมดไป เพิ่มโอกาสให้คนที่กำลังสร้างเนื้อสร้างตัว ให้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งทุนได้มากขึ้น สร้างกติกาการแข่งขันที่เท่าเทียมกัน และเปิดทางให้ธุรกิจได้มีพื้นที่สร้างสรรค์ เช่น สุรา เบียร์”
นำนวัตกรรมและเทคโนโลยี มาช่วยพัฒนาการทำงานของเกษตรกร ให้มีผลผลิตมากขึ้น แต่เหนื่อยน้อยลง และใช้ตลาดนำการผลิต ไม่ต้องคาดเดาว่าควรปลูกอะไร หรือจะขายได้หรือไม่ มุ่งพัฒนาให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของนวัตกรรมแห่งอาเซียน ใช้ระบบ Central Digital Currency เพื่อแก้คอร์รัปชัน และพัฒนารัฐบาลดิจิทัล ให้ประชาชนเข้าถึงโดยสะดวก
ในปี 2570 พรรคเพื่อไทยจะยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรค เป็นประกันสุขภาพถ้วนหน้า บัตรประชาชนใบเดียว สามารถรักษาฟรีได้ทั่วประเทศ เก็บข้อมูลผู้ป่วยไว้ในส่วนกลางและเข้าถึงได้ทุกที่ จองคิวล่วงหน้า รักษาได้ใกล้บ้านด้วยระบบแพทย์ทางไกล Telemedicine รวมถึงการฉีดวัคซีนปากมดลูกฟรี และการตรวจไวรัสตับอักเสบฟรีตั้งแต่เนิ่นๆ
“ด้านยาเสพติด เพื่อไทยมาแล้ว ยาเสพติดต้องหมดไป เรากับยาเสพติดไม่ถูกกัน จะต้องผลักดันนโยบายปราบปรามยาเสพติดอย่างเป็นระบบ ควบคู่กับหารช่วยรักษาบำบัดผู้ที่เสพไปพร้อมกัน” นางสาวแพทองธาร กล่าว
นางสาวแพทองธาร ยังนำเสนอนโยบายการลงทุนในระบบราง ด้วยการสร้างรถไฟรางคู่ ความเร็ว 160 กม./ชม. เพื่อลดเวลาเดินทาง รถไฟความเร็วสูงจากจีนมาไทยมุ่งไปยังสิงคโปร์ ต้องเกิดขึ้นจริง ไปจนถึงนโยบายตั๋วร่วมรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายทุกเส้นทาง สามารถเกิดขึ้นได้ก่อนปี 2570 แน่นอน
“ในปี 2570 กติการัฐธรรมนูญจะเป็นประชาธิปไตยอย่างเต็มใบนายกจะถูกเลือกจากผู้แทนราษฎรที่มาจากประชาชน กระจายอำนาจการบริหารจากส่วนกลางสู่ท้องถิ่นมากขึ้น ควบคุมเม็ดเงินต่างๆ ที่ได้จากภาษีประชาชน ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ชั้นสูง เพื่อตามหาเม็ดเงินที่ถูกเบียดบังไป และให้มั่นใจว่าภาษีที่ประชาชนจ่าย ได้กลับไปสร้างความสุขความเจริญให้พี่น้องประชาชน ทุกบาท ทุกสตางค์”
“เราไม่ต้องย้ายประเทศแล้ว เราแค่มาร่วมใจกัน เปลี่ยนผู้นำง่ายกว่า เราจะมาร่วมกันพลิกประเทศ การเมืองที่มีเสถียรภาพเท่านั้นที่จะทำให้เราทวงคืนหนึ่งทศวรรษที่เราเสียไปกลับคืนมา มาร่วมกันคิดใหญ่ ทำให้เป็นจริงได้ ด้วยการเลือกพรรคเพื่อไทย ทั้งคน และพรรค” นางสาวแพทองธาร กล่าวทิ้งท้าย
และในช่วงสุดท้าย หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยังมีการมอบธงแลนด์สไลด์ ให้กับตัวแทนแต่ละภาค ได้แก่
ตัวแทนภาคเหนือ – นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส. เชียงใหม่
ตัวแทนภาคอีสาน – นางสาวจิราพร สินธุไพร ส.ส. ร้อยเอ็ด
ตัวแทนภาคกลาง – นายวรวงค์ วรปัญญา ลพบุรี ผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ลพบุรี
ตัวแทนภาค กทม. – นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส. กทม.
ตัวแทนภาคใต้ – นายตติยภัทร์ ปิติเศรษฐพันธุ์ ผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.สตูล
สำหรับสโลแกน ‘คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน’ ที่ใช้ในการประชุมใหญ่วิสามัญครั้งที่ 1 ประจำปี 2565 ในครั้งนี้ ถือเป็นการสืบทอดเจตนารมย์จากพรรคไทยรักไทย ด้วยการนำสโลแกนดั้งเดิมที่ใช้หาเสียงในปี 2543 คือ “คิดใหม่ ทำใหม่ เพื่อไทยทุกคน” มาพัฒนาให้สอดคล้องกับช่วงเวลาปัจจุบัน
เรื่อง : ณัฐนนท์ เจริญชัย
ภาพ : พุฒิพงศ์ ธัญญพันธุ์