ศรีสุวรรณ จี้ กกต. สอบพรรคการเมืองเอี่ยว ‘ตู้ห่าว’ หรือไม่ หากผิดให้เสนอยุบพรรค
ศรีสุวรรณ จี้ กกต. สอบพรรคการเมืองใหญ่ เอี่ยว ‘ตู้ห่าว’ หรือไม่ หากพบผิดจริง ให้เสนอศาล รธน.เพื่อยุบพรรค
วันนี้ (6 ธ.ค. 65) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องเพื่อชี้เบาะแส ให้ กกต.ดำเนินการสืบสวนหรือไต่สวน กรณีปรากฏว่ามีนักการเมืองสังกัดพรรคการเมืองใหญ่หลายคน อาจมีส่วนส่งเสริม สนับสนุน ให้นายตู้ห่าว ผู้ถูกกล่าวหาในคดีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดและร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย เเละ พ.ร.บ.สถานบริการ พ.ศ.2509
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า คดีดังกล่าวถือเป็นคดีร้ายแรง มีอัตราโทษค่อนข้างสูง เป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะต้องสืบสวนสอบสวนกลุ่มทุนจีนสีเทา และบุคคลต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งที่เป็นนอมินีและผู้ที่ร่วมหุ้นในธุรกิจต่างๆ ที่เปิดดำเนินการกว่า 22 บริษัททั่วประเทศ ทั้งใน กทม. สมุทรปราการ และภูเก็ต รวมทั้งนักการเมืองจากพรรคการเมืองใหญ่ ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ตั้งแต่การผลักดันให้นายตู้ห่าวได้สัญชาติไทย การเข้าไปกว้านซื้อบ้านหรูย่านซอยลาซาล จ.สมุทรปราการ เกือบยกหมู่บ้าน
“การกระทำของกลุ่มทุนจีนสีเทาเหล่านี้ แผ่ขยายอาณาจักรและอิทธิพลไปทั่ว ไม่สามารถทำได้ง่ายหากไม่มีพรรคการเมืองใหญ่ นักการเมือง หรือผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองให้การส่งเสริมสนับสนุน ทั้งทางตรงและทางอ้อม จนนำมาซึ่งการกระทำที่มีลักษณะเป็นการก่อกวน หรือคุกคามความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน จนศาลอาญากรุงเทพใต้ต้องอนุมัติหมายจีบ เลขที่ 777/2565 ลงวันที่ 22 พ.ย.65 และสามารถจับกุมตัวการได้บ้างแล้วในที่สุด แต่สำหรับพรรคการเมืองหรือผู้ที่ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมือง ซึ่งอาจไม่จำเป็นต้องเป็นผู้บริหารพรรคการเมือง แต่อาจถูกพรรคการเมืองอุปโลกน์ให้มีตำแหน่งในพรรคการเมืองนั้น อาจเข้าไปมีส่วนในการส่งเสริมสนับสนุนกลุ่มทุนจีนสีเทาดังกล่าว ทั้งทางตรงและทางอ้อม อาจมีความผิดตาม ม.45 แห่ง พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ได้ เป็นหน้าที่และอำนาจของ กกต. ที่จะต้องดำเนินการไต่สวน สอบสวน เอาผิดพรรคการเมือง หรือผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมือง ซึ่งเป็นพรรคการเมืองใหญ่ ตามข้อมูลพยานหลักฐานที่ปรากฏเป็นการทั่วไปอยู่ในขณะนี้” นายศรีสุวรรณ กล่าว
นายศรีสุวรรณยังกล่าวอีกว่า สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้นำความพร้อมพยานหลักฐานมายื่นเป็นเบาะแสให้ กกต. ใช้อำนาจตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ 2560 ม.224 ประกอบ พรป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง 2560 เพื่อไต่สวนและวินิจฉัย กรณีมีพรรคการเมืองหรือผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมือง ที่อาจเข้าข่ายกระทำการส่งเสริม สนับสนุน ให้ผู้ใดกระทําการอันเป็นการก่อกวนหรือคุกคามความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน อันเป็นการฝ่าฝืน ม.45 ประกอบ ม.92(3) แห่ง พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 หรือไม่ หากพบว่าฝ่าฝืนให้เสนอศาลรัฐธรรมนูญเพื่อยุบพรรคการเมืองดังกล่าวต่อไป