POLITICS

‘พริษฐ์’ ชี้​ ไทยต้องเตรียมรับมือผลเลือกตั้งสหรัฐฯ แนวโน้ม​ ‘ทรัมป์’ ชนะ​

‘พริษฐ์’ ชี้​ ไทยต้องเตรียมรับมือผลเลือกตั้งสหรัฐฯ แนวโน้ม​ ‘ทรัมป์’ ชนะ​ จะเกิดความตึงเครียดกับจีนเพิ่มขึ้น ต้องพลิกวิกฤตเป็นโอกาส​ ดึงฐานการผลิตมาไทย

วันนี้ (6 พ.ย. 67) นายพริษฐ์​ วัชรสินธุ​ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคประชาชน​ กล่าวถึงการเลือกตั้ง ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาในวันนี้​ว่า​มีแนวโน้มที่ โดนัลด์​ ทรัมป์ จะชนะการเลือกตั้ง​ ซึ่งจะส่งผลกระทบกับประเทศไทย ใน 2 เรื่อง คือ 1. ความตึงเครียดในเชิงภูมิศาสตร์การเมือง ระหว่างสหรัฐกับจีนจะสูงขึ้น ไม่ว่าใครจะมาเป็นประธานาธิบดี แต่ โดนัลด์​ ทรัมป์ จะมีความตึงเครียดสูงขึ้นเป็นพิเศษ ซึ่งจะเป็นทั้งวิกฤต และโอกาส ที่ไทยต้องรับมือ เราต้องพยายามฉวยมาให้ได้​ ซึ่งมีโอกาสความเป็นไปได้หากสถานการณ์ตึงเครียด รัฐบาลสหรัฐจะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน สินค้าจีนจะส่งออกไปยังสหรัฐฯ ยากมากขึ้น​ จึงเป็นไปได้ว่าจะมีบางส่วนจะระบายสินค้ามาที่ไทย รัฐบาลไทยต้องวางแผนในการรับมือ หากสินค้าจีนเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้นจะช่วยผู้ประกอบการไทยอย่างไร ซึ่งพรรคประชาชนมี สส.อยู่ในคณะกรรมาธิการพัฒนาเศรษฐกิจ และติดตามเรื่องนี้อยู่​ ส่วนเรื่องโอกาส หากมีสถานการณ์ตึงเครียด คือ อาจจะมีการย้ายฐานการผลิต เป็นโอกาสที่ไทยจะดึงนักลงทุนเข้ามาเพื่อสร้างงานสร้างอาชีพ​

นายพริษฐ์​ ยังกล่าวอีกว่าเรื่องที่ 2. คือปัญหาโรครวน ซึ่งนายโดนัลด์​ ทรัมป์ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาภาวะโลกรวน (Climate Change) น้อยกว่าประธานาธิบดีสหรัฐคนก่อนหน้านี้ และมีนโยบายที่เกี่ยวข้องน้อยกว่านางกมลา​ แฮริส จึงเป็นสิ่งสำคัญว่าไทยจะแสวงหาความร่วมมือ จากประเทศอื่นในโลกอย่างไร ในการลดก๊าซเรือนกระจก​ พร้อมระบุว่าปัญหาน้ำท่วมภาคเหนือที่ผ่านมา เป็นสิ่งบ่งบอกชัดเจนว่าหากไม่แก้ปัญหาโลกรวน ภัยพิบัติจะรุนแรงและถี่ขึ้น ส่งผลกระทบต่อชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน​ ซึ่งเร็ว ๆ นี้จะมีการประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ​หรือ​ COP ซึ่งเป็นวาระเร่งด่วนที่ต้องรีบหารือกับทุกประเทศ

ส่วนที่มีความกังวลว่า ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีน ไทยจะถูกบีบนั้น​ นายพริษฐ์​กล่าวว่าเป็นสิ่งท้าทายที่ทุกประเทศต้องเจออยู่แล้ว ในภูมิประเทศที่เป็นความตึงเครียดของมหาอำนาจ แต่จะทำอย่างไรให้ ประเทศไทยในฐานะประเทศสมาชิกอาเซียน จะปกป้องผลประโยชน์ของคนในประเทศให้ได้มากที่สุด ภายใต้กรอบอาเซียน และการทำนโยบายต่างประเทศ ที่มีท่าทีจุดยืนยึดหลักการ ซึ่งการยึดหลักการจะทำให้ไทยมีที่ยืน ในเวทีโลก

ส่วนที่มีการวิเคราะห์กันว่านโยบายของนางกมลา​ แฮริสเน้นเรื่องของประชาธิปไตยแต่นายโดนัลด์​ ทรัมป์เน้นเรื่องปากท้องทำให้ผลการนับคะแนนอาจทำให้นายโดนัลด์​ ทรัมป์ มีคะแนนนำ เป็นการสะท้อนการเลือกตั้งในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทยว่าหลายคนมองเรื่องปากท้อง มากกว่าประชาธิปไตยนายพริษฐ์​ ยืนยันว่า ไม่ได้ตีความแบบนั้น เพราะสุดท้ายเรื่องประชาธิปไตยกับปากท้องคือเรื่องเดียวกัน ต้องไปควบคู่กัน ระบอบประชาธิปไตย จุดแข็งคืออำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน เป็นกลไก ที่จะรับประกันว่านโยบายต่าง ๆ ที่รัฐบาลออกมา ต้องตอบสนองต่อความต้องการของประชาชน อย่าไปหลุดอยู่ในกรอบของการตีความให้ประเทศเรา หรือประเทศใดต้องเลือกระหว่างประชาธิปไตย กับปากท้อง

Related Posts

Send this to a friend