POLITICS

‘โรม’ บอก ‘ธรรมนัส’ เป็นรองนายกฯ ควรปกป้องผลประโยชน์ชาติ ฝาก ‘อนุทิน’ ดู ขู่ฟ้องคนนั้นคนนี้ ไม่ส่งผลดีต่อรัฐบาล

‘โรม’ ถามกลับ ‘ธรรมนัส’ รับงานใครมา เป็นรองนายกฯ ควรปกป้องผลประโยชน์ชาติ ฝาก ‘อนุทิน’ ดูขู่ฟ้องคนนั้นคนนี้ ไม่ส่งผลดีต่อรัฐบาล

วันนี้ (6 ต.ค. 68) นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ทนายความของนายเบนจามิน สมิธ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาท พร้อมยืนยันว่าเป็นคนละคนกับที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) แบน ว่า จริง ๆ มีรูปที่บริษัทแห่งหนึ่งประชาสัมพันธ์งานน่าเชื่อว่าเป็นคนเดียวกัน และ กลต. เป็นคนหยิบยกขึ้นมาเองในกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ดังนั้น มันไม่ใช่อยู่ ๆ เป็นการนั่งเทียนดำเนินการกันไปเอง แต่มันมีข้อมูลเหล่านี้

ตนเองเริ่มเป็นห่วงนายธนดล และร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ท่านอาจจะไม่ได้รู้จักคนที่ท่านคิดว่ารู้จักเพียงพอหรือไม่ แต่ไม่ว่าอย่างไร ตนเองคิดว่าทางเขาก็มีสิทธิ์ในกระบวนการยุติธรรมในการฟ้องร้อง ถ้าจะทำกันถึงขนาดนี้ไม่น่าใช้คณะทำงานของร้อยเอกธรรมนัสเลย เพราะร้อยเอกธรรมนัสเป็นรองนายกฯ ซึ่งควรจะปกป้องผู้ที่ออกมาทำเรื่องนี้ในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ การกระทำของท่านในลักษณะแบบนี้มันอาจจะทำให้สังคมยิ่งเป็นห่วงว่า รองนายกฯ ทำไมต้องกระวนกระวายแบบนี้

เรื่องนี้ไม่ได้ส่งผลดีต่อร้อยเอกธรรมนัสและรัฐบาลนี้เท่าไร แม้จะเป็นรัฐบาลเฉพาะกิจก็ตาม ตนเองไม่อยากให้คนของรัฐบาลไม่ว่าใครก็แล้วแต่ เข้าไปเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ขอตั้งคำถามด้วยความหวังดีต่อร้อยเอกธรรมนัส อยากจะเห็นนโยบายในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่ถ้าเกิดว่าร้อยเอหธรรมนัส กระวนกระวาย กลายเป็นว่าใช้กลไก เครื่องมือของท่าน เพื่อผลประโยชน์ของบางคน ตนเองคิดว่าไม่ส่งผลดีต่อร้อยเอกธรรมนัสหรือรัฐบาล

เรื่องที่รัฐบาลต้องดำเนินการอย่างจริงจัง ชื่อภรรยาของนายเบนจามิน “แคทลียา” ดูไม่ยากว่าไปร่ำรวยมาจากไหน ไปซื้อหุ้นหลายบริษัท เต็มไปหมด เส้นทางการเงิน หน่วยงานอย่างสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ก็ต้องลงไปดู ลงไปตรวจสอบ เพราะเราอย่าลืมว่าสถานะของนายเบนจามินเป็นที่ปรึกษาของสมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา แล้วตอนที่มีดำเนินการเพื่อขอสัญชาติไทย กระทรวงมหาดไทยก็ไม่เซ็นอนุมัติ และมีการส่งให้สันติบาลตรวจซ้ำ ดังนั้นร้อยเอกธรรมนัสต้องทบทวนเหมือนกันว่าหน้าที่ของท่านกำลังทำอะไร

“ผมทำหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์ของชาติ แต่ท่านธรรมนัสทำหน้าที่เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของใคร บางทีก็ต้องคิดเรื่องนี้ให้รอบคอบ ผมไม่ได้มีเรื่องส่วนตัวกับท่านธรรมนัส แต่คิดว่าท่านธรรมนัสอาจจะกำลังไม่เข้าใจบทบาทของตัวเองในฐานะรองนายกรัฐมนตรี“ นายรังสิมันต์ กล่าว

ส่วนที่มีการท้าให้เปิดหลักฐานออกมา เนื่องจากการอภิปรายแบบนี้ทำให้เสียหาย นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนเองตั้งคำถามว่าไปรู้จักกับนายเบนจามินได้อย่างไร เขาไปนั่งเรือยอร์ชด้วยกัน ตนเองมีสิทธิ์ที่จะตั้งคำถามลักษณะแบบนี้กับเจ้าหน้าที่บ้านเมืองอยู่แล้ว ร้อยเอกธรรมนัส ถ้าจะเสียหาย ก็เสียหายเพราะท่านทำตัวแบบนี้ ไม่ใช่เพราะตนเองถามท่าน

นายรังสิมันต์ ยังฝากถึง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า เรื่องของร้อยเอกธรรมนัส อยู่ภายใต้การนำของนายอนุทิน การปล่อยให้ร้อยเอกธรรมนัสไปทำเรื่องเสียหายขู่ฟ้องคนนั้นคนนี้ ไม่ได้ส่งผลดีต่อรัฐบาล การทำงานของตนเองเป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ

“ท่านธรรมนัสขู่ฟ้องสื่อมวลชน นักการเมือง ต้องถามกลับไปว่าท่านทำเพื่อใคร ท่านถามว่าผมรับงานใครมา แล้วท่านล่ะรับงานใครมา และผมขอยืนยันว่านโยบายเริ่มปราบคอลเซ็นเตอร์ควรเป็นนโยบายหลักของรัฐบาล” นายรังสิมันต์ กล่าว

Related Posts

Send this to a friend