‘นิพนธ์’ ชี้ รัฐบาลปลดล็อก ‘โป๊กเกอร์’ แต่ยังไร้กลไกรับมือ เสี่ยงเพิ่มปัญหาให้สังคม

‘นิพนธ์’ หายสงสัย ทำไม ‘เพื่อไทย’ ทวงเก้าอี้ มท. คืน ชี้ ปลดล็อก ‘โป๊กเกอร์’ แต่ยังไร้กลไกรับมือ เสี่ยงเพิ่มปัญหาให้สังคมไทย ถาม วันนี้ปลดล็อกโป๊กเกอร์ พรุ่งนี้ปลดล็อกอะไรอีกหรือไม่

วันนี้ (6 ส.ค. 68) นายนิพนธ์ บุญญามณี กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลมีคำสั่งยกเลิกข้อห้ามการเล่นไพ่โป๊กเกอร์ว่า เข้าใจดีว่า ‘โป๊กเกอร์’ ได้รับการยอมรับในระดับสากลในฐานะกีฬา หลายประเทศจัดการแข่งขันอย่างเป็นทางการ รวมถึงรัฐบาลไทยมีนโยบายจัดแข่งขันเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าห่วงคือสังคมไทยยังขาดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับพิษภัยของการพนัน ขณะที่รัฐบาลเองยังไม่มีระบบช่วยเหลือ หรือเยียวยาผู้ที่ติดการพนันอย่างเป็นรูปธรรม อีกทั้งปัญหาหนี้ครัวเรือนส่งผลกระทบรุนแรงซึ่งรัฐบาลควรเร่งแก้ไข รวมถึงปัญหาการถดถอยทางเศรษฐกิจ ความเหลื่อมล้ำที่ทวีความรุนแรงขึ้น และปัญหาการทุจริตที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เหตุใดนายภูมิธรรม เวชยชัย จึงเลือกดำเนินการในลักษณะที่จะเพิ่มภาระและสร้างปัญหาให้กับสังคมไทย

นายนิพนธ์ ระบุว่า โป๊กเกอร์ ในประเทศไทยเคยอยู่ในบัญชีการพนันประเภท ข. อนุญาตให้เล่นเฉพาะในโอกาสพิเศษ และต้องขออนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย เมื่อพิจารณาองค์ประกอบของการพนันแล้ว หากมีการเดิมพัน มีเงินรางวัล และมีความเสี่ยงในพฤติกรรม ก็ยังเข้าเกณฑ์เป็นการพนัน ดังนั้น การปลดล็อกโดยไม่มีมาตรการควบคุมที่รัดกุม อาจกลายเป็นการเปิดประตูให้กับปัญหาสังคม โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนและผู้มีความเปราะบางทางเศรษฐกิจ ยิ่งในภาวะเศรษฐกิจถดถอย ความเสี่ยงก็ยิ่งทวีคูณ

นายนิพนธ์ กล่าวด้วยว่า การดำเนินการเช่นนี้ ทำให้เริ่มเข้าใจว่าเหตุใดพรรคเพื่อไทยจึงต้องการกระทรวงมหาดไทยเร่งด่วน ถึงขั้นยอมแลกกับการให้พรรคร่วมรัฐบาลอีกพรรคหนึ่งถอนตัว จนเสียงในสภาไม่มั่นคง เพราะเป้าหมายแท้จริงคือการ ‘ปลดล็อกการพนัน’ หากกระทรวงมหาดไทยยังอยู่ในมือของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีคนก่อน เป็นไปไม่ได้ที่จะปล่อยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงลักษณะนี้

นอกจากนี้ เห็นคำแถลงข่าวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นึกว่าเป็นการแถลงเรื่องเพิกถอนโฉนดเขากระโดง แต่กลับเป็นคำสั่งปลดล็อกโป๊กเกอร์ เป็นสิ่งที่คนตั้งคำถามได้ว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องใดเป็นอันดับแรก พรุ่งนี้จะปลดล็อกอะไรอีกหรือไม่ หรือคือคำตอบว่าเหตุใดพรรคเพื่อไทยต้องทวงคืนกระทรวงมหาดไทยให้ได้ เพื่อเดินหน้า ‘เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์’ เต็มรูปแบบ