POLITICS

สว.อิสระ ยื่นประธานวุฒิฯ ร้องศาล รธน. สั่ง 136 สว.หยุดปฏิบัติหน้าที่ ปมฮั้วเลือก สว.

สว.อิสระ ยื่น ‘ประธานวุฒิสภา’ ร้องศาลรัฐธรรมนูญ สั่ง 136 สว. หยุดปฏิบัติหน้าที่ ชั่วคราว ปมถูกกล่าวหาเกี่ยวพันการฮั้วเลือก สว. ปี 67 หวั่นกระทบความน่าเชื่อถือองค์กรอิสระ – กระบวนการยุติธรรม ด้าน ‘นันทนา’ เผยถูก สว.เสียงข้างน้อยคุกคามจริยธรรม โทรล็อบบี้ให้ถอนชื่อ

วันนี้ (6 ส.ค. 68) ที่รัฐสภา สมาชิกวุฒิสภากลุ่มอิสระ แถลงข่าวยื่นคำร้องถึงประธานวุฒิสภากรณีให้ สว. หยุดปฏิบัติหน้าที่ นำโดย นางสาวนันทนา นันทวโรภาส สว. และ นาวาตรีวุฒิพงษ์ พงษ์สุวรรณ สว. กลุ่มอิสระ โดย นาวาตรีวุฒิพงษ์ กล่าวว่า ตนเองและสมาชิกกลุ่มอิสระจำนวน 50 กว่าคนมีความเห็นตรงกันว่า เหตุการณ์ที่ผ่านมา ปรากฏข้อเท็จจริง และพฤติการณ์จากการสืบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้เห็นว่าสมาชิกวุฒิสภาจำนวนหนึ่งมีมูลกระทำอันเป็นทุจริตในการเลือกสมาชิกวุฒิสภาปี 67 หรือการฮั้ว สว. ทำให้การเลือกไม่สุจริตและเป็นธรรม แต่ความเป็นจริงเหล่านี้ยังไม่ได้พิสูจน์ แต่เรื่องราวเหล่านี้มีการไต่สวนในอนุกรรมการ กกต. ชุดที่ 26 เรียบร้อยแล้ว และขณะนี้เรื่องอยู่ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง

นาวาตรีวุฒิพงษ์ กล่าวอีกว่า เนื่องจากมีข้อกังวลจึงขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งเรียกสำนวนมาสืบสวนต่อไป คือ 1. สำนวนการสอบสวนคดีพิเศษที่ 24/2568 ของกรมสอบสวนคดีพิเศษเกี่ยวกับการดำเนินการของพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดตัวบุคคลในการรับเลือก สว. 2. อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษที่ได้รับมอบหมาย 3. รายงานการสืบสวนและไต่สวนของคณะอนุกรรมการสืบสวนชุดที่ 26 4. ประธานการสืบสวนและไต่สวน หรือรองประธานที่ได้รับมอบหมาย และ 5. เส้นทางการเงินค่าใช้จ่ายของพรรคการเมืองนั้นในกระบวนการแทรกแซงการเลือก สว.

“บางคนบอกว่าเห็นได้ชัดเจน แม้กระทั่งอยู่บนดาวอังคารยังเห็นเลยว่ามีกระบวนการที่ไม่ชอบมาพากล ก็เป็นเหตุแห่งความทุกข์ของบรรดา สว. กลุ่มอิสระทั้งหมด ที่เวลาไปเดินตลาดก็จะมีคนซักถามว่าเป็น สว. ฮั้วหรือไม่ โดนติฉินนินทาเป็นจำนวนมาก ดังนั้น สว. จำนวนหนึ่งไม่ต่ำกว่า 30 ท่าน จึงได้รวบรวมกันลงลายมือชื่อ และมอบเอกสารให้กับประธานวุฒิสภาต่อไป” นาวาตรีวุฒิพงษ์ กล่าว

ด้านนางสาวนันทนา กล่าวว่า ขณะนี้กลุ่ม สว.อิสระได้ร่วมลงชื่อครบตามจำนวน 1 ใน 10 ของวุฒิสภา ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด จึงได้นำเสนอต่อประธานวุฒิสภาเพื่อให้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญต่อไป คำร้องดังกล่าวได้ขอให้

  1. ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยให้สมาชิกภาพของการเป็น สว. ทั้ง 136 คน สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 111 (7) ประกอบมาตรา 113
  2. ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ สว. ทั้ง 136 คน หยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราว จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย หรืออย่างน้อยให้หยุดปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการให้ความเห็นชอบบุคคลดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กรรมการองค์กรอิสระ ตุลาการศาลปกครองสูงสุด และผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูงอื่น ๆ ไว้ก่อน จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย

นางสาวนันทนา ยังกล่าวอีกว่า เนื่องจากผลการสืบสวนสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษร่วมกับคณะกรรมการการเลือกตั้งได้สรุปสำนวน และส่งมอบให้กับ กกต. แล้ว ซึ่งมีผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมด 229 คน เป็น สว. ที่อยู่ในตำแหน่ง 138 คน เป็นกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย รวมถึงเครือข่ายอีก 91 คน ในข้อหาขัดต่อพระราชบัญญัติประกอบการได้มาซึ่ง สว. มาตรา 36 มาตรา 62 และมาตรา 77 รวมถึงมาตรา 113 ที่ห้าม สว. อยู่ภายใต้อาณัติของพรรคการเมือง ซึ่งทั้งหมดนี้คณะอนุกรรมการชุดที่ 26 ได้ส่งให้ กกต. แล้ว เพื่อให้พิจารณาส่งต่อศาลฎีกาแผนกการเลือกตั้งต่อไป

“แต่ กกต. อาจใช้เวลายาวนานถึง 8 เดือนในการส่งฟ้อง ซึ่งนับจากวันนี้ 8 เดือน คือมีนาคมปีหน้า ความล่าช้าในกระบวนการย่อมส่งผลเสียต่อกระบวนการนิติบัญญัติ และกระบวนการยุติธรรมอย่างใหญ่หลวง กล่าวคือ ในระหว่างที่ยังไม่มีการส่งฟ้อง สว. เสียงข้างมากก็ยังคงให้ความเห็นชอบบุคคลเข้าดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระอย่างต่อเนื่อง จากการลงมติดังกล่าวเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของสังคมอย่างกว้างขวางในเรื่องเครือข่ายที่โยงใยสัมพันธ์กับพรรคการเมืองมายังผู้ที่ถูกเลือก ซึ่งหากปล่อยให้กระบวนการเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระดำเนินต่อไปจนถึงเดือนมีนาคมปีหน้า สว. จะได้เลือก กกต. เพิ่มไปอีก 4 คน ศาลรัฐธรรมนูญเพิ่มอีก 1 คน ซึ่งบุคคลเหล่านี้จะเป็นผู้วินิจฉัยตัดสินคดีที่ สว. 138 คน ถูกแจ้งข้อกล่าวหาอยู่” นางสาวนันทนา กล่าว

นอกจากนี้ นางสาวนันทนา กล่าวอีกว่า ขณะนี้เริ่มมีการนำกลไกจริยธรรมมาใช้กับผู้เห็นต่างแบบไม่สมเหตุสมผล ด้วยเหตุผลดังกล่าว กลุ่ม สว.อิสระจึงมีความเห็นว่าหากปล่อยให้วุฒิสภามีพฤติการณ์แบบนี้ต่อไป ย่อมส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของฝ่ายนิติบัญญัติ และเป็นการทำลายความเชื่อมั่นต่อองค์กรอิสระ จึงขอนำรายชื่อ สว. จำนวน 1 ใน 10 ของวุฒิสภาส่งไปถึงประธานวุฒิสภา เพื่อโปรดนำส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญโดยพลัน

“พวกเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าประธานวุฒิสภาจะใช้มาตรฐานเดียวกับที่ท่านได้รับคำร้องของ สว. เสียงข้างมากในตอนเช้า และดำเนินการส่งศาลรัฐธรรมนูญในตอนบ่ายทันที เราหวังว่าเราจะได้มาตรฐานเดียวกันเช่นเดียวกับที่ท่านได้ปฏิบัติกับ สว. เสียงข้างมาก” นางสาวนันทนา กล่าว

เมื่อถามว่า หากต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่จริง วุฒิสภาจะเดินหน้าไปต่อได้หรือไม่ นางสาวนันทนา กล่าวว่า หากเป็นการสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่โดยศาล การทำหน้าที่ของ สว. ในสภาที่เหลือก็สามารถดำเนินการต่อไปได้แบบเป็นองค์ประชุม เพราะถือเป็นการสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว หากมีคำวินิจฉัยให้พ้นตำแหน่งถึงจะดำเนินการเลื่อน สว. สำรองขึ้นมา

ส่วน สว. 1 ใน 10 เกินจำนวน 20 คนไปเยอะหรือไม่ นาวาตรีวุฒิพงษ์ กล่าวว่า ประมาณ 30 บวกลบ และไม่น่าเป็นห่วง เพราะขณะนี้มีโทรศัพท์เข้ามาทุกวันว่าอยากได้อะไร หรืออยากทำอะไรก็ทำให้ทุกอย่าง แต่สิ่งที่ยังทำไม่ได้คือการคืนความยุติธรรมให้ประชาชน ส่วนจำนวน สว. 138 คน ถือว่าเยอะมาก เห็นควรให้การเลือก สว. ครั้งนี้เป็นโมฆะ หรือไม่ก็มีบรรจุในรัฐธรรมนูญไว้แล้วว่า การเลือกตั้งจะเป็นโมฆะก็ต่อเมื่อสมาชิกวุฒิสภาเหลือไม่ครบ 100 คน รวมถึงการเลื่อน สว. สำรองขึ้นมาแล้ว แต่ถ้ายังเกิน 100 คนอยู่ ยังสามารถเดินหน้าต่อได้

เมื่อถามว่า เชื่อมั่นในคำร้อง และหลักฐานที่จะให้ศาลพิจารณาหรือไม่ เนื่องจากตุลาการศาลรัฐธรรมนูญก็ถูกเชื่อมโยงกับ สว. เสียงข้างมาก นาวาตรีวุฒิพงษ์ กล่าวว่า การพิจารณาผ่านกระบวนการยุติธรรมเราเคารพอยู่แล้ว แต่ถ้าไม่ผ่านก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย เราไม่ได้มีอะไรที่ขัดแย้งส่วนตัว หากเขารอดได้ก็ดี ส่วนข้อหาที่แจ้งในคำร้อง คือ มาตรา 113 สมาชิกวุฒิสภาต้องไม่ยอมตนเองอยู่ภายใต้พรรคการเมือง แต่จากหลักฐานที่ กกต. และ DSI ร่วมกันตรวจสอบ และแจ้งข้อกล่าวหาชี้ชัดไปว่า สว. ที่ได้เข้ามา 138 คนนั้นมีความสัมพันธ์ และเกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ดังนั้นจึงเชื่อมั่นว่าหลักฐานที่ศาลจะเรียกมาจาก DSI และ กกต. น่าจะชัดเจน และหนักแน่นพอที่จะดำเนินการเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องในกระบวนการนี้

“แต่ถ้าปล่อยให้ไปถึงมีนาคมปีหน้า บุคลากรในองค์กรอิสระจะถูกคัดเลือกจาก สว. ที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหา และประชาชนก็จะต้องกังขาในผลการวินิจฉัยที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อป้องกันหายนะที่จะเกิดขึ้นจากนี้ไป จึงร้องขอต่อศาลให้ศาลมีคำสั่งให้ สว. เสียงข้างมากหยุดปฏิบัติหน้าที่โดยชั่วคราว จนกว่าคำวินิจฉัยของศาลจะออกมา” นางสาวนันทนา กล่าว

ทั้งนี้ นางสาวนันทนา ยังกล่าวอีกว่า ขณะนี้มีปฏิบัติการคลื่นใต้น้ำ และมีปฏิบัติการโทรล็อบบี้กันถึงเช้า หากทราบว่ามีใครอยู่ในรายชื่อก็จะโทรรังควานให้ถอนชื่อออก ตอนนี้จึงกังวลใจมาก จึงได้ย้ำว่าอยากให้ประธานวุฒิสภารับหนังสือ และส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญทันที และเมื่อหนังสือถึงศาลรัฐธรรมนูญแล้ว จะสามารถเปิดเผยรายชื่อได้ นี่เป็นปฏิบัติการทำลายล้างคนที่เห็นต่าง พร้อมยกตัวอย่าง นาวาตรีวุฒิพงษ์เกือบจะชกหน้ากัน แต่มี สว. คนอื่นมาขวางไว้ ส่วนตนเองก็โดนร้องเรียนเรื่องจริยธรรม ดังนั้นจึงต้องปกป้องรายชื่อที่ร่วมลงนามเพื่อส่งสารรัฐธรรมนูญให้ถึงที่สุด

Related Posts

Send this to a friend