‘จุลพันธ์’ ปัดใช้ดิจิทัลวอลเล็ตหวังผลทางการเมือง ย้ำเป็นนโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงข้อสังเกต และข้อสงสัยของสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 เพิ่มเติม กรอบวงเงิน 122,000 ล้านบาท ต่อที่ประชุมวุฒิสภา ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรให้ความเห็นชอบแล้ว
นายจุลพันธ์ กล่าวว่า รัฐบาลยืนยันว่างบประมาณดังกล่าวเป็นไปตามกรอบกฎหมาย และวินัยการเงินการคลัง ยอมรับว่ารัฐบาลจำเป็นจะต้องกู้หนี้เพิ่มเติมเพื่อเติมเงินใส่ในระบบเศรษฐกิจ และกระตุ้นเศรษฐกิจในการเดินหน้าโครงการ โดยกลไกที่รัฐบาลกำหนด เป็นกลไกลใหม่ ต่างจากอดีตที่แจกเป็นเงินสด เพราะอาจทำให้ประชาชนไม่ยอมใช้จ่าย ทำให้ไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้เต็มที่ แต่หากร้านค้า ต้องการจะขึ้นเป็นเงินสด ก็สามารถทำได้ในการหมุนรอบที่ 2 และเงินสดจะยังคงหมุนเวียนในระบบ มีผลระยะยาว
ขณะเดียวกัน กลไกนี้ไม่ใช่เพียงการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่เป็นการวางรากฐานดิจิทัลระยะยาวให้คนไทยพร้อมรองรับเศรษฐกิจดิจิทัล รวมถึงข้อมูลประชาชนต่าง ๆ จะเป็นประโยชน์ต่อภาครัฐในการกำหนดนโยบาย ย้ำว่าแอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ มีความปลอดภัยแน่นอน
นายจุลพันธ์ ย้ำด้วยว่า รัฐบาลวางกลไกไม่ให้เกิดการกระจุกตัวกับรายใหญ่ และกระจายตัว ง่ายต่อการใช้งาน สามารถซื้อของจากร้านสะดวกซื้อขนาดเล็ก วิสาหกิจชุมชนของประชาชนในท้องถิ่น รวมถึงร้านหาบเร่แผงลอยที่แม้ไม่เสียภาษีก็สามารถลงทะเบียนได้ แต่ไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ พร้อมยืนยันว่า รัฐบาลจะเปิดลงทะเบียนร้านค้าวันที่ 1 ตุลาคมนี้
ส่วนประชาชนที่ไม่มีสมาร์ตโฟนในการลงทะเบียน รัฐบาลจะเปิดลงทะเบียนวันที่ 16 กันยายน – 15 ตุลาคม 2567 โดยจะต้องลงทะเบียนผ่านหน่วยงานรัฐ และใช้บัตรประชาชนในการซื้อสินค้า ซึ่งอาจจะไม่สะดวก และมีความซับซ้อนกว่า
นายจุลพันธ์ ชี้แจงกรณีที่มี สว.ตั้งข้อสังเกตโครงการดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาลหวังผลการเมือง โดยยืนยันว่า โครงการนี้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัล ไม่เกี่ยวกับการเลือกตั้งที่ผ่านมา และเป็นสัญญาประชาคมที่รัฐบาลแถลงไว้ต่อรัฐสภา จึงจะต้องเดินหน้า ไม่มีความเป็นพรรคการเมือง เพราะทุกพรรคอยู่ร่วมกันในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ใช่นโยบายของพรรคใดพรรคหนึ่ง และยังมีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดนโยบายตามข้อห่วงใยของสังคมที่รัฐบาลพร้อมรับฟัง