‘วิษณุ’ ปัดตอบปม ‘พล.อ.ประยุทธ์’ แสดงความเห็นการเมือง
‘วิษณุ’ ปัดตอบปม ‘พล.อ.ประยุทธ์’ แสดงความเห็นการเมือง เชื่อรู้กรอบระเบียบวินัย ส่วนกระแสอยากให้กลับมานั่งตำแหน่งนายกฯ หากเกิดอุบัติการเมือง ถึงเวลาท่านคงไม่รับ
วันนี้ (6 ส.ค. 67) นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ตั้งคำถามถึงกรณีที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี เดินทางไปร่วมงานศพมารดาของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี โดยมีการพูดคุยเรื่องการเมืองกับนายยกรัฐมนตรีนั้นเหมาะสมหรือไม่ว่า ตนเองไม่ขอตอบ เพราะตนเองไม่รู้เรื่อง ไม่รู้ว่าใครแสดงความเห็นอะไรทางการเมือง
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่ามีการกล่าวอ้างว่าพลเอกประยุทธ์ ได้กำชับ สส.พรรครวมไทยสร้างชาติในเรื่องการทำงานร่วมกับรัฐบาล นายวิษณุ กล่าวว่าไม่ทราบ เป็นข่าวจริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้ ท่านพูดว่าอย่างไรก็ไม่ทราบ แล้วสื่อเอามาสรุปอีกทีว่าเป็นอย่างนี้ ท่านเป็นองคมนตรี ท่านก็รู้กรอบ ระเบียบ วินัย เพราะเขาอยู่กัน 19 คนก็อยู่กันได้ปกติ ภายใต้กฎระเบียบวินัย และ ภายใต้รัฐธรรมนูญ ไม่เป็นปัญหา แต่ผู้สื่อข่าวเองอาจจะเอามาสรุปว่าอย่างนั้น
เมื่อถามถึงกระแสที่อยากให้พลเอกประยุทธ์ กลับมา ขณะที่ยังคงเป็นองคมนตรี และเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ สามารถกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่ หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง นายวิษณุ กล่าวว่าไม่เชิงเป็นกระแส แต่เป็นการพูดกันไปมาเท่านั้นเอง บางคนอาจจะพูด อาจจะคิด เพราะชื่อของพลเอกประยุทธ์ยังเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอยู่ จะลาออกหรือจะถอนตัวก็ไม่ได้ จะสละอะไรขณะนี้ก็ยังไม่ได้ แต่เมื่อถึงเวลาหากถูกเรื่องขึ้นมาก็สามารถสละตำแหน่งที่สภาเขาเลือกได้
เมื่อถามต่อว่าถ้าถึงเวลาแล้วเลือกพลเอกประยุทธ์ สามารถไม่รับตำแหน่งได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า แน่นอน ก่อนจะมีใครเสนอชื่อคงต้องไปถามก่อน แล้วท่านก็คงจะปฏิเสธตั้งแต่ตอนนั้น ซึ่งตำแหน่งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจะสิ้นสุดต่อเมื่อหมดสมัยสภาฯ ซึ่งตามกฎหมายลาออกไม่ได้ พร้อมกับระบุว่า ก็คงต้องเป็นกระแส เพราะองคมนตรีคนอื่นไม่ได้เป็นกระแส เพราะไม่ได้เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
ส่วนกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ จะนัดวินิจฉัยคดีของนายกรัฐมนตรี เรื่องการแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 14 ส.ค.นี้ ซึ่งมีการวิเคราะห์ว่าผลพิจารณาอาจเป็นลบต่อนายกรัฐมนตรี หากเป็นเช่นนั้น ขั้นตอนจะเป็นอย่างไรว่า ประธานสภาผู้แทนราษฎรต้องเรียกประชุม เพื่อสรรหาผู้ที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ โดยระหว่างการสรรหา รัฐบาลชุดเดิมยังคงทำหน้าที่รักษาการอยู่












