‘พรรณธนู’ ผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคเพื่อไทย ร้อง กกต.นับคะแนนใหม่ หรือเลือกตั้งใหม่
วันนี้ (6 มิ.ย. 66) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายพรรณธนู วรรณกางซ้าย อดีตผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ เขต 7 พรรคเพื่อไทย ยื่นคำร้องต่อ กกต. พร้อมด้วยภาพถ่ายป้ายประกาศผลคะแนนเลือกตั้ง ส.ส.อย่างไม่เป็นทางการ ที่ปิดประกาศไว้บริเวณที่ว่าการอำเภอหนองกี่ ภาพที่บันทึกไว้ขณะเจ้าหน้าที่ขนหีบบัตรลงคะแนนที่สายรัดถูกเปิด ออกมาแถลง เพื่อเรียกร้องให้ กกต. นับคะแนนใหม่ หรือจัดการเลือกตั้งใหม่เฉพาะเขต 7 จ.บุรีรัมย์
นายพรรณธนู กล่าวว่า เมื่อทราบผลเลือกตั้งว่า ตนแพ้อยู่ 215 คะแนน จึงเข้าไปร้องเรียนต่อ กกต. จ.บุรีรัมย์ ให้นับคะแนนใหม่ และเมื่อไปแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรหนองกี่ ก็ได้พบว่า มีการนำส่งหีบบัตรเลือกตั้งล่าช้า เพราะบัตรเลือกตั้งถูกนับเสร็จตั้งแต่เวลาประมาณ 20.00-20.30 น. แต่หีบบัตรถึงสถานที่จัดเก็บนั่นคือที่ สภ.หนองกี่ เวลาประมาณ 02.00 น. รวมทั้งหีบบัตรเลือกตั้งของ อ.ปะคำ และ อ.โนนสุวรรณ นั้นมีสภาพไม่เรียบร้อย ไม่มีการใส่สายรัดกล่องระหว่างดำเนินการขนส่ง แต่กลับมารัดเมื่อหีบบัตรถึง สภ.หนองกี่ แล้ว
นายพรรณธนู กล่าวต่อว่า สิ่งที่น่าสงสัยคือ การประกาศผลคะแนนที่ประกาศเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ไม่มีการลงจำนวนยอดบัตรประสงค์ไม่เลือกผู้ใด ซึ่งความจริงข้อมูลทั้งหมดควรระบุ แต่เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ก็ได้มีการระบุจำนวนผู้ประสงค์ไม่เลือกผู้ใด 1,344 บัตร โดยต่อมาวันที่ 20 มิ.ย. ได้มีการแก้ไขข้อมูลใหม่ โดยระบุว่า มีผู้มาแสดงตนรวมทั้งสิ้น 86,864 คน แบ่งเป็นบัตรดีจำนวน 81,882 บัตร บัตรเสียจำนวน 3,916 บัตร และผู้ประสงค์ไม่เลือกผู้ใดทั้งสิ้น 1,065 บัตร โดยถ้านำบัตรดี และบัตรเสียมารวมกันจะเห็นว่าจำนวนบัตรมีทั้งหมด 86,863 บัตร ซึ่งมากกว่าผู้มาแสดงตน 1 บัตร ทั้งหมดมีมากกว่าผู้มาใช้สิทธิ 278 บัตร แต่เมื่อข่าวเริ่มดัง มีการแก้ไขจำนวนผู้ประสงค์ไม่เลือกผู้ใดในวันที่ 20 มิ.ย. จาก 1,344 บัตร เป็น 1,065 บัตร
นายพรรณธนู ระบุว่า เอกสาร ส.ส. 5/18 ที่ปิดประกาศไว้ไม่ตรงกับเอกสารที่เว็บไซต์ กกต. กลางประกาศไว้ เช่น มีการเขียนชื่อของ บุษดา มุดดางาม ผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์ไม่เหมือนกัน และการที่จะทำการแบบนี้มันไม่ถูกต้องทั้งการแกะหีบบัตรระหว่างขนส่ง โดยตนเองต้องการคำชี้แจงจาก กกต. และเรียกร้องให้นับคะแนนใหม่ หรือเลือกตั้งใหม่ เพราะการเลือกตั้งในเขตดังกล่าวไม่สุจริต ยุติธรรม