‘ทนายเดชา’ เชื่อ ’ทนายตั้ม‘ ปรากฏตัวที่กองปราบฯ เป็นสัญญาณพร้อมจะสู้คดี ไม่กลัว ‘สนธิ‘ ขู่แฉ

‘ทนายเดชา’ เชื่อ ’ทนายตั้ม‘ ปรากฏตัวที่กองปราบฯ เป็นสัญญาณพร้อมจะสู้คดี มอง สอบ ‘เจ๊อ้อย’ มาราธอน นานผิดปกติ เพราะพนักงานสอบสวน อาจไม่มั่นใจคำให้การ ไม่กลัว ‘สนธิ‘ ขู่แฉ บอก อยากแฉก็แฉเลย เพราะตนเองไม่ใช่ทนายสีเทา

วันนี้ (5 พ.ย. 67) เวลา 14:30 น. ที่สำนักงานทนายคลายทุกข์ นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน ที่ปรากฏตัวที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าหลอกเอาเงินจาก ‘เจ๊อ้อย‘ ว่า การที่นายษิทราออกมาปรากฏตัวก็แปลว่านายษิทรา มีความพร้อมที่จะต่อสู้คดี ซึ่งการที่นายษิทราออกมาปรากฏตัวเร็วกว่าที่หลาย ๆ คนคิดไว้นั้น เพราะมองว่า มีกระแสข่าวออกมาว่า จะมีการออกหมายจับนายษิทราภายในวันนี้ และนายษิทราอาจจะเห็น จึงทำให้นายษิทราออกมาปรากฏตัว

นายเดชา ระบุว่า นายษิทราเตรียมความพร้อมมานานแล้ว อย่างที่ตนเคยบอกไปก่อนหน้านี้ และนายษิทรา ก็ได้มีการเตรียมทีมทนายความไว้ต่อสู้คดี ซึ่งมองว่าถ้านายษิทรามีพยานหลักฐานที่ไม่เพียงพอ และถ้าคิดว่าตัวเองสู้ไม่ไหวก็น่าจะหลบหนีไปแล้ว และจากการแถลงข่าวของนายษิทราวันนี้ ค่อนข้างที่จะตอบคำถามครบถ้วนทุกประเด็นทั้งที่มาของเงิน 71 ล้านบาท รวมถึงที่มาของเงิน 39 ล้านบาท และกรณีรถหรู

ส่วนการให้สัมภาษณ์ของนายษิทราวันนี้ที่ดูเหมือนมีท่าทียังไม่อยากตอบคำถามที่กระทบกระเทือนจิตใจเจ๊อ้อยอยู่นั้น นายเดชา มองว่า ตอนนี้สถานะของนายษิทราเองก็เหมือนตกเป็นสถานะผู้ต้องหา เวลาจะตอบคำถามอะไรก็ควรจะต้องระมัดระวังคำพูด

ส่วนแนวทางของคดีหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร นายเดชา ระบุว่า อยู่ที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจะมีการออกหมายจับหรือไม่ ถ้าหากดูการให้สัมภาษณ์ของนายษิทรา ก็จะเห็นได้ว่านายษิทราปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ส่วนจะมีการออกหมายจับอยู่หรือไม่ ส่วนตัวมองว่า พนักงานสอบสวนน่าจะมีการออกหมายเรียก หรือไม่ก็หมายจับเนื่องจากคดีนี้เป็นคดีอาญา แต่การที่นายษิทรามาปรากฏตัว ศาลอาจจะไม่ออกหมายจับก็ได้ ซึ่งเป็นความเชื่อส่วนตัวของตนเอง

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีการสอบปากคำเจ๊อ้อยมาราธอนอยู่หลายวันต่อเนื่องนั้น นายเดชา กล่าวว่าการที่สอบปากคำนานขนาดนี้ แสดงว่าการให้การในเรื่องเดียวกันนั้น เจ๊อ้อยให้ปากคำไม่อยู่กับร่องกับรอย และเชื่อว่าพนักงานสอบสวนเกิดความไม่มั่นใจ จึงต้องสอบปากคำนานกว่าปกติ เพราะตามปกติแล้วในคดีฉ้อโกงจะใช้การสอบปากคำเพียงแค่ 2-3 ชั่วโมงก็น่าจะรู้ผลแล้ว เชื่อว่าการสอบปากคำที่นานขนาดนี้น่าจะต้องมีอะไรที่มีปัญหา

นายเดชา กล่าวต่อว่าอยากให้กลับไปดูที่จุดเริ่มต้นของคดี 71 ล้านบาท มองว่าเจ๊อ้อยจะต้องชี้แจงให้ชัดเจนว่า เงิน 71 ล้านบาท ว่าตอนที่ไปทวงกันเรื่องอะไรยื่นโนติสเรื่องอะไร สรุปแล้วเป็นเรื่องอะไรกันแน่อีกทั้งยังมีการรวบรวมพยานหลักฐานในคดีฉ้อโกงที่มีการรวบรวมมากมายขนาดนี้แสดงว่าพยานหลักฐานที่มีอยู่นั้นไม่เพียงพอ และไม่ชัดเจน

เมื่อถามว่า เงิน 71 ล้านบาทนั้นจะให้โดยเสน่หาหรือไม่ นายเดชา กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ตอบได้ยากว่าเงินจำนวนดังกล่าวให้จากสาเหตุอะไร เพราะเป็นเงินที่มีเป็นจำนวนมากและให้หลายครั้ง ซึ่งนายษิทรา มองว่าเรื่องของตนเองไม่เข้าข่ายการฉ้อโกงอย่างแน่นอน และวันนี้นายษิทราก็ขยายความว่าเป็นการให้เงินโดยไม่มีข้อผูกมัดที่ ไม่ต้องใช้คืน ดังนั้นหากผู้เสียหายมีเอกสารหลักฐานว่านายษิทราต้องใช้เงินคืนก็ต้องเอามาแสดง

ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่ามีการอุ้มเลขาเบียร์ ไปสอบปากคำ นายเดชา มีข้อมูลว่า เลขาเบียร์เป็นคนสนิทของนายษิทรา และรู้ข้อมูลหลายอย่าง แต่มองว่าไม่น่าจะซัดทอดมาถึงนายษิทรา ส่วนจะเข้าข่ายฉ้อโกงเป็นปกติธุระหรือไม่ ส่วนตัวมองว่า ข้อหานี้ไม่น่าจะเข้า ยกเว้นว่าจะหลอกลวงไปหลายคน จึงทำให้มีองค์ประกอบ การกระทำความผิดที่ยังไม่ครบถ้วน

ส่วนจะทำเป็นขบวนการหรือไม่ นายเดชาก็จะต้องดูว่ามีพยานหลักฐานที่ครบถ้วนหรือไม่ และส่วนตัวทนายเดชามองว่า หมายจับน่าจะมี นายษิทรา ภรรยา พี่ภรรยาของนายษิทรา และบุคคลอื่นๆ ที่เส้นทางการเงินไปถึงกัน

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า คดีนี้อาจจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรือไม่ ถ้าหากไม่มีมูลความจริง นายเดชา กล่าวว่า ก็เป็นไปได้ต้องรอดูฝั่งนายษิทรา ว่าจะให้การหักล้างกับผู้กล่าวหาได้หรือไม่ ส่วนเหตุการณ์ครั้งนี้ เกิดขึ้นเพราะมีคนสั่ง มีใบสั่งมาถึงนายษิทราหรือไม่ นายเดชา มองว่า นายษิทราก็เป็นคนที่มีศัตรูเยอะ และไปร้องเรียนเรื่องต่าง ๆ มากมาย จึงทำให้นายษิทราอาจจะมีความเชื่อว่า เป็นการเช็คบิลล้างแค้น

ส่วนกรณีที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล ออกมาบอกว่า จะมีการแฉนายเดชาหลังออกมาพูดในลักษณะที่อยู่ฝั่งเดียวกับนายษิทรานั้น นายเดชา กล่าวว่า อยากแฉก็เชิญเลย เพราะรออยู่ ตนเองไม่มีเรื่องอะไรให้แฉนอกจากเป็นทนายขี้เมาไลฟ์สด ส่วนประเด็นทนายสีเทา หรือการตบทรัพย์ตนเองก็ไม่มี