POLITICS

‘ก้าวไกล’ เปิดนโยบาย ‘สวัสดิการก้าวหน้า’ ดูแลตั้งแต่เกิดจนตาย

‘ก้าวไกล’ เปิดนโยบาย ‘สวัสดิการก้าวหน้า’ ดูแลตั้งแต่เกิดจนตาย ลดเหลื่อมล้ำ-รองรับคนทุกกลุ่ม

วันนี้ (5 พ.ย. 65) พรรคก้าวไกล เปิดตัวนโยบาย ‘สวัสดิการก้าวหน้า ตั้งแต่เกิดจนตาย ทำได้จริง’ ณศูนย์พัฒนาเด็กก่อนเกณฑ์ ในวัดลาดพร้าว นำโดย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารนโยบายพรรคก้าวไกล ตลอดจน ส.ส. และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรคก้าวไกล

นายพิธา เปิดงานแถลงนโยบายชุดที่สอง “สวัสดิการไทยก้าวหน้า” โดยกล่าวว่า ชุดนโยบาย “สวัสดิการไทยก้าวหน้า” เป็นหนึ่งใน 9 ชุดนโยบายของพรรคก้าวไกล เสมือนจิ๊กซอว์ตัวหนึ่งที่ต้องนำมาต่อกับชิ้นอื่นๆ จึงจะกลายเป็นภาพประเทศไทยก้าวหน้าที่สมบูรณ์ จะขาดชิ้นใดชิ้นหนึ่งไม่ได้

ทั้งนี้ สวัสดิการก้าวหน้ามุ่งพัฒนารัฐสวัสดิการที่จะครอบคลุมทุกช่วงของชีวิตนับตั้งแต่เกิด-เติบโต-ทำงาน-สูงวัย นโยบายสวัสดิการของเรา เชื่อในการที่คนไทยพร้อมช่วยเหลือกันในยามลำบาก การเฉลี่ยทุกข์เฉลี่ยสุข เพียงแต่ที่ผ่านมายังขาดการออกแบบอย่างเป็นระบบ

นโยบายสวัสดิการของพรรคก้าวไกลจะสร้างประเทศที่ “เป็นธรรม” โดยการลดความเหลื่อมล้ำที่ถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น สร้างประเทศที่ “ปลอดภัย” สำหรับทุกคนโดยการวางตาข่ายรองรับคุณภาพชีวิตและโอกาสที่เท่าเทียมกันของประชาชน และสร้างประเทศที่ “ปลดปล่อย” ศักยภาพของคนไทยเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจไปข้างหน้า คนรุ่นใหม่จะกล้าเสี่ยงสร้างธุรกิจหรือไล่ตามความฝันของตัวเองมากขึ้น เพราะรู้ว่าถ้าพลาดไป ล้มแล้วยังลุกได้

“ในช่วงเวลาที่พรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล จะใช้โอกาสที่ประชาชนมองการคำว่าสวัสดิการ นิยามบริบทของสวัสดิการเปลี่ยนไป มาเป็นฐานรากให้ประชาชนในประเทศไทยอยู่ในระนาบเดียวกัน ให้ได้ลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างเศรษฐกิจให้โตไปพร้อมกัน” นายพิธา กล่าว

ด้าน นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร อดีตผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) และประธานคณะทำงานยุทธศาสตร์กรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกล เสนอนโยบายเกิดอย่างก้าวหน้า ให้ความสำคัญต่อวัยเด็ก เนื่องจากหากเด็กไม่เกิด ก็จะไม่มีการพัฒนาประเทศต่อไปในอนาคต

“เราไม่สามารถสร้างครอบครัวในอุดมคติให้กับเด็กๆทุกคนในประเทศนี้ได้ ดังนั้น รัฐบาลต้องทำนโยบายที่เปรียบตัวเองเป็นพ่อแม่ของเด็กทุกคนที่เกิดในประเทศนี้ โดยไม่เกี่ยงว่าครอบครัวของเด็กคนนั้นเป็นอย่างไร แม้กระทั่งเขามีครอบครัวหรือไม่ก็ตาม พ่อแม่ของเด็กทุกคนต้องเป็นรัฐบาล” นายวิโรจน์ กล่าว

นอกจากนี้ ยังมี ส.ส. และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ที่เปิดตัวนโยบายในด้านอื่น ๆ จำแนกตาม 5 ช่วงวัย และมีทั้งหมด 19 นโยบาย ได้แก่

วัยเกิด ประกอบด้วย
(1) ของขวัญแรกเกิด 3,000 บาท ให้พ่อ-แม่ซื้อสิ่งของจำเป็นในการเลี้ยงลูก
(2) เงินเด็กเล็กเดือนละ 1,200 บาท
(3) สิทธิลาคลอด 180 วัน พ่อแม่แบ่งกันได้
(4) ศูนย์ดูแลเด็กใกล้บ้านและที่ทำงาน

วัยเติบโต ประกอบด้วย
(5) เรียนฟรี อาหารฟรี มีรถรับส่ง
(6) คูปองเปิดโลก ให้เด็กและเยาวชนได้เรียนรู้นอกห้องเรียน
(7) ยกเลิกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มผ้าอนามัยและนำร่องแจกผ้าอนามัยฟรีในโรงเรียน

วัยทำงาน ประกอบด้วย
(8) ค่าแรงขั้นต่ำปรับขึ้นทุกปี เริ่มต้นวันละ 450 บาท รัฐช่วย SME 6 เดือนแรก
(9) สัญญาจ้างเป็นธรรม ทำงานไม่เกิน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
(10) แรงงานทุกกลุ่มตั้งสหภาพได้ สอดคล้องหลักการขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ
(11) ประกันสังคมถ้วนหน้า เจ็บป่วยได้เงินชดเชยและค่าเดินทางหาหมอ
(12) เรียนเสริมทักษะ-เปลี่ยนอาชีพ ฟรีไม่จำกัดผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์และคูปองเรียนเสริม

วัยสูงวัย ประกอบด้วย
(13) เงินผู้สูงวัยเดือนละ 3,000 บาท สร้างระบบดูแลผู้ป่วยติดเตียง
(14) ค่าทำศพถ้วนหน้า 10,000 บาท
ทุกอายุ ประกอบด้วย
(15) บ้านตั้งตัว 350,000 หลัง รัฐช่วยผ่อน-จ่ายค่าเช่า
(16) น้ำประปาดื่มได้ทุกพื้นที่
(17) เติมเงินให้ท้องถิ่น เพิ่มขนส่งสาธารณะ
(18) เน็ตฟรี 1 GB ต่อเดือน
(19) เงินคนพิการเดือนละ 3,000 บาท

ส่งท้ายด้วย นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล อธิบายถึงแหล่งที่มาของงบประมาณ 650,000 ล้านบาท ภายในปีงบประมาณ 2570 เพื่อสร้างระบบสวัสดิการตามข้อเสนอของพรรคก้าวไกล โดยถือเป็นความรับผิดชอบของพรรคที่ต้องแจกแจงที่มารายได้ทั้งหมดอย่างตรงไปตรงมากับประชาชน เพื่อยืนยันว่าสวัสดิการทั้งหมด “มีเงินจ่าย ทำได้จริง”

“เลือกตั้งครั้งที่แล้ว ส่งอนาคตใหม่เข้าสภาฯ เลือกตั้งคราวหน้า ส่งก้าวไกลเป็นรัฐบาล” นายวิโรจน์ กล่าว

Related Posts

Send this to a friend