’จตุพร‘ ซัดแรงนโยบายรัฐบาล ‘แพทองธาร’ อ้างประชาชน แต่ที่จริงผลประโยชน์ส่วนตัว

’จตุพร‘ ร่ายยาว ภาพรวมรัฐบาล ‘แพทองธาร’ ซัดแรงนโยบาย “เช่าที่ดิน 99 ปี – กาสิโนถูกกฎหมาย – ดิจิทัลวอลเล็ต” อ้างประชาชน แต่ที่จริงผลประโยชน์ส่วนตัว ชี้ จุดตาย ‘รัฐบาลอุ๊งอิ๊ง’ คือ สนามกอล์ฟอัลไพน์
วันนี้ (5 ต.ค. 67) นายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ในฐานะวิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีว่า รัฐบาลนี้จะล้มได้ จะจุดม็อบติดได้ ไม่ใช่แกนนำม็อบ แต่คือรัฐบาล ที่จะเป็นไม้ขีดไฟ เป็นน้ำมันเสียเอง เพราะที่ผ่านมา คนเข้าใจผิดคิดว่าม็อบจุดติดหรือไม่อยู่ที่แกนนำหรืออยู่ที่ประชาชน ไม่ใช่อยู่ที่รัฐบาล
ดังนั้นการอยู่หรือไป ของ น.ส.แพทองธาร อยู่ในกระบวนการขององค์กรอิสระ ไม่ว่าประเด็นเรื่องสนามกอล์ฟอัลไพน์ ที่ดูเหมือนจะรอดยากที่สุด เพราะที่ดินเป็นธรณีสงฆ์ ไม่สามารถซื้อขายได้ แม้จะบอกว่าไม่ได้ซื้อตรง เป็นการซื้อต่อมาอีกที แต่ก็กลายเป็นกรณีรับของโจร และมีการโอนหุ้นต่อให้แม่ไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งในคำวินิจฉัยของศาลฎีกาได้พิพากษาจำคุกอดีตปลัดกระทรวง ที่เคยเซ็นอนุญาตให้มีการซื้อขายไปถึง 2 ปี ซึ่งที่ดินตรงนี้จะต้องกลายเป็นของวัด เพราะเป็นที่ดินที่ได้รับบริจาคมาไม่สามารถที่จะนำไปทำเป็นสนามกอล์ฟหรือทำการซื้อขายได้ ฉะนั้น น.ส.แพทองธาร ก็ต้องอยู่ภายใต้กลไก ของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และศาลรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว
ส่วนประเด็นที่จะทำให้เรื่องนี้เดินเร็วขึ้น คือผลพวงจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญกรณีของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะการแต่งตั้งรัฐมนตรีนั้นเป็นมติพรรคเพื่อไทย ซึ่ง น.ส.แพทองธาร เป็นหัวหน้าพรรค เรื่องนี้อาจจะมีการสั่งให้ถูกหยุดปฏิบัติหน้าที่ได้โดยเร็ว
นอกจากนี้ อาจถูกดำเนินคดีทางอาญา เพราะผู้สมัคร อบจ.พรรคเพื่อไทยถูกใบเหลือง เนื่องจากจัดมหรสพ ซึ่งภายในงานก็มีแกนนำพรรคเพื่อไทยอยู่กันครบ ซึ่งนี่เป็นตัวชี้การอยู่หรือไปของ น.ส.แพทองธารในฐานะนายกรัฐมนตรี ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการออกมาขับไล่ของประชาชน
ส่วนเหตุผลที่ภาคประชาชนจะลงท้องถนนได้นั้น เพราะมีการขายแผ่นดิน 99 ปีให้กับต่างชาติ แม้จะมีการกล่าวอ้างว่าครบ 99 ปีแล้วจะคืนที่ดินให้กับกรมธนารักษ์ ไปสร้างบ้านให้กับคนจน
“ที่วัดคุณ ยังไม่เว้น 99 ปี คนพูดวันนี้ก็ตายแล้ว คนฟังก็ตายแล้ว ลูกคนพูดก็ตายแล้ว ลูกคนฟังก็ตายแล้ว สิ่งที่ประจักษ์ชัดยังโกหก ในอดีตทำไมให้ 30 ปี เพราะรู้ว่านี่กระทบต่อดินแดน ที่มาขยายเป็น 99 ปี ในอดีตทำไมถึงเอา 49% นี่มาขยายเป็น 75% ผลประโยชน์ส่วนตัวล้วนๆ” นายจตุพร กล่าว
นายจตุพร กล่าวอีกว่า ยังมีเรื่องบ่อนอีก รัฐบาลที่ผ่านมามีหน้าไหนบ้างที่กล้า นำเสนอนโยบายเร่งด่วน เรื่องการทำบ่อน ใช้ในนามแฝงเป็นเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ ดูตัวอย่าง Entertainment Complex ของประเทศจีน ที่เพิ่งสร้าง ทำไมไม่ใส่บ่อนเข้าไป นี่คือผลประโยชน์ส่วนตัวอีกเรื่อง
“ที่ทุเรศคือ บ่อน 8 แห่งแรกเข้า 5,000 บาทที่เหลือปีละ 1,000 บาท 8 แห่งเก็บเงินได้ 280,000 ล้านเท่านั้น เฉลี่ยต่อปี 9,300 ล้าน รายได้ท่องเที่ยวเข้าประเทศดีๆ ปีละกว่า 3จุดล้านล้าน 30 ปีได้ 90 กว่าล้านล้าน อาจจะทะลุ 100 ล้าน ขณะบอลได้เพียงแค่ 280,000 ล้านเท่านั้น มีการศึกษาว่าคนจะไปเล่น 4 ล้านเป็นคนไทย แล้ว 3 ล้านบาทต่างชาติ 1 ล้าน แต่ที่เลวร้ายมากกว่านั้นคือระบบบ่อนออนไลน์ เว็บไซต์ออนไลน์ วันนี้ มีกว่า 7 แสนเว็บ ซึ่งพวกนี้ถ่ายทอดสดจากบ่อนที่ต่างประเทศ ต่อไปก็มาถ่ายที่บ่อน 8 แห่งในประเทศไทย การพนันก็จะระบาดควบคุมอะไรไม่ได้ ถามว่าประเทศได้อะไรผลประโยชน์ส่วนตัวทั้งนั้น บนโต๊ะประเทศได้เท่านี้ ใต้โต๊ะแลกกับความเสียหาย และผลประโยชน์ส่วนตัว ของคุณๆ ทั้งนั้น” นายจตุพร กล่าว
นายจตุพร กล่าวด้วยว่า ยังมีการเจรจาผลประโยชน์เขตพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทยกัมพูชา นี่ขนาดเจรจาไม่จบสัมปทานขุดมายกให้ต่างชาติไปแล้วรัฐมนตรีพลังงานทำอะไรไม่ถูกอยู่ขณะนี้ และที่สำคัญที่สุดนำพาไปสู่การเสียดินแดนแม้แต่ตารางนิ้วเดียวก็เกิดเรื่องแล้ว ส่วนเรื่อง แลนด์บริดจ์ ถ้าสร้างท่าเรือ ระบบล้อระบบรางไม่ขัดข้อง แต่ถ้าเอาที่ 300,000 ไร่ แถมไปกับ 99 ปี เกิดเรื่องแน่ แต่เมื่อถามว่ารัฐบาลเพิ่งเข้ามาทำไมไม่ให้โอกาสเขาก่อน แสดงว่ารัฐบาลที่จะเข้ามาเป็นรัฐบาลสามารถหลอกลวงประชาชนในการหาเสียงเบื้องต้น พูดอย่างไม่จับมือกับใครจุดเด่นทางการเมืองอย่างไร นโยบายเป็นอย่างไรไม่ต้องปฏิบัติตาม
“พอมาเป็นรัฐบาลคนไทยก็ให้โอกาส แล้วจะให้โอกาสไปขายแผ่นดิน ไปทำบ่อน แล้วก็บอกว่าเขาเพิ่งเข้ามาประชาชนออกไป เดี๋ยวทหารจะออกมา แล้วถ้าขายแผ่นดินทหารไม่ทำอะไรเลย ทหารก็เฮงซวย ถ้ารอประชาชนก่อน วันนี้คุณหยุดประชาชนได้คุณก็อย่าไปจุดม็อบเสียเอง ก็คุณอย่าไปขายแผ่นดิน 99 ปี คุณอย่าไปทำบ่อน คุณอย่าทำให้ประเทศเสียประโยชน์ เสียดินแดน รวมกระทั่งการทำลายระบบเงินตรา” นายจตุพร กล่าว
นายจตุพร ยังกล่าวอีกว่า วันนี้แจกเป็นเงินสด พูดว่าดิจิทัลจะเอายังไง ฉะนั้น ประเด็นสำคัญคือ การทำลายระบบเงินตราการซื้อขาย คอนโดและที่ดิน ผ่านระบบเงินดิจิทัล คนใกล้ชิดผู้มีอำนาจไปจดทะเบียนบริษัทที่เกี่ยวข้องกับเงินดิจิทัล คนในอดีตก็ไปจดทะเบียนที่ฮ่องกง ที่เกี่ยวข้องกับเงินดิจิทัล แล้วประเทศคืออะไร เรื่องทั้งหมดเขาเข้ามา เมื่อทำประโยชน์ให้กับชาติบ้านเมืองหรือเปล่า เรื่องที่ทำทั้งหมดฟื้นเศรษฐกิจ หรือการทำลายชาติ การขายชาติ
“พอประชาชนจะออกก็บอกว่าไม่เห็นแก่ ความสงบ ออกมาป่วน แล้วคนที่ยืนให้เขาขายชาติตาปริบๆ คุณจะว่าอย่างไร เหมือนกับบอกว่าคนที่ออกมาคือพวกรับจ้างขวางรัฐบาลเขา ขวางการขายชาติขายแผ่นดิน แล้วคนที่สนับสนุนการขายชาติขายแผ่นดิน เป็นคนที่ทำตัวเสียสละเพื่อชาติ เพื่อแผ่นดิน “ นายจตุพร กล่าว
นายจตุพร ยังกล่าวต่อว่า วันนี้การอยู่หรือไปของนางสาวแพทองธาร คือกรณีสนามกอล์ฟอัลไพน์และคุณสมบัติต้องห้ามอย่างอื่น นี่คือการอยู่เรือไปเหมือนกรณีนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่มีการโยกย้ายถวิลเปลี่ยนสี
“การที่ประชาชนออกท้องถนนไปขวาง ถ้าวันหนึ่งเดินไปถึง การขายแผ่นดิน 99 ปี การทำบ่อน ประชาชนต้องออกไปขวางเพราะเท่ากับ รัฐบาลเป็นผู้จุดม็อบเอง ไม่มีแกนนำหน้าไหนประชาชนหน้าไหนในประวัติศาสตร์ ที่จะจุดม็อบติด คนจุดม็อบติดคือรัฐบาล ไม่ว่าตัวนายกรัฐมนตรีหรือพ่อของนายกรัฐมนตรีก็ตาม” นายจตุพรกล่าว
เมื่อถามว่าหากใช้กลไกองค์กรอิสระ อาจจะใช้เวลาค่อนข้างนาน จะทำให้คนต้องลงถนนก่อนหรือไม่ นายจตุพร กล่าวว่า มันเป็นรอยต่อ เพราะในบางเรื่องทาง กกต. ก็ทำหน้าที่เหมือนไปรษณีย์ ไม่มีหน้าที่วินิจฉัย นายทะเบียนพรรคการเมืองมีหน้าที่ส่งเรื่องไปศาลรัฐธรรมนูญ ถึงมือประชาชนถ้าวันนี้ต่างคนต่างทำหน้าที่ก็ไม่ถึงมือประชาชน ใครจะอยากลงถนน แต่เราเห็นว่าถ้ามีการขายชาติ ต้องเสียดินแดนถึง 99 ปี รวมถึงทำบ่อนการพนัน เราก็ยอมไม่ได้ เพราะฉะนั้น หนทางข้างหน้าตัว นายกรัฐมนตรีหรือพ่อนายกรัฐมนตรีที่เงียบหายไปหลายวันคือผู้จุดม็อบ ไม่ใช่ประชาชน
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ น.ส.แพทองธาร ได้รับกระแสนิยมเป็นอันดับ 1 ของนิด้าโพลรายไตรมาส และติด 1 ใน 100 อันดับ ผู้นำที่ทรงอิทธิพลแห่งอนาคตของนิตยสารไทม์ จะทำให้คนลืมเรื่องไม่ดีหรือไม่ นายจตุพร ถามกลับสื่อมวลชนทันทีว่า ยังไม่เข้าใจอีกหรือ ว่าใครที่ติดอันดับนิตยสารไทม์ หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น พร้อมยกตัวอย่าง 3 รายก่อนหน้า ได้แก่ ปี 2019 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ หลังจากนั้นก็ถูกยุบพรรคตัดสิทธิ์ทางการเมือง และถูกดำเนินคดี ม.112 เรื่องวัคซีน, ต่อมาปี 2021 นายอานนท์ นำภา ตอนนี้อยู่ที่ไหน, คนที่ 3 ปี 2023 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล วันนี้ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 10 ปี และกำลังถูกดำเนินคดีจาก ป.ป.ช. เรื่องจริยธรรม อาจถูกตัดสิทธิ์ตลอดชีวิต
“ผู้ที่ได้รับรางวัลทรงอิทธิพลแห่งอนาคตทั้ง 3 คน หลังจากนั้นไม่เหลือในปัจจุบัน แล้วคุณอุ๊งอิ๊งภาคภูมิใจอะไรนักหนา คุณก็คือคิวต่อไป” นายจตุพร กล่าว
นายจตุพร กล่าวต่อว่า ต่อมาโพลนิด้า ก่อนที่นางสาวแพทองธารได้ ใครได้อันดับ 1 มาก่อน นั่นคือนายพิธา แล้วตอนนี้นายพิธาอยู่ไหน ต้องเขียนจดหมายจากฮาเวิร์ด แล้วนางสาวแพทองธารจะเขียนจดหมายจากไหนมายังประเทศไทย เห็นอยู่แล้วว่าเป็นบันไดเข้าสู่ลานประหาร เมื่อเป็นที่ 1 แล้วก็ถูกจัดการหมด ยังไม่เข้าใจอีกหรือว่าเกิดอะไรขึ้น ก็ขอให้มีความดีใจ เพราะดีใจกันมาทุกคน หลังจากนั้น ผลลัพธ์เป็นอย่างไร ถ้าในทางการแพทย์เขาเรียกว่ามะเร็งระยะสุดท้าย ร่างกายจะสวยงาม เปล่งปลั่งเสมอ