POLITICS

ก้าวไกลใจดี! ยกเก้าอี้ประธาน กมธ. ให้พรรคอื่นเป็นก่อนแล้วรอสลับ 2 ตำแหน่ง

‘ชัยธวัช’ ชี้ ไม่กลัวถูกหลอก ยก กมธ.อว.ให้ไทยสร้างไทย- กมธ.ศาลฯ ให้ รทสช. แลก กมธ.ที่ดิน-เกษตร แล้วให้เก้าอี้ พปชร.เพิ่มอีก 1 ตำแหน่ง คนในไม่พอใจ ดีลไปมาเหลือ 8 ที่นั่ง ไม่มีหลักประกันจะได้คืน ‘ปิยบุตร’ ถาม เกิดอะไรขึ้น?

วันนี้ (5 ต.ค. 66) นายชัยธวัช ตุลาธน สส.แบบบัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการสามัญ สภาผู้แทนราษฎร ของพรรคก้าวไกล ที่สรุปแล้วได้มาเพียง 8 เก้าอี้ จากโควต้า 10 เก้าอี้ในตอนแรก โดยระบุว่า มีบางคณะที่เราได้ตกลงกับพรรคการเมืองอื่นว่าจะผลัดกันเป็นประธานคณะกรรมาธิการคนละครึ่ง เป็นหนึ่งในเงื่อนไขการเจรจาต่อรองว่าพรรคไหนจะได้กรรมาธิการชุดใด ซึ่งมีในลักษณะนี้อยู่ 1 คณะ และอีกคณะหนึ่งในฐานะพรรคแกนนำฝ่ายค้านได้แบ่งเก้าอี้ประธานคณะกรรมาธิการอีกจำนวนหนึ่งให้กับพรรคร่วมฝ่ายค้านที่ไม่มีจำนวน สส.มากพอ แบ่งการทำงานอาจจะสลับกันคนละสมัยประชุม เพื่อทำให้บรรยากาศการทำงานร่วมกันเป็นไปได้ด้วยดี

ผู้สื่อข่าว The Reporters ถามย้ำว่าเก้าอี้ประธานกรรมาธิการที่ได้แบ่งให้พรรคร่วมฝ่ายค้านคือกรรมาธิการชุดใด แล้วได้คุยกับคนในพรรคก้าวไกลแล้วหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าในห้องประชุม กมธ. มีข้อขัดข้องใดหรือไม่ แต่ได้ชี้แจงตามที่ได้ประชุมกับ สส.ก้าวไกลทั้งหมดแล้ว หลังจากตัวแทนวิปและตนได้คุยกับพรรคการเมืองอื่นจนเป็นที่ยุติแล้ว

ผู้สื่อข่าว The Reporters จึงบอกว่าเป็นคณะกรรมาธิการการอุดมศึกษาฯ ที่เดิมวางตัว นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง เป็นประธาน นายชัยธวัช จึงตอบว่า เป็นชุดที่เราแบ่งกับพรรคไทยสร้างไทย เพราะพรรคไทยสร้างไทยมี สส.แค่ 6 ท่าน คำนวณแล้วไม่ได้ตำแหน่งประธานกรรมาธิการเลย เป็นตัวอย่างที่เราคิดว่าเราเป็นเพื่อนพรรคร่วมฝ่ายค้านด้วยกัน พรรคก้าวไกลเป็นพรรคหลัก ก็ควรสลับกันทำหน้าที่ประธานฯ ส่วนในชุด กมธ.ศาลฯ ก็ได้แบ่งครึ่งเป็นประธานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ

นอกจากนี้ ยังมีอีก 1 คณะที่พรรคก้าวไกลได้ตกลงกับพรรคพลังประชารัฐไว้ คือในตอนแรกเราอยากได้ กมธ.ตรงกัน 2 คณะ คือ กมธ.เกษตร และ กมธ.ที่ดิน จึงได้คุยกับแกนนำ พปชร. ขอถอยคนละครึ่ง เลือกกันคนละคณะ ตอนแรกเราได้เป็นประธาน กมธ.ที่ดิน และ พปชร. เป็นประธาน กมธ.เกษตรฯ ด้วย แต่ภายหลังพรรค พปชร.มาเสนอใหม่ว่าไหนๆได้ที่ดินแล้ว เอาเกษตรไปด้วยแล้วกัน และพรรค พปชร.ยินดีทำหน้าที่ประธาน กมธ.ชุดไหนก็ได้ที่ไม่มีใครเลือก แต่ขอโควต้าประธาน กมธ.เพิ่มจากก้าวไกลไปอีก 1 จากเดิมมี 3 ที่นั่งก็กลายเป็น 4 ที่นั่ง ทีมเจรจาของพรรคก้าวไกลจึงเห็นว่าเพื่อให้เรื่องยุติจึงยอมรับเงื่อนไขนี้ เพราะ กมธ.เกษตรฯ มีประโยชน์ในการทำงานกับประชาชนมาก

ส่วนรูปแบบที่ให้พรรคอื่นเป็นประธานก่อน ไม่มีผลทางกฎหมายว่าผู้นั้นจะต้องลาออกเพื่อเปิดทางให้คนพรรคก้าวไกลในอนาคต จะมั่นใจได้อย่างไรว่าจะไม่โดนหลอก นายชัยธวัช เชื่อว่า ที่ตกลงกันไว้จะเป็นไปตามนั้น เพราะมิฉะนั้นจะทำให้บรรยากาศในการทำงานของคณะกรรมาธิการเป็นไปด้วยความยากลำบาก ไม่ว่าประธานกรรมาธิการจะมาจากพรรคการเมืองใด ก็ต้องการความร่วมมือจากกรรมาธิการทุกคน

ทั้งนี้ ในกรณีดังกล่าว นายปิยบุตร แสงกนกกุล ได้ออกมาทวีตถึงว่า “มีเพื่อน ส.ส.จากพรรคก้าวไกลหลายคนบอกผมมาว่า พรรคก้าวไกลได้ประธานกรรมาธิการสามัญ 8 คน 8 คณะ ทั้งๆที่คำนวณสัดส่วนตาม ส.ส.151 คน ต้องได้ประธาน 11 คน 11 คณะ 3 คน 3 คณะ ที่หายไป กลายเป็นสัดส่วนของพรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคไทยสร้างไทย เกิดอะไรขึ้น???”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีดังกล่าว สร้างความไม่พอใจให้กับ สส.พรรคก้าวไกลบางส่วน ที่รู้สึกว่ากำลังถูกเอาเปรียบ เหลือเก้าอี้ประธาน กมธ.ในมือเพียง 8 คณะจากจำนวนที่พึงได้ 11 คณะ โดยกรณีของ กมธ.อว. ที่ นพ.วาโย เคยถูกวางตัวให้เป็นประธานแต่ถูกเปลี่ยนเป็นคนจากพรรคไทยสร้างไทย และใน กมธ.ศาล ที่วางตัว นส.เบญจา แสงจันทร์ ว่าที่ประธาน กมธ.ที่เป็นเพศหญิงคนเดียวของพรรคก้าวไกล เป็นประธานไว้ก็ไม่ได้ตามที่คิด กลายเป็นคนจากพรรครวมไทยสร้างชาติก่อน หากในอนาคตไม่มีใครถอย ลาออกให้ก้าวไกลขึ้นประธานแทน ก็จะเสียโอกาสที่พึงได้อีกแล้ว

Related Posts

Send this to a friend