โฆษกภูมิใจไทย ชี้วาระโหวตนายกฯ เป็นเรื่องด่วนตาม รธน. ยันไม่จำเป็นต้องตั้งองครักษ์พิทักษ์ ‘อนุทิน’
วันนี้ (5 ก.ย. 68) น.ส. แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส. อุบลราชธานี และโฆษกพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยถึงการนัดประชุม สส. พรรค ก่อนเข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมีวาระสำคัญ คือ เรื่องด่วนการพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 159 ว่า เป็นการประชุมเพื่อพูดคุยเรื่องลำดับขั้นตอนในวาระเลือกนายกฯ รวมถึงการลงมติร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การรายงานและเปิดเผยข้อมูลการปล่อยและเคลื่อนย้ายสารมลพิษ พ.ศ. … หรือ กฎหมาย PRTR ที่ค้างจากการประชุมสภาฯ เมื่อวันที่ 3 ก.ย. ที่ผ่านมา และยังมีวาระการประชุมสภาฯ ที่เป็นวาระทั่วไปที่บรรจุล่วงหน้าไว้อยู่แล้ว
ทั้งนี้ การประชุมสภาฯ ในวันนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล สส. บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ไม่ได้กำชับอะไร สส. เป็นพิเศษ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าการทำงานในสภาของ สส. พรรคภูมิใจไทย ให้ความร่วมมือกับพรรคต่าง ๆ ในการพิจารณากฎหมายอยู่แล้ว ซึ่งอาจมีการกำชับเรื่องนี้มากขึ้น
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการขอเลื่อนวาระการเลือกนายกฯ ขึ้นมาพิจารณาก่อนใช่หรือไม่ น.ส. แนน บุณย์ธิดา กล่าวว่า สำหรับวันนี้การขอเลื่อนวาระเลือกนายกฯ ต้องมาคุยกันอีกทีถึงสถานการณ์หน้างาน เพราะเมื่อเปิดประชุมจะต้องพิจารณาลงมติเรื่องที่ค้างเมื่อวันที่ 3 ก.ย.
ส่วนจะมองวาระเลือกนายกฯ เป็นเรื่องเร่งด่วนหรือไม่ น.ส. แนน บุณย์ธิดา กล่าวว่า ตามรัฐธรรมนูญเขียนในคำสุดท้ายว่า “ให้เลือกโดยพลัน” จึงมองว่าเป็นวาระที่ต้องด่วนที่สุดในสภาด้วยซ้ำ
“แน่นอนว่าการประชุมสภาฯ วันนี้ ต้องเป็นช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งอยู่แล้วที่เราจะขอเข้าวาระในส่วนของการเลือกนายกฯ” น.ส. แนน บุณย์ธิดา กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า หากมีการอภิปรายเรื่องคุณสมบัติของนายอนุทิน จะต้องมีองครักษ์พิทักษ์นายอนุทินด้วยหรือไม่ โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า อย่าเรียกว่า เป็นองครักษ์เลย ไม่ถึงขั้นต้องใช้องครักษ์ หากดูการประชุมสภาฯ ครั้งก่อน ๆ มีแค่ตัวแทนแต่ละพรรคอภิปราย ซึ่งครั้งนี้ขึ้นอยู่กับประธานในที่ประชุมว่าจะวินิจฉัยในประเด็นต่าง ๆ อย่างไร
ส่วนเมื่อวานนี้ที่ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ระบุ จะให้พูดถึงเหตุผลถึงการเลือกนายอนุทินเป็นนายกฯ เท่านั้น แล้วจะไม่ให้มีการแฉกันภายในสภาฯ น.ส. แนน กล่าวว่า ต้องบอกว่านายอนุทินได้ให้สัมภาษณ์ในหลายที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม จะมาใช้คำว่าแฉก็คงไม่ใช่ หากใช้คำว่าแฉจะต้องเป็นเรื่องที่ไม่มีใครทราบมาก่อน และเรื่องบางเรื่องก็ได้ตอบในหลายที่แล้ว ไม่เคยมีปัญหาหรือความกังวลใด ๆ ในเรื่องที่มีการกล่าวถึงอยู่แล้ว และไม่ได้มองมุมไหน เพราะสิทธิ์ขาดในการวินิจฉัยเป็นเรื่องของประธานสภาฯ












