‘เศรษฐา’ ขอให้เชื่อมั่น รัฐบาลตั้งใจจริง มั่นใจพรรคร่วมฯ อยู่ร่วมกันอบอุ่น เพราะมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน

วันนี้ (5 ก.ย. 66) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมคณะรัฐมนตรี แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ว่า วันนี้ตนได้นำคณะรัฐมนตรีเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เพื่อถวายสัตย์ และปฏิญาณตนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดย ตนเองและคณะรัฐมนตรีจะน้อมนำพระกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาเป็นแนวทางในการปฏิบัติราชการต่อไป

“ผมขอยืนยันว่ารัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลของประชาชน และทุกท่านในที่นี้ มาที่นี่ มาเพื่อเป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชนทุกคน รัฐบาลนี้เรามีความตั้งใจ เพราะปัญหามีมากมาย เราจะทำงานอย่างลืมความเหน็ดเหนื่อยทุกวันทุกนาที เราจะเอาความต้องการของพี่น้องประชาชนทุกคนเป็นที่ตั้ง” นายเศรษฐากล่าว

นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า จะเริ่มจากวันศุกร์นี้ โดยจะไปลงพื้นที่ที่จังหวัดขอนแก่น อุดรธานี และหนองคายเพื่อพูดคุยรับทราบปัญหาของพี่น้องประชาชนทุกคน เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติต่อไป ส่วนในวันจันทร์หน้า เราจะมีการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา รัฐบาลนี้เราจะสร้างความชอบธรรมในการบริหารราชการแผ่นดินในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ด้วยการฟื้นฟูหลักนิติกรรมที่เข้มแข็งมีประสิทธิภาพ โปร่งใส ภายใต้หลักการที่มีส่วนร่วมของประชาชน รัฐบาลจะสร้างโอกาสความเท่าเทียมให้กับประชาชน เพื่อประเทศไทยเปลี่ยนผ่านไปสู่ความมั่นคง มั่นคั่ง และยั่งยืนในอนาคต

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการประชุม ครม. นัดพิเศษหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า การประชุม ครม. นัดพิเศษ จะมีเรื่องเดียว คือเรื่องการพูดคุยกันเกี่ยวกับการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในอาทิตย์หน้า

สำหรับเรื่องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ นายเศรษฐา ระบุว่า ปัญหาเศรษฐกิจเป็นเรื่องสำคัญ รัฐบาลนี้ทุกท่านให้ความสำคัญ ขอไปพูดคุยกันเองในรัฐบาลก่อนในพรรคร่วมฯ เพราะหลายท่านเองก็อาจจะมีข้อคิดดีๆ จึงอยากจะขอรับฟังภายในก่อน และจะแจ้งให้ทราบ

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า จะใช้หลักอะไรในการบริหารรัฐบาลให้มีเอกภาพ เพราะมีหลายพรรคการเมือง นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนว่ารัฐมนตรีทุกท่านทราบถึงปัญหานี้ และคิดว่าคงไม่เป็นอุปสรรคใดๆ ในการบริหารจัดการราชการ “อะไรที่ทำได้ก่อน เราจะทำทันที” ส่วนปัญหาบางเรื่องก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับรัฐมนตรีทุกคนด้วย ตนเชื่อว่ารัฐมนตรีทุกท่านเข้าใจ และตระหนักดีถึงปัญหาของพี่น้องประชาชนในวันนี้ทุกๆ คน ฉะนั้นเรื่องการเร่งทำงาน หรือทำงานจนลืมความเหน็ดเหนื่อยไม่ใช่ประเด็น ขอโอกาสให้รัฐมนตรีทุกท่านได้ทำงานก่อน

สำหรับนโยบายใน 100 วันแรกจะมีเรื่องโครงการเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาทด้วยหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ยังไม่เคยบอกว่าภายใน 100 วัน แต่พยายามทำให้ได้โดยเร็วที่สุด คิดว่าไม่เกินไตรมาส 1 ปีหน้า และยังไงก็ทำ เป็นการจ่ายงวดเดียว

นายเศรษฐา ยังกล่าวอีกว่า เราเป็นรัฐบาลของประชาชน ซึ่งทุกท่านในที่นี้เข้าใจ ตระหนักดีถึงปัญหาที่เราเผชิญอยู่ในปัจจุบัน คงไม่มีการแบ่งพรรคแบ่งพวกแบ่งฝ่าย และเอาประโยชน์ของพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง

ในส่วนของการพูดคุยกับพวกผู้นำในต่างประเทศนั้น นายเศรษฐา ระบุว่า มีหลายๆ เรื่องที่พวกเราจะต้องไปพูดคุยกัน ในหลายๆเรื่องที่จะต้องไปเจอกับผู้นำในหลายประเทศ และนักธุรกิจ ตอนนี้พึ่งเริ่มเข้ามาเราจึงขอเตรียมงานก่อน

สำหรับเรื่องที่เกี่ยวกับการทำประชามติ ตั้ง สสร. แก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า ขอแถลงนโยบายในวันจันทร์หน้าก่อน และจะแจ้งให้ทราบเรามีรายละเอียดให้ดู ส่วนเรื่องจะมีรัฐในตรีคนใดดูเรื่องกฎหมายเป็นพิเศษหรือไม่ นายเศรษฐา ระบุว่า ก็จะต้องพูดคุยในการมอบหมายนโยบาย ที่จะต้องพูดคุยกัน เพราะเป็นรัฐบาลของประชาชน ไม่ใช่จะตัดสินใจทำอะไรก็ได้ ต้องถามความคิดเห็นของรัฐมนตรีทุกท่าน

“วันนี้เรื่องของปัญหาปากท้องเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดเรื่องนึง ที่ประเทศเรากำลังเผชิญอยู่ ทุกๆ วัน ผมมั่นใจว่ารัฐมนตรีทุกท่านจะทำงานอย่างหนัก จะพยายามเข็นนโยบายออกมาที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน บางอย่างทำได้เร็ว บางอย่างทำได้ช้า แต่จะไม่เอามาเป็นข้ออ้างในการที่จะไม่ทำทั้งหมดอะไรทำได้เร็วเราก็จะรีบทำก่อน” นายเศรษฐา กล่าว

ส่วนเรื่องที่นายเศรษฐาพูดระหว่างทานข้าวกับ 16 รัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ว่าถ้างานไหนทำไม่ได้ก็เปลี่ยนคน นายเศรษฐา ยืนยันว่า ไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น แต่หมายความว่า อะไรที่ทำได้ ก็ให้ทำไปก่อน อะไรที่ติดขัดอยู่บ้างก็ทำต่อไป แต่ไม่ใช่เหตุผลที่จะไม่ทำอะไรเลย

เมื่อถามว่า มีระยะเวลาฮันนีมูนให้กับ ครม.หรือไม่นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่มี ตั้งแต่เราเริ่มฟอร์มรัฐบาลชุดนี้มา เราก็ลงพื้นที่เก็บข้อมูลจากประชาชน เพียงแต่ว่ายังสั่งในการบริหารจัดการแผ่นดินไม่ได้ ซึ่งในวันที่ 8-9 ก.ย. จะลงพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูลและปัญหา จะต้องรอแถลงนโยบายรัฐบาลก่อนจึงจะสั่งการได้ ย้ำว่าไม่มีฮันนีมูน เริ่มงานทันที

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ถ้าพูดประโยคหนึ่งให้ประชาชนอยากจะพูดว่าอะไร นายเศรษฐา นิ่งคิดครู่หนึ่ง ก่อนกล่าวว่า “เป็นอะไรที่ยาก ถ้าจะต้องพูดประโยคเดียว ผมขอให้เชื่อมั่นในรัฐบาลนี้ว่าพวกเรามีความตั้งใจจริง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องความแตกแยกทางความคิด ถ้าเรื่องนี้รัฐบาลจะให้ความสำคัญเท่าเทียมกัน และพยายามเดินไปข้างหน้า รวมถึงจะพยายามจัดการปัญหาเหล่านี้ให้ได้โดยเร็วที่สุด”

เมื่อถามต่อว่า หวังว่าพรรคร่วมรัฐบาลที่อยู่ด้วยกันตรงนี้จะอบอุ่นตลอดไปในรัฐบาลชุดนี้ใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า มั่นใจ เรามีจุดมุ่งหมายเดียวกัน