POLITICS

กมธ.สาธารณสุข สว. ประณามการให้ร้ายบุคลากรทางการแพทย์ บั่นทอนขวัญกำลังใจ จนท.

กมธ.สาธารณสุข สว. หนุนโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ปรับระบบบริการสอดคล้องภาวะฉุกเฉิน ประณามการให้ร้ายบุคลากรทางการแพทย์ ชี้ ไม่เข้าใจข้อเท็จจริง บั่นทอนขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้เสียสละ

คณะกรรมาธิการสาธารณสุข วุฒิสภา นำโดย นายประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล ประธานคณะกรรมาธิการฯ แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์พื้นที่ชายแดนจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อการให้บริการสาธารณสุขของสถานพยาบาลในพื้นที่ รวมถึงความปลอดภัยและความเป็นอยู่ของประชาชนจำนวนมาก โดยคณะกรรมาธิการฯ แถลงข้อเท็จจริงและแสดงจุดยืนดังนี้

1.สถานการณ์ชายแดนกระทบรุนแรงต่อระบบบริการสุขภาพ คณะกรรมาธิการฯ ยืนยันว่า เหตุความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนจังหวัดอุบลราชธานี เป็นวิกฤตรุนแรงที่กระทบต่อความมั่นคงและระบบบริการสาธารณสุขโดยตรง สถานพยาบาลหลายแห่งเสียหายต้องหยุดให้บริการ ขณะที่ประชาชนจำนวนมากต้องอพยพเพื่อความปลอดภัย

โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ในฐานะโรงพยาบาลศูนย์ระดับเขตที่ดูแลประชาชนใน 5 จังหวัด ประกอบด้วย อุบลราชธานี ศรีสะเกษ ยโสธร อำนาจเจริญ และมุกดาหาร รวมทั้งศูนย์พักพิงหลายแห่ง จำเป็นต้องปรับระบบบริการให้สอดคล้องกับภาวะฉุกเฉินเพื่อดูแลผู้ป่วยทั้งชาวไทยและประเทศเพื่อนบ้านอย่างทั่วถึง โดยยึดหลักมนุษยธรรมและความปลอดภัยของผู้ป่วยเป็นสำคัญ

ทั้งนี้ ขอเรียกร้องให้ทุกภาคส่วนโดยเฉพาะรัฐ สื่อมวลชน และฝ่ายการเมือง ร่วมสนับสนุนและปกป้องผู้ปฏิบัติงานด่านหน้า ซึ่งกำลังเสียสละอย่างเต็มกำลัง เพื่อให้ระบบบริการสุขภาพในพื้นที่ชายแดนยังคงดำเนินต่อไปได้อย่างมั่นคง มีศักดิ์ศรี และไม่ถูกบั่นทอนด้วยความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน

2.การปรับระบบบริการของโรงพยาบาล เป็นไปตามหลักมนุษยธรรมและเพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วยทุกกลุ่ม ย้ำว่าการที่โรงพยาบาลต้องปรับลดบริการบางประเภทเป็นเพียงมาตรการชั่วคราวเพื่อจัดลำดับความสำคัญในการให้บริการในภาวะวิกฤต โดยยังคงเปิดให้บริการในส่วนที่จำเป็นอย่างเต็มกำลังและยังคงดูแลผู้ป่วยทุกเชื้อชาติอย่างเท่าเทียม

3.ขอประณามการให้ร้ายบุคลากรทางการแพทย์ และการบิดเบือนข้อมูล ซึ่งบั่นทอนขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้เสียสละ โดยปราศจากข้อเท็จจริงที่เป็นธรรมต่อโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์และบุคลากรทางการแพทย์ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ภายใต้สถานการณ์ยากลำบาก การบิดเบือนข้อเท็จจริงในช่วงเวลาที่เจ้าหน้าที่กำลังทำงานเพื่อปกป้องชีวิตของประชาชน ถือเป็นการกระทำที่ไร้ความรับผิดชอบและไม่สมควรอย่างยิ่ง

4.ขอเรียกร้องให้พรรคการเมืองบางพรรคหยุดใช้สถานการณ์วิกฤตเป็นเครื่องมือทางการเมือง ในช่วงเวลาที่ประเทศกำลังเผชิญกับภัยคุกคามต่อความมั่นคงและความปลอดภัยของประชาชน การที่พรรคการเมืองบางพรรคออกมาแสดงความเห็นในลักษณะให้ร้ายโรงพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์โดยไม่เข้าใจข้อเท็จจริงของสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง การแสดงความเห็นทางการเมืองในภาวะวิกฤตควรตั้งอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริง ความรับผิดชอบ และความเคารพต่อผู้ปฏิบัติงานด่านหน้า ไม่ใช่การฉวยโอกาสสร้างความเข้าใจผิดในสังคม

5.ขอยืนยันเจตนารมณ์ในการสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ ทหาร และประชาชนในพื้นที่ชายแดนทุกคนและขอยืนหยัดเคียงข้างให้กำลังใจแก่บุคลากรทางการแพทย์ ทหาร และประชาชนในพื้นที่ชายแดนที่ได้รับผลกระทบ พร้อมทั้งให้การสนับสนุนและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ระบบบริการสุขภาพยังคงดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง มีประสิทธิภาพและปลอดภัยสำหรับทุกชีวิตที่อยู่ในพื้นที่

Related Posts

Send this to a friend