สว.พันธุ์ใหม่ – อิสระ แจงสาเหตุวอลค์เอ้าท์ ยืนยัน ไม่ขอร่วมสังฆกรรมด้วย
วันนี้ (5 ส.ค. 67) ที่อาคารรัฐสภา แกนนำกลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่ และกลุ่ม สว.อิสระ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีวอล์คเอ้าท์จากห้องประชุมวุฒิสภา ระหว่างที่มีการลงคะแนนคัดเลือกคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบคุณสมบัติความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุด และศาลปกครองสูงสุด ภายหลังมีการถกเถียงกันในประชุมถึงวิธีการคัดเลือก เนื่องจากมีการเสนอชื่อ กมธ. รวมทั้งสิ้น 33 คน ซึ่งเป็นจำนวนเกินกว่าจำนวนที่กำหนด (15 คน)
รศ.ดร.นันทนา นันทวโรภาส สว. กล่าวว่า วันนี้มีวาระการตั้ง กมธ.พิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุด และศาลปกครองสูงสุด ซึ่งตามข้อบังคับกำหนดให้มี กมธ. 15 คน โดยตามหลักการทั่วไป จะมีการแบ่งสัดส่วนว่ากลุ่มไหนจะได้ตัวแทนเฉลี่ยเท่าไหร่ แต่ปรากฏว่า สว.กลุ่มที่แพ็คกันมาเป็นบ้านใหญ่ เสนอชื่อมาทั้งหมด 15 คนเต็มจำนวน กมธ. ไม่แบ่งให้กับ สว.ที่เป็นกลุ่มอิสระ ถือว่าเป็นการรวบรวมตัดตอน และเป็นการดำเนินการโดยที่ไม่สนใจ สว. เสียงข้างน้อย จึงมีความรู้สึกว่าไม่ใช่กลไกทางรัฐสภา แต่เป็นแบบเสียงข้างมากลากไป และไม่ให้ความเคารพแก่เสียงข้างน้อยเลย
นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว.เปิดเผยว่า การปฏิบัติงานในวุฒิสภาเกิดภาวะหยุดชะงัก เนื่องจากประธานวุฒิสภา และเสียงส่วนใหญ่ ได้ดำเนินการโดยการเอาเสียงข้างมากลากไป ทำให้เราเสียงส่วนน้อย ทักท้วง ขอให้มีการปรับรูปแบบเป็นจับสลาก เพื่อให้ทุกสัดส่วนเข้าไปเป็นกรรมาธิการ แต่ก็ไม่ยอม รวมถึงไม่เปิดโอกาสให้มีการแสดงวิสัยทัศน์อีกด้วย
นพ.เปรมศักดิ์ เห็นว่าประธานปล่อยให้เสียงข้างมากทำแบบนี้ จึงร่วมวอล์คเอ้าท์ จะไม่ขอร่วมสังฆกรรม เพื่อให้การประชุมวันนี้มีเสียงฝ่ายเดียวในการเลือก ให้ประชาชนได้รู้ว่ามีความไม่ยุติธรรมเกิดขึ้น เป็นรอยด่างของวุฒิสภาชุดนี้
”ผมจะไม่ยอมเป็นตรายางให้กับกระบวนการที่ไม่ยุติธรรมอย่างนี้ จึงขอให้ประธานฯ ทบทวน แต่ท่านกลับไม่ทบทวน เราจึงมีอาวุธเพียงอย่างเดียวคือการไม่ร่วมสังฆกรรม“ นพ.เปรมศักดิ์ กล่าว
นางอังคณา นีละไพจิตร สว. กล่าวเสริมว่า การวอล์คเอ้าท์วันนี้ ทุกคนพยายามอย่างที่สุดในการเสนอทางเลือกให้ภาคทุกส่วนได้มีส่วนร่วม เพราะหน้าที่สำคัญที่สุดของ สว. คือการเห็นชอบผู้จะไปดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ เพราะฉะนั้น เราได้ใช้ความพยายามทุกอย่างเพื่อขอมีส่วนร่วม รวมถึงที่ผ่านมาตามวิธีปฏิบัติต้องมีการหารือ พูดคุยกัน เราเคารพเสียงส่วนใหญ่ แต่เสียงส่วนใหญ่ต้องไม่ละเลยเสียงข้างน้อย และไม่ใช่การปิดกั้นโดยการเสนอมาเป็นแพ็คเกจ และสุดท้ายจะทำให้คนกลุ่มหนึ่งมีอำนาจในการออกแบบ โดยการได้มาซึ่งองค์กรอิสระอย่างไรก็ได้ และเราไม่มีโอกาสใดรับทราบ เราในฐานะที่เป็นเสียงข้างน้อย สิ่งที่ทำได้คือการไม่อยู่ร่วมในการเลือกคณะกรรมาธิการในวันนี้
อีกทั้ง ในการประชุมประธานฯ อ้างข้อบังคับในการประชุมตลอดว่าสมาชิกเสนอแล้ว และต้องมีคนรับรอง ถ้ามีมากกว่านี้ก็จะโหวต แต่การทำงานของนิติบัญญัติจะต้องยืดหยุ่น โอนอ่อน ผ่อนปรน ใช้หลักกฎหมายอย่างเดียวไม่ได้ เพราะ สว. ชุดนี้มาจากความหลากหลาย ถ้าไม่ยอมรับเสียงข้างน้อย ก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่เราจะอยู่รับรองกับความไม่เป็นธรรม
ส่วน สว. ที่วอล์คเอ้าท์ ออกในวันนี้ คาดว่ามีประมาณเกือบ 50 คน ซึ่งไม่ได้อยู่รวมในก้อนใหญ่ 150 คน โดยพวกเราทั้ง สว. พันธุ์ใหม่ และ สว. ประชาชน ก็รู้จักกันมานานอยู่ในวงการเดียวกันมีอุดมการณ์เดียวกัน
ด้าน น.ส.รัชนีกร ทองทิพย์ สว. กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นคนรุ่นใหม่เข้ามาทำหน้าที่ สว.ครั้งแรก ไม่ว่ากระบวนการสรรหาหรือการคัดเลือก สว.ที่ผ่านมา จะมีคำถามหรือข้อสงสัย และปัญหาที่สังคมคลางแคลงใจ แต่ความคาดหวังของตนเองที่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่แห่งนี้ จะเห็นประโยชน์แก่ประเทศชาติ หลักการ และเหตุผลเป็นหลัก ซึ่งไม่ได้คาดหวังว่าจะมีมีแนวโน้มที่จะไปในแนวทางเดิมคือการเป็นกลุ่มเป็นก้อนในการชักนำลงมติ
ขณะเดียวกัน วุฒิสมาชิกโดยหลักการแล้วเราเป็นอิสระ ไม่อิงกับกลุ่มก้อนการเมืองใด แต่สิ่งที่วุฒิสภาแสดงให้ตนเห็น คือการแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่า มีกลุ่ม มีก้อน และใหญ่มาก ทำให้ตนเองรู้สึกผิดหวังกับสมาชิกวุฒิสภาในวันนี้เป็นอย่างมาก
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าการวอล์คเอ้าท์ในครั้งนี้ ไม่ส่งผลต่อการลงมติในที่ประชุม หากปล่อยไว้ในอนาคตจะเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้อีกหรือไม่ รศ.ดร.นันทนา กล่าวว่า วิธีการวอล์คเอ้าท์ เป็นกระบวนการทางการเมืองที่แสดงให้เห็นถึงความไม่พอใจในระดับสูงสุดต่อการที่จะร่วมในกิจกรรมนั้นๆ หรือจะเรียกว่าอารยะขัดขืนก็ได้ เพราะเราไม่เห็นควรที่จะเข้าไปอยู่ในกระบวนการเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งขึ้นมา จึงนำไปสู่การวอล์คเอ้าท์ ที่จะแสดงเห็นว่า เราไม่เห็นด้วยกับการใช้กระบวนการพวกมากลากไป
ส่วนในอนาคตน่าจะเป็นสิ่งที่กลุ่มใหญ่ได้คิดว่าถ้าจะอยู่ร่วมกัน และใช้วิธีการรวบรัดแบบนี้ ก็จะทำให้ประชาชนมีความรู้สึกว่าวุฒิสภาแห่งนี้จะกลับไปเป็นวุฒิสภาแบบเดิม ที่ใช้เสียงข้างมากและไม่สนใจ หรือยึดโยงกับเสียงของประชาชน การที่เราวอล์คเอ้าท์แบบนี้ จะทำให้กลุ่มใหญ่ได้ตระหนักว่า การกระทำของพวกเขาจะไม่ถูกยอมรับกับกลุ่ม สว.อิสระ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าการกระทำในลักษณะนี้จะนำไปสู่เผด็จการวุฒิสภาหรือไม่ รศ.ดร.นันทนา หัวเราะ พร้อมกล่าวว่า ณ วันนี้ก็เป็นแล้ว
นางอังคณา กล่าวเสริมว่า หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงมันก็จะกลับไปเป็นแบบเดิมได้ ซึ่งการวอล์คเอ้าท์วันนี้เราก็ต้องขอโทษประชาชน เราพยายามอย่างเต็มที่แล้ว หากยังนั่งอยู่ต่อไปก็ไม่ได้เกิดประโยชน์ และจะเป็นการรับรองความชอบธรรมให้กับสิ่งที่เราไม่เห็นด้วยเราก็ใช้วิถีทางสันติวิธี และพรุ่งนี้ก็กลับมาทำงานต่อ
นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวต่อว่า จริงๆ แล้ว เผด็จการวุฒิสภาเป็นมาตั้งแต่การเลือกระดับประเทศ เพราะตอนแรกตนคิดว่าน่าจะเป็นแค่กระบวนการที่อยากเอาชนะทางการเมือง แต่ไม่คิดว่าจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นว่า ไม่รู้ว่าวุฒิสภานี้เป็นของใคร