POLITICS

‘ประชาธิปัตย์’ เดินหน้าประชุมใหญ่เลือก หน.-กก.บห.ชุดใหม่ พรุ่งนี้ต่อ

แม้มีเสียงท้วงติง ‘ราเมศ’ ยันข้อบังคับพรรคไม่ขัด กม.พร้อมรับฟังความเห็นสมาชิก เพราะเป็นพรรคประชาธิปไตย ไม่เหมือนบางพรรคที่มีคนสั่งการ

วันนี้ (5 ส.ค.66) นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่าในวันพรุ่งนี้ (6 ส.ค.66) พรรคประชาธิปัตย์จะมีการประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ 2 ประจำปี 2566 ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ โดยมีวาระสำคัญคือการเลือกตั้งคณะกรรมการพรรคชุดใหม่ และการเลือกตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จึงขอเชิญพี่น้องประชาชน และสื่อมวลชนเข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย

ส่วนกรณีที่ นายไชยวัฒน์ ไตรยสุนันท์ อดีต สส.ประชาธิปัตย์ ยื่นคำร้องขอให้ชะลอการประชุมใหญ่วิสามัญของพรรคประชาธิปัตย์ในวันพรุ่งนี้ไปก่อน ส่วนตัวยังไม่เห็นคำร้องฉบับเต็ม ต้องรอดูว่าคำร้องฉบับเต็มเป็นอย่างไร ให้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการบริหารพรรคและที่ประชุมในวันพรุ่งนี้ว่าจะพูดคุยกันอย่างไร

เมื่อถามว่ามีความกังวลหรือไม่ จากคำร้องของนายไชยวัฒน์ อาจทำให้การประชุมในวันพรุ่งนี้ไม่สำเร็จและต้องเลื่อนไปอีกรอบ นายราเมศ ย้ำว่าขึ้นอยู่กับการพูดคุยในประชุมวันพรุ่งนี้ ทราบว่าคำร้องอยู่ 2 ฉบับ คำร้องแรกนายไชยวัฒน์ ได้ยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และคำร้องที่ 2 มายื่นต่อพรรคเมื่อวานนี้ (4 ส.ค.66) โดยที่ประชุมใหญ่วิสามัญในวันพรุ่งนี้คงจะหยิบยกเรื่องนี้มาพิจารณา

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าจะทำให้สมาชิกที่เป็นองค์ประชุมใหญ่ลังเลแล้วไม่มาเข้าร่วมประชุมหรือไม่ นายราเมศ กล่าวว่า เมื่อคณะกรรมการบริหารพรรคได้กำหนดวันประชุมใหญ่วิสามัญแล้วไม่มีทางเลือกอื่นจะต้องเดินหน้าการประชุมต่อไป ประเด็นที่มีการถกเถียงและยื่นคำร้องก็เคยมีการถกเถียงกันในคณะกรรมการบริหารพรรค มีการพูดคุยและเสนอญัตติในที่ประชุมใหญ่วิสามัญแล้ว

ประเด็นข้อบังคับพรรคที่มองว่าจะไม่สอดคล้องกับกฎหมาย และรัฐธรรมนูญ นายราเมศ ชี้แจงว่าหลักเกณฑ์การร่างข้อบังคับจะต้องส่งให้ กกต.ตรวจสอบ ซึ่งเราได้ยื่นไปแล้ว เมื่อมีการถกเถียงจนตกผลึกเป็นข้อบังคับของพรรคประชาธิปัตย์จะนำข้อบังคับไปเสนอต่อ กกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง เพื่อให้ตรวจสอบความถูกต้องของข้อบังคับ นำไปประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป เพราะฉะนั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องภายในพรรคจะต้องมีการพูดคุยกันไม่มีเรื่องที่ร้ายแรง ถึงขนาดที่ว่าต้องดำเนินการอย่างเอาเป็นเอาตาย

นายราเมศ ยืนยันว่าทุกอย่างดำเนินการตามข้อบังคับ อาจจะมีข้อท้วงติงกันบ้างเป็นเรื่องปกติ ในฐานะที่เราเป็นสถาบันพรรคการเมืองมีความเป็นประชาธิปไตย แตกต่างจากพรรคการเมืองอื่นที่มีบุคคลใดบุคคลหนึ่งสั่งการได้ พรรคประชาธิปัตย์ให้สิทธิสมาชิกในการแสดงความคิดเห็น ส่วนตัวเคารพการดำเนินการของสมาชิกในพรรค เมื่อมีการท้วงติง ขอให้มีการตรวจสอบก็เป็นสิ่งที่ทุกคนในพรรคต้องตระหนัก

“ผลการเลือกตั้งที่ผ่านมาเราพ่ายแพ้ ถ้าเรายังไม่มีความเป็นเอกภาพ กระบวนการที่จะนับหนึ่งไปสู่การฟื้นฟูพรรค พัฒนาพรรคให้เจริญรุ่งเรือง อย่าให้เกิดความไม่เป็นเอกภาพ ความเป็นเอกภาพสำคัญที่สุดท้ายที่สุดแล้วจะมีการพูดคุยกันได้”

Related Posts

Send this to a friend