สุพัฒนพงษ์ ยืนยันไทยพร้อมรับมือวิกฤตรอบด้าน
เตรียมหารือผู้ผลิตพลังงานเพิ่มกำลังผลิต ขยายเวลาสำรองพลังงาน เชื่อขอความร่วมมือโรงกลั่นเห็นผลเร็วๆนี้
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงการประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานและคณะกรรมการติดตามวิเคราะห์ผลกระทบในอนาคต วานนี้ว่า กระทรวงพลังงาน กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้นำเสนอแผนการเตรียมความพร้อมกรณีเกิดเหตุคับขัน วิกฤติด้านพลังงาน ด้านอาหารและพืชผลทางการเกษตร พร้อมทั้ง การเตรียมข้อเสนอด้านกฎหมายเพื่อเตรียมไว้ใช้ยามจำเป็น เพื่อดูแลประชาชน
ซึ่งที่ประชุมได้ประเมินว่าวิกฤติความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนยังคงจะดำเนินต่อไปอีก โดยยังไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุดลง พร้อมยืนยันว่าโอกาสที่ประเทศไทยจะขาดแคลนทั้งในเรื่องของอาหารและพลังงานมีโอกาสน้อย แต่การประชุมในครั้งนี้เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม และแลกเปลี่ยนข้อมูลกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อหากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมาทุกฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างทันที
ในส่วนของแหล่งพลังงานเพิ่มเติม นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่าได้เตรียมหารือกับผู้ผลิตในประเทศในการขอความร่วมมือในการเพิ่มกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น ส่วนด้านพลังงานไฟฟ้านั้นได้เตรียมการเพิ่มกำลังการผลิตจากแหล่งผลิตเดิมที่มีอยู่ เช่น การเลื่อนแผนการลดการใช้ถ่านหินที่โรงไฟฟ้าแม่เมาะ จ.ลำปางออกไปก่อน เพื่อรักษาเสถียรภาพของไฟฟ้าในประเทศไม่ให้ดับ ซึ่งถือเป็นหลักสำคัญที่ต้องทำให้ได้ ขณะที่การสำรองพลังงานได้ทำการขยายระยะเวลาสำรอง เช่น น้ำมันดิบเคยสำรองไว้ 30 วัน ก็ขยายเพิ่มเป็น 70 วัน ก๊าซ LPG มีสำรอง 15-20 วัน ในขณะที่การขอความร่วมมือจากโรงกลั่น ในการนำส่งกำไรเข้ากองทุนน้ำมันนั้นเชื่อว่าจะเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมในเร็ววันนี้












