POLITICS

กลุ่ม “ไทยไม่ทน สามัคคีประชาชน เพื่อประเทศไทย” ปราศรัย วันที่ 2 ‘จตุพร’ เผย รธน. 60 คือพินัยกรรมที่มอบให้แก่พลเอกประยุทธ์

วันนี้ (5 เม.ย. 64) ที่สวนสันติพร อนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม กลุ่ม “ไทยไม่ทน สามัคคีประชาชน เพื่อประเทศไทย” จัดกิจกรรมการปราศรัย โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อต้องการให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งถือเป็นวันที่ 2 ของการปราศรัย โดยผู้จัดการชุมนุมได้ตั้งเวทีปราศรัย พร้อมเครื่องขยายเสียง และเตรียมเก้าอี้รองรับมวลชนที่มาเข้าร่วมชุมนุม

โดย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วม นปช. ได้เดินทางมาถึงสวนสันติพรเวลาประมาณ 17.30 น. ซึ่ง พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผู้กำกับการ สน.ชนะสงคราม ได้เข้ามาอ่านประกาศแจ้งเตือนตามระเบียบ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ ทางนายจตุพรตอบกลับว่าจะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเต็มที่

การปราศรัยในวันนี้ นายธนาวุฒิ วิชัยดิษฐ ขึ้นปราศัยเป็นคนแรก กล่าวถึงประเด็นการเข้ามายึดครองอำนาจของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จากนั้นเป็นการสลับสับเปลี่ยนขึ้นกล่าวปราศรัยขอผู้ร่วมปราศรัยหลายคน เช่น นายธนเดช ศรีสงคราม หรือม่อน อาชีวะ ส.อ.ณรงค์ชัย อินทรกวี หรือหมู่อาร์ม โดยปราศรัยถึงเรื่องรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 การทุจริตภายในกองทัพ นายวีระ สมความคิด ปราศรัยถึงการตนเองถูกปล่อยตัวจากเรือนจำเปซอ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ ที่ขึ้นกล่าวปราศรัยเป็นคนสุดท้าย

ในเวลา 18.00 ทางผู้ปราศรัยประกาศให้มวลชนลุกยืนเคารพธงชาติและร่วมกันร้องเพลงชาติ โดยมีมวลชนบางส่วนชูสัญลักษณ์ 3 นิ้ว จากนั้นนายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา35 ขึ้นปราศรัยต่อ โดยมีช่วงนึงที่ได้ระบุว่า ขอให้มวลชนหยุดชู สัญลักษณ์ 3 นิ้ว แล้วเปลี่ยนเป็นชูสัญลักษณ์ กำปั้น แทน ทำให้มวลชนบางส่วนเกิดความสงสัย และแกนนำกลุ่มอาชีวะพิทักษ์ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขอถอนตัวออกจากชุมนุม

ภายหลังการเข้าเจรจานั้น นายอดุลย์ นายจตุพร พร้อมด้วยแกนนำกลุ่มอาชีวะ ขึ้นเวทีพร้อมกัน โดยนายอดุลย์ กล่าวขอโทษทางกลุ่มอาชีวะ ว่าเข้าใจผิดถึงการแสดงสัญลักษณ์ในการต่อสู้ ซึ่งตนเองไม่ทราบความหมายว่าคือ เสรีภาพ เสมอภาค ภราดรภาพ และเป็นเจตนาที่ตรงกันกับการต่อสู้ครั้งนี้ จึงกล่าวขอโทษในการสื่อสารที่ผิดพลาดไป ซึ่งได้ทำความเข้าใจกับทุกฝ่ายเป็นที่เรียบร้อย พร้อมกล่าวว่าไม่จำกัดทางสัญลักษณ์ในการต่อสู้ เพราะเป้าหมายของทุกฝ่ายคือการที่พลเอกประยุทธ์ ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ทำให้บรรยกาศกลับเข้าสู่ภาวะปกติ และเริ่มปราศรัยอีกครั้ง

โดยนายวีระ กล่าวถึงกรณีที่ตนเองถูกคุมขังอยู่ที่ประเทศกัมพูชาภายในระยะเวลา 3 ปี 6 เดือน 3 วัน และการจับกุมครั้งนั้นเป็นการจับกุมโดยที่ตนเองไม่มีความผิด แต่เป็นคนไทยที่ต้องการไปปกป้องอธิปไตยของชาติและต้องการไปดูแลชายแดนที่ อ.โคกสูง จ.สระแก้ว และถูกปล่อยตัวในวันที่ 1 ก.ค. 2557 ภายหลังการเกิดรัฐประหารขึ้น 2 เดือน จึงเป็นที่มาของการตำหนิว่าตนเองเนรคุณพลเอกประยุทธ์ จึงขอย้ำว่าตนเองไม่เคยเนรคุณใคร หากนายกรัฐมนตรีคิดว่าสิ่งที่ตนเองพูดไปทั้งหมดไม่เป็นความจริงขอให้เอาหลักฐานมาหักล้างก่อน 5 โมงเย็นวันพรุ่งนี้ (6 เม.ย.)

เมื่อเวลา 20.40 น. นายจตุพร ขึ้นเวทีปราศรัยเป็นคนสุดท้ายเรียนว่าเปิดเวทีปราศรัยกึ่งเสวนา โดยวันพรุ่งนี้ตนเองทราบว่าสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ จะเดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีกับตนเองตามความผิด ม.112 ขอยืนว่าการมาชุมนุมครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมายชัดเจนคือต้องการให้พลเอกประยุทธ์ ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งไม่ได้พูดถึงเรื่องสถาบันฯ จึงขอเตือนผู้ที่จะมาแจ้งความ รวมทั้งผู้รับแจ้งความว่าจะดำเนินการแจ้งความกลับอย่างไม่ไว้หน้า รวมถึงพล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบชน. ที่วันนี้มีการเดินทางมาที่สน.ชนะสงคราม ได้มีการกล่าวว่าจะดำเนินคดีตามความผิด พ.ร.ก. ฉุกเฉิน และพ.ร.บ.โรคติดต่อ กับตนเองและทีมงานทุกวันอีกด้วย

อีกทั้งนายจตุพร มีการกล่าวถึงเรื่องประชาธิปไตยว่า ประเทศที่มีประชาธิปไตย ต้องประกอบด้วย เสรีภาพ เสมอภาค และภราดรภาพ ซึ่งการมาปราศรัยครั้งนี้ ยังมีการแจ้งความดำเนินคดีเช่นนี้ ประเทศนี้ไม่มีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นแล้ว จึงอยากให้หยุดพักเรื่องบาดหมางไว้ก่อน หากมีความเกลียดชังกัน ตนเองจะเดินเข้าไปหาแล้วบอกว่าให้พักเรื่องนี้ไว้ก่อน ขอให้ร่วมมือกัน เพื่อช่วยผลักดันให้พลเอกประยุทธ์ ลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก่อน แล้วจะรังเกลียดตนเองต่อไปก็เชิญ

“ถ้าพลเอกประยุทธ์ยังอยู่ต่อก็ยังมีการใช้กติกาแบบเดิม ซึ่งตนเองสงสัยมาตั้งแต่ต้นเกี่ยวกับการเข้ามายึดอำนาจ และเคยแถลงไปก่อนหน้านี้ว่าต่อไปประเทศไทยจะมีนายกรัฐมนตรีชื่อประยุทธ์ สิ่งนี้จึงเป็นการใช้ศิลปะทางการเมืองเพื่อโกหกประชาชนทีละตอนไปเรื่อยๆ โดยใช้ระยะเวลายาวนานเกือบ 5 ปี อีกทั้งยังเป็นการฉีกรัฐธรรมนูญผิดตั้งแต่ต้น เสมือนการนิรโทษกรรมให้แก่ตัวของพลเอกประยุทธ์เสียเอง ดังนั้น รัฐธรรมนูญปี 2560 จึงเป็นพินัยกรรมที่มอบให้แก่พลเอกประยุทธ์ ถ้าพลเอกประยุทธ์ออกไปเราจะได้รัฐธรรมนูญฉบับประชาชนทันที” นายจตุพร กล่าว

นอกจากนี้การชุมนุมที่สวนสันติพร อนุสรณ์พฤษภาประชาธรรมจะมีการเริ่มปราศรัยในครั้งต่อไปเวลา 17.00 น. ของทุกวันจนถึง 22.00 น. โดยวันพรุ่งนี้จะหยุด 1 วัน เพราะมีสมาชิกบางส่วนไปขับเคลื่อนเรื่องรัฐธรรมนูญ และจะกลับมาอีกครั้งในวันที่ 7-8 เม.ย ก่อนจะพักช่วงเทศกาลสงกรานต์ และจะมีการนัดหมายอีกครั้ง

Related Posts

Send this to a friend