POLITICS

‘อนุทิน’ รับ พา ‘เนวิน’ เข้าพบ ‘ทักษิณ-แพทองธาร’ ที่บ้านจันทร์ส่องหล้าจริง

‘อนุทิน’ รับ พา ‘เนวิน’ เข้าพบ ‘ทักษิณ-แพทองธาร’ ที่บ้านจันทร์ส่องหล้าจริง บอกคุยหลายเรื่อง ปัดเคลียร์ใจก่อนศึกซักฟอก ลั่น กำชับ สส. – รมต.ภูมิใจไทย ห้ามโดดประชุม พร้อมซัพพอร์ตข้อมูลนายกฯ บอก ‘พล.อ.ประวิต’ อภิปรายสั้น-ยาว ก็ต้องฟัง เชื่อมีน้ำหนัก

วันนี้ (5 มี.ค. 68) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกระแสข่าวพบกับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายเนวิน ชิดชอบ และ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่บ้านจันทร์สองหล้า เมื่อวันที่ 2 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยนายอนุทินยอมรับว่า ไปเป็นเรื่องปกติเป็นประจำอยู่แล้ว ซึ่งตนเองเป็นคนชวนนายเนวินไป ยอมรับว่าหารือกันหลายเรื่อง และขอคำแนะนำ เนื่องจากนายทักษิณเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ ไปพบกันทุกเดือนเป็นเรื่องปกติ

ส่วนประเด็นที่พุดคุยกัน เป็นการคุยกันทุกเรื่อง ทั้งการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และนโยบายรัฐบาล แต่ไม่ได้คุยเรื่องการจัดแข่งขันโมโตจีพี เพราะเรื่องนี้อีกนาน ย้ำว่า ไม่มีการเคลียร์ใจอะไร เนื่องจากคุยกับนายทักษิณเป็นประจำอยู่แล้ว ไม่เคยมีอะไรที่เป็นปัญหา

นายอนุทิน ยังกล่าวถึงกรณีที่มีการพูดถึงว่าพรรคภูมิใจไทยขวางพรรคเพื่อไทย โดยระบุว่า “ภูมิใจไทยเคยขวางอะไรเพื่อไทย” ประเด็นที่ไม่เห็นด้วยก็ต้องหารือกัน และก็มีข้อสรุปทุกครั้ง อย่างร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ที่ตอนแรกกระทรวงการคลังให้อำนาจนายกรัฐมนตรีรักษาการกฎหมายเพียงคนเดียว ซึ่งกระทรวงมหาดไทยชี้แจงว่ากฎหมายควบคุมอาคาร และอื่น ๆ หากนายกฯ รักษาการคนเดียวอาจหนักเกินไป นายกฯ ก็เห็นด้วย ร่างล่าสุดก็ให้กระทรวงมหาดไทยร่วมรักษาการ มีอะไรก็ร่วมกันแบ่งเบาภาระ เพราะนายกฯ มีภาระอื่นมากมาย ถือเป็นบทพิสูจน์ว่าเราทำงานด้วยกัน

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ร่างมาตั้งนานแล้ว และเป็นร่างของคณะกรรมการกฤษฎีกา มีเรื่องการกำหนดเงินในบัญชีขั้นต่ำ 50 ล้านบาทของผู้ที่จะเข้าเล่น หากร่างนี้เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อใด แล้วพอไปตัดออกก็จะแย้งต่อกฤษฎีกา จึงอาจจะให้ศึกษาอีกครั้งหนึ่ง ให้สภารับหลักการแล้วตั้งคณะกรรมาธิการ แล้วแปรญัตติกันไปเป็นกฎหมายของสภาในที่สุด

ส่วนร่างจะเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีภายในสัปดาห์หน้าหรือไม่ ขึ้นอยู่ที่นายกฯ กฎหมายที่รอเข้าอยู่มีร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ร่าง พ.ร.บ.การพนันออนไลน์ ซึ่งได้แจ้งแล้วว่าหากนำร่างทั้งสองเข้า ควรเร่งเอาร่างการเพิ่มโทษการพนันเถื่อนเข้าไปก่อน เพื่อรองรับกันหากจะทำให้การพนันถูกกฎหมาย ต้องทำให้ผู้ที่จะทำการพนันผิดกฎหมายมีโทษหนัก ยังไม่รู้ว่านายกฯ จะบรรจุเข้าเมื่อไหร่ และจะบรรจุพร้อมกันหรือไม่ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของนายกฯ ยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปด้วยดี

ส่วนการหารือที่บ้านจันทร์ส่องหล้าถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตอนนั้นยังไม่ทราบว่านายกฯ จะถูกอภิปรายคนเดียว แต่วันรุ่งขึ้นทราบว่าถูกอภิปรายคนเดียว ก็ออกมาให้ความมั่นใจว่าพรรคภูมิใจไทยสนับสนุนนายกฯ เต็มที่ สมาชิกพรรคภูมิใจไทยห้ามลาห้ามขาด รัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทยทั้ง 8 คน ต้องอยู่ในสภาเตรียมข้อมูลที่ถูกพาดพิงก็ต้องตอบได้ เราจะไปหวังให้นายกฯ ตอบคนเดียวก็ไม่ได้ นายกฯ จะไปรู้เรื่องรายละเอียดได้อย่างไร แต่หากมีความประสงค์ที่จะตอบเอง ก็ต้องเตรียมข้อมูลนำเสนอให้นายกฯ สนับสนุนนายกฯ อย่างเต็มที่

ส่วนที่นายกฯ บอกว่าได้ส่งข้อความไปขอความช่วยเหลือจากหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค เป็นการพูดสนุกตลก มีใครกล้าไม่ช่วย เป็นสปิริตอยู่แล้ว ส่งแค่สติ๊กเกอร์ แต่ไม่ได้เป็นการขอให้ทุกคนช่วย นายกฯ ไม่ทำหรอก ย่างไรก็ตาม ขออย่ามองเป็นการอภิปรายนายกฯ เพียงคนเดียว เพราะนายกฯ ถูกอภิปรายก็เหมือนรัฐบาลถูกอภิปรายทั้งหมด ซึ่งรัฐบาลก็คือรัฐมนตรีทุกคน นายกฯ ไม่มีกระทรวง หากมีการพาดพิงชื่อรัฐมนตรีหรือตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงใด รัฐมนตรีที่ถูกพาดพิงก็มีสิทธิ์ใช้สิทธิ์พาดพิงในการชี้แจง เพราะไม่มีกฎอะไรที่จะห้าม

นายอนุทิน กล่าวถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งจะร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ว่า “อ๋อ เหรอ ก็ดีเพราะไม่ได้เห็นท่านในสภามานาน คิดถึง” พล.อ.ประวิตร ก็เป็น สส. ก็ต้องมีน้ำหนักแม้ว่าจะสั้นจะยาวก็มีน้ำหนัก แม้คนที่เราเคยทำงานร่วมกันมา วันนี้จะไปมีบทบาทเป็นฝ่ายค้านเราก็ต้องรับฟังและชี้แจง เมื่อฝ่ายค้านซักฟอกรัฐบาลก็ต้องชี้แจง นำข้อเท็จจริงออกมาให้มากที่สุด หน่วยงานที่เรากำกับดูแลทั้ง 4 กระทรวง พร้อมอยู่แล้ว หากไม่อยู่ก็ one way ticket ย้ำว่า พูดถึงรัฐมนตรีภูมิใจไทย คนอื่นไม่เกี่ยว

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลของ พล.อ.ประวิตร ที่จะอภิปรายแล้วจะทำให้รัฐบาลสั่นสะเทือนถึงขั้นยุบสภา ก็ต้องฟังการอภิปรายก่อน เพราะไม่รู้ว่ามีข้อมูลอะไรบ้าง ของพวกนี้มันโกหกไม่ได้ คนที่อภิปรายก็มีหลักฐาน คนที่ถูกชี้แจงก็ต้องแก้ต่าง ขึ้นอยู่กับวิธีการของแต่ละคน

ส่วนการอภิปรายไม่ไว้ใจครั้งนี้ ในส่วนของ สส.ภูมิใจไทย ไม่ขอใช้คำว่าเป็นองครักษ์พิทักษ์นายกฯ หน้าที่คือถ้าใครไม่อยู่ในกฎระเบียบผิดข้อบังคับก็มีสิทธิ์ที่จะทำให้ไม่เกิดการเสียเวลา เพราะหากใช้เวลานานเกินไปก็ไม่เกิดประโยชน์ หากมีการพาดพิงก็ต้องดูว่าอยู่ในระเบียบข้อบังคับหรือไม่ ซึ่งการอภิปรายไม่ไว้ใจเป็นเรื่องปกติ

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat