พปชร. ซัด รัฐบาลแก้ฝุ่น PM 2.5 ไม่ถึงแก่น เสนอภาษีฝุ่นพิษ-จัดหอคอยฟอกอากาศ
พลังประชารัฐ ซัด รัฐบาลแก้ฝุ่น PM 2.5 ไม่ถึงแก่น เสนอภาษีฝุ่นพิษ-จัดหอคอยฟอกอากาศ จี้ แก้ปัญหาให้จริงจัง อย่าปล่อยให้กระทบสุขภาพระยะยาว
วันนี้ (5 ก.พ. 68) เวลา 11.10 น. ที่อาคารรัฐสภา พรรคพลังประชารัฐ นำโดย นายชัยมงคล ไชยรบ รองหัวหน้าพรรค สส.สกลนคร เขต 5 นายฉกาจ พัฒนกิจวิบูลย์ รองหัวหน้าพรรค สส.พังงา เขต 2 รวมถึง พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรค พปชร. รวมถึง นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ประธานกรรมการด้านวิชาการ และ สส.พรรค ร่วมแถลงมาตรการลดมลพิษและปัญหาฝุ่น PM2.5
นายฉกาจ กล่าวว่า ฝุ่น PM2.5 สร้างผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนทั่วประเทศ รัฐบาลควรเร่งแก้ไฃปัญหาอย่างเร่งด่วน และดำเนินมาตรการที่เป็นรูปธรรมและเข้มงวดให้มากขึ้น ตามที่รัฐบาลได้เคยกล่าวไว้ช่วงรณรงค์หาเสียง และถูกบรรจุเป็นนโยบายของรัฐบาล แต่วันนี้พื้นที่ กทม. ประสบปัญหาฝุ่น PM2.5 จนกระทบต่อปัญหาสุขภาพในระยะยาว แต่รัฐบาลกลับไม่สนใจที่จะแก้ไข
นายธีระชัย กล่าวว่า การแก้ปัญหาฝุ่นพิษจะต้องแก้ครบวงจร ในด้านปลายน้ำรัฐบาลควรสร้างหอคอยยักษ์ฟอกอากาศในทุกเมืองใหญ่ตามที่ประเทศจีนเคยดำเนินการ ต้นทุนไม่ถึงหนึ่งร้อยล้านบาท ด้านต้นน้ำ รัฐบาลจะต้องแก้ปัญหาการเผาเศษพืชในการปลูกข้าวโพด อ้อย และข้าว ซึ่งภาพถ่ายดาวเทียมแต่ละปีมีจุดเผาในประเทศเพื่อนบ้านเกิดขึ้นมากกว่า 8 แสนจุด และเกิดในไทยมากกว่า 2 แสนจุด
“วิธีแก้ปัญหาให้ได้ผลจริงจะต้องใช้มาตรการด้านการคลัง ให้ผู้นำเข้า และผู้ผลิตอาหารสัตว์และน้ำตาล ต้องจ่ายภาษีฝุ่นพิษในอัตราสูงสุดถึง 100% ยกเว้นกรณีที่มีบริษัทเซอเวเยอร์รับรองว่าแปลงนั้นไม่มีการเผาในรอบ 12 เดือนก่อนหน้า โดยกระทรวงเกษตรกำหนดมาตรฐานขึ้นทะเบียนบริษัทเซอเวเยอร์ รวมทั้งให้ผู้ส่งออกข้าวต้องจ่ายภาษี 5% โดยเมื่อครบปีรัฐบาลคืนภาษีให้ อบต. และ อบจ. ตามสัดส่วนการผลิตข้าว ยกเว้นแหล่งที่มีการเผา ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีต้องเป็นประธานดังกล่าว รวมทั้งต้องจัดหารถตัดอ้อยชุมชน บังคับการเว้นระยะปลูกอ้อยเพื่อให้รถเข้าถึงได้ข้ามทุกแปลง รวมทั้งเครื่องมืออัดฟางข้าวชุมชน” นายธีระชัย กล่าว













