POLITICS

กมธ.การปกครอง ติดตามหลัง กฟภ. ตัดไฟชายแดนเมียนมา

กมธ.การปกครอง ติดตามหลัง กฟภ. ตัดไฟชายแดนเมียนมา ด้าน สมช. เตรียมเสนอมาตรการป้องกันอาชญากรรมข้ามชาติ ย้ำ ดำเนินการไม่ใช่แค่เมียนมาแต่รวมถึงพื้นที่อื่นๆ ด้วย ขณะ กต. ยืนยันไม่กระทบความสัมพันธ์ 2 ประเทศ

วันนี้ (5 ก.พ. 68) ที่อาคารรัฐสภา คณะกรรมาธิการการปกครอง สภาผู้แทนราษฎร นำโดย นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส. อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการฯ ประชุมพิจารณาศึกษาการบริหารจัดการให้บริการจำหน่ายกระแสไฟฟ้าข้ามพรมแดนของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) โดยเชิญผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เข้าร่วม

นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล ประธานกรรมาธิการฯ กล่าวว่า เนื่องจากสังคมให้ความสนใจในเรื่องของการตัดไฟส่งไปยังเมียนมาจำนวนมาก โดยเป็นกังวลว่าจะกระทบต่อความมั่นคง สนับสนุนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และอาจส่งผลไปถึงคนไทย กรรมาธิการจึงได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล และชี้แจงในส่วนที่ยังมีข้อถกเถียงเกี่ยวกับการดำเนินการ

ด้าน นายไผท สิทธิสุนทร ผู้อำนวยการกองความมั่นคงกิจการชายแดน และประเทศรอบบ้าน สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ตัวแทน เลขาฯ สมช. สรุปผลการประชุมเมื่อวานนี้เกี่ยวกับการตัดน้ำ และไฟฟ้า ว่าภาพรวมเกี่ยวกับปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ผู้บริหาร และหน่วยงานความมั่นคงค่อนข้างมีความกังวลเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าว โดยเฉพาะสถานการณ์ในเมียนมา สแกมเมอร์ ยาเสพติด กาสิโน และธุรกิจที่ผิดกฎหมายบริเวณชายแดน ว่าจะส่งผลกระทบในอนาคต

ที่ประชุม สมช. วานนี้ (4 ก.พ. 68) ได้มีมติตัดไฟที่ข้ามไปฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ในพื้นที่ 5 จุด เพราะพบว่ามีการใช้ไฟฟ้าที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมข้ามชาติ ขณะเดียวกันที่ประชุมยังได้มีการระงับการส่งน้ำมันเชื้อเพลิง ตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ต รวมถึงตัดสัญญาณโทรศัพท์ด้วย จึงได้ทำหนังสือถึงกระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงพลังงานให้เร่งดำเนินการโดยเร็ว

ส่วนในระยะต่อไป สมช. จะเร่งประมวลสภาพปัญหาบริเวณชายแดน ไม่ว่าจะเป็นภาพลักษณ์ หรือผลกระทบ เพื่อที่ สมช. จะได้เสนอมาตรการต่อไป ย้ำว่าจะดำเนินการไม่ใช่แค่เฉพาะในเมียนมา แต่ยังรวมไปถึงพื้นที่อื่นๆ ซึ่งการตัดไฟตัดไฟฟ้าในวันนี้เป็นเพียงขั้นแรก และจากนี้จะต้องดำเนินมาตรการที่เข้มงวดอย่างต่อเนื่อง อาทิ เรื่องของท่าข้ามบริเวณพรมแดนที่อาจสนับสนุนเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ เป็นต้น เพราะรัฐบาลมีความชัดเจนแล้วว่าจะต้องจัดการกับปัญหาดังกล่าว ดังนั้น สมช.จะเป็นเจ้าภาพหลักที่จะทำให้เกิดผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรม

นายคมกฤช จองบุญวัฒนา ผู้อำนวยการกองเอเชียตะวันออก 2 กรมเอเชียตะวันออก กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า กระทรวงฯ ได้แจ้งฝ่ายเมียนมา และสถานทูตเมียนมาประจำประเทศไทยถึงมติที่ประชุมเมื่อวานนี้เรียบร้อยแล้ว ว่าจะระงับการจ่ายไฟเช้านี้ รวมทั้งระงับสัญญาณโทรคมนาคม และการส่งออกนำมัน เพื่อให้เขาเตรียมตัวล่วงหน้า จะได้ไม่กระทบกับบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมาย ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ระดับรัฐบาลนั้น กระทรวงฯ ได้ดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาโดยตลอด ขณะเดียวกันเมียนมาก็ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหานี้ โดยยืนยันว่าพร้อมที่จะร่วมมือกับไทย เพื่อยกระดับมาตรการในการแก้ไขต่อไป ฉะนั้นยืนยันว่าไม่กระทบกับความสัมพันธ์ของสองประเทศแน่นอน

นายขจรเกียรติ อัศวเบ็ญจาง รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารลูกค้าสัมพันธ์ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ได้ชี้แจงกรณีไม่ตัดไฟในพื้นที่ประเทศเมียนมา 5 จุดตั้งแต่ต้น โดยเปิดเผยว่า เนื่องจาก กฟภ. เป็นหน่วยงานฝ่ายปฏิบัติ การพิจารณาเรื่องตัดไฟ จึงอยู่นอกเหนือการพิจารณา แต่ กฟภ. สามารถพิจารณาในมิติอื่นได้ เช่น กรณีการจ่ายไฟกระทบกับไฟฟ้าในชายแดนไทย ฉะนั้นการซื้อขายไฟของ กฟภ. จึงถือเป็นการดำเนินงานตามนโยบายของภาครัฐ และมติคณะรัฐมนตรี เมื่อปี 2539

“ถ้าถามว่า กฟภ. ประเมินความมั่นคงในมิติไหนได้บ้าง ถ้าเป็นความมั่นคงพลังงาน เราสามารถประเมินความมั่นคงด้วยตัวเราเองได้ เราเข้าใจว่าความมั่นคงนั้น มีความซับซ้อน มีหลายมิติ หลายด้าน ซึ่งนอกเหนือขอบเขตที่ กฟภ. จะสามารถวิเคราะห์ได้เพียงหน่วยงานเดียวได้ เราจึงจำเป็นต้องถามไปยังหน่วยงานความมั่นคงต่างๆ แต่เนื่องจากมีปัญหาในการตอบคำถามที่ยังไม่ชัดเจนนัก” นายขจรเกียรติ กล่าว

พร้อมย้ำว่า หากมีจุดไหน ได้รับแจ้งจากหน่วยงานรัฐ ว่ามีกรณีเช่นเดียวกัน ก็สามารถดำเนินการตัดไฟได้ทันที พร้อมยอมรับว่าในอนาคตอาจมีการฟ้องร้อง จากคู่สัญญา เนื่องจากระยะเวลาการแจ้งงดจ่ายไฟน้อยมาก อาจทำให้คู่สัญญญาได้รับผลกระทบ ซึ่งถือเป็นสิทธิ์ทางคู่สัญญาที่ดำเนินการ แต่ กฟภ.ก็มีระเบียบข้อสัญญาที่พร้อมนำไปต่อสู้ในชั้นศาลและเชื่อว่าข้อมูลจาก สมช.เพียงพอในการต่อสู้ได้

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat