POLITICS

แอมเนสตี้ ยื่น 7,301 รายชื่อ จี้ ‘เศรษฐา-ทวี’ ปล่อยตัว ‘อานนท์ นำภา’

แอมเนสตี้ ยื่น 7,301 รายชื่อ จี้ ‘เศรษฐา-ทวี’ ปล่อยตัว ‘อานนท์ นำภา’ โดยไม่มีเงื่อนไข พร้อมแก้ไข-ยกเลิกกฎหมายจำกัดเสรีภาพ แนะรัฐไทยหยุดละเมิดสิทธิ ก่อนเข้าร่วมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนฯ

วันนี้ (5 ก.พ. 67) แอมเนสตี้ ประเทศไทย ตั้งขบวนรถ Le Truck ยื่น 7,301 รายชื่อ ถึง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เรียกร้องให้ยุติการดำเนินคดีต่อ นายอานนท์ นำภา ที่แยกสวนมิสกวัน ทำเนียบรัฐบาล โดยผู้เข้าร่วมสวมชุดแฮร์รี่ พอตเตอร์ พร้อมไม้กายสิทธิ์ เช่นเดียวกับที่นานอานนท์ ใส่ปราศรัยในการชุมนุมเสกคาถาผู้พิทักษ์ปกป้องประชาธิปไตย หรือ #ม็อบแฮร์รี่พอตเตอร์ ในวันที่ 3 ส.ค.63

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อขบวนรถ Le Truck เคลื่อนมาถึงแยกสวนมิสกวัน เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้มุ่งหน้าไปยังศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ (สำนักงาน ก.พ.ร.) ทำเนียบรัฐบาล โดยนำรั้วแผงเหล็กมากั้น เนื่องจากเป็นพื้นที่หวงห้าม โดยบริเวณประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล มีกลุ่มขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (P-move) ปักหลักชุมนุมพีมูฟทวงสิทธิ์อยู่ และมีครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ปักหลักชุมนุมข้างคืน บริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชษฐ อยู่ด้วยในเวลาเดียวกัน

นางปิยนุช โคตรสาร ผู้อำนวยการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย กล่าวว่าเป็นเวลา 5 เดือนที่ นายอานนท์ นำภา ถูกจับกุมคุมขังไม่ได้เจอครอบครัว มี 1,938 คนที่ถูกดำเนินคดีจากการที่ออกมาใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกและการชุมนุม มีเด็กอย่างน้อย 286 คนที่ถูกดำเนินคดี ตลอด 4 ปีที่ผ่านมามีการ ดำเนิดคดีกับนักกิจกรรมที่ออกมาใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออก ซึ่งเป็นเรื่องน่าเศร้าที่เกิดขึ้นในประเทศไทยที่ต้องการเข้าร่วมคณะรัฐมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (Human Rights Council-HRC) ระหว่างปี 2568-2570

รัฐไทยยังย้ำและให้พันธสัญญาต่อประชาคมโลกที่จะร่วมส่งเสริมสิทธิมนุษยชนในประเทศของตนเอง แต่ประกาศนั้นอาจสวนทางกับสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของประเทศไทยในปัจจุบัน หากรัฐบาลไทยต้องการเข้าร่วมเป็นหนึ่งในสมาชิกของ HRC ในปี 2568 รัฐบาลไทยควรเตรียมความพร้อมต่อหน้าที่และความรับผิดชอบในฐานะสมาชิกของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ซึ่งจะถูกจับตามองจากนานาชาติ ด้วยการเคารพ คุ้มครอง ส่งเสริม การแก้ไขเพิ่มเติมหรือยกเลิกกกฎหมายที่จำกัดสิทธิของผู้ที่ออกมาใช้เสรีภาพในการแสดงออกและการชุมนุมประทัวงโดยสงบ และควรตระหนักว่าสิทธิในการประกันตัวคือ สิทธิมนุษยชน

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จึงมีข้อเรียกร้องถึงรัฐบาลไทย ดังนี้

1.ปล่อยตัวนายอานนท์ นำภา นักปกป้องสิทธิมนุษยชนโดยทันทีและอย่างไม่มีเงื่อนไข รวมทั้งให้ยกเลิกคำตัดสิน ว่ามีความผิดและการดำเนินคดีใด ๆ ต่อเขาและบุคคลอื่น ๆ รวมทั้งเด็ก ซึ่งถูกดำเนินคดีเพียงเพราะการใช้สิทธิมนุษยชน

2.ระหว่างที่ยังไม่ยกเลิกคำตัดสินว่ามีความผิดและการดำเนินคดี ต้องอนุญาตให้นายอานนท์ นำภาและนัก กิจกรรมคนอื่นมีสิทธิได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว และประกันว่าเงื่อนไขการประกันตัวจะไม่เป็นการจำกัดโดยพลการต่อการใช้สิทธิของตนโดยสงบ

3.แก้ไข เพิ่มเติมหรือยกเลิกกฎหมายที่ถูกใช้เพื่อจำกัดสิทธิที่จะมีเสรีภาพในการแสดงออกและการชุมนุมโดยสงบ เพื่อประกันว่าประเทศไทยจะปฏิบัติตามพันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศของตน

นางปิยนุช กล่าวเพิ่มเติมว่าแอมเนสตี้และเครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน ต้องการบอกว่าถึงเวลาแล้วที่ประชาชน 1,938 คนที่โดนคดีควรได้รับการนิรโทษกรรม รวมถึงกรณีนายอานนท์ด้วย โดยขณะนี้ยังมี 26 คนที่ยังอยู่ในเรือนจำ และพบว่ามี 2 คนที่เป็นเด็กแต่ถูกคุมขังเพียงเพราะใช้เสรีภาพในการแสดงออก จึงต้องการบอกกับรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้งว่าควรทำหน้าที่ในการปกป้องประชาชน ไม่ให้ต้องโดนจับกุมคุมขัง

ทั้งนี้ประเทศไทยยังต้องการสมัครเป็น HRC ดังนั้นประเทศไทยควรบอกประชาคมโลกว่าจะไม่มีเคสที่โดนจับกุมจากการใช้เสรีภาพในการแสดงออกและการชุมนุมอีก

จากนั้นได้ยื่นหนังสือต่อ นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ซึ่งระบุว่ารัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ และจะรับไปเร่งรัดพิจารณาโดยเฉพาะเรื่องกฎหมายนิรโทษกรรม นายอานนท์ก็ถือว่าเป็นคนบ้านเดียวกับตนเอง ไม่ควรถูกดำเนินคดีทางการเมืองลักษณะแบบนี้ โดยในวันที่ 8 ก.พ.นี้ จะมีการประชุมเกี่ยวกับ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมนัดแรก ส่วนตัวเข้าใจถึงข้อเรียกร้อง ยินดีที่จะรับข้อเสนอไปพิจารณา หากได้ความคืบหน้าจะประสานมายังผู้อำนวยการแอมเนสตี้โดยตรง

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 26 ก.ย.66 นายอานนท์ ถูกศาลอาญาพิพากษาจำคุก 4 ปี โดยไม่รอลงอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 12 ในคดีปราศรัยหมิ่นสถาบันสมัยการชุมนุมเมื่อวันที่ 14 ต.ค.63 และเมื่อวันที่ 17 ม.ค.67 ศาลอาญาพิพากษาจำคุกอีก 4 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 12 จากกรณีที่โพสต์เฟซบุ๊ก ด้วยเนื้อหาหมิ่นสถาบัน รวมโทษจำคุกทั้งหมดทั้งสิ้น 8 ปี โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 16 พ.ย.66 นายอานนท์ได้โพสต์เฟซบุ๊กแสดงเจตจำนงถอนการประกันตัวในระหว่างต่อสู้คดีชั้นอุทธรณ์ทุกคดี เพื่อยืนยันอุดมการณ์การต่อสู้ทางการเมืองของตนเอง

Related Posts

Send this to a friend