POLITICS

‘อนุทิน’ ประกาศลุยศึกเลือกตั้ง เชื่อมือ ‘พุทธิพงษ์’ จะทำให้ได้เก้าอี้เมืองหลวง

วันนี้ (5 ก.พ. 66) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวก่อนขึ้นเวทีปราศรัยกับประชาชนเขตคลองเตย-วัฒนา ที่ศูนย์เยาวชนคลองเตย กทม. กล่าวถึงความมั่นใจในการเลือกตั้งพื้นที่ กทม.ว่า ก็ต้องมั่นใจ เพราะทีมงานพรรคภูมิใจไทยในพื้นที่ กทม. ตอนนี้ถือว่าสมบูรณ์ที่สุดตั้งแต่มีพรรคมา ซึ่งนำโดย นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ หัวหน้าทีม กทม. และทีม ส.ส. กทม.ที่มาลงในนามพรรคภูมิใจไทย ซึ่งก็ต้องมั่นใจ เพราะเราได้มีการพูดคุยถึงนโยบายและวิธีการทำงานจนทำให้ได้ ส.ส.เหล่านั้นมาร่วมงาน ตนเชื่อว่าจะทำให้มีความต่อเนื่องในการทำงานของ ส.ส. เพื่อแก้ไขปัญหาประชาชนอย่างรวดเร็ว พร้อมย้ำว่าทีม กทม.เป็นหัวใจสำคัญของพรรค และตลอดเวลา 4 ปี ไม่มี ส.ส.ใน กทม. แต่ก็ทำประโยชน์ได้มาก ในส่วนนี้ก็อยากจะทำให้ได้มากขึ้นไปอีก พร้อมเปิดเผยว่าตั้งใจจะส่งผู้สมัคร ส.ส.ให้ครบทุกเขตทั่วประเทศ

เมื่อถามว่า เขตคลองเตย ถือว่ายากหรือไม่ เพราะมีนายเขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ และร้อยตำรวจเอกพงศกร ขวัญเมือง อดีตโฆษก กทม. ลงสมัครด้วย นายอนุทิน ระบุว่า ยากทุกเขต ก็ลงสมัครเป็นผู้แทนของประชาชนชาวไทย ไม่ใช่เฉพาะ กทม. แต่ยากทุกเขต ทุกที่ เพราะฉะนั้น คนที่สมัครจะต้องมีคุณสมบัติหลายอย่างรวมกัน ทั้งขยัน เป็นที่เชื่อมั่นของประชาชนในพื้นที่ ต้องอยู่กับพรรคที่มีนโยบายเป็นประโยชน์กับประชาชน และสนองนโยบายเหล่านั้นได้ ซึ่งทั้งหลายทั้งปวง พรคภูมิใจไทยมีความพร้อมมากๆ ในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงนี้

เมื่อถามว่า ตั้งเป้าจะได้กี่เก้าอี้ใน กทม. จาก 33 เขต นายอนุทิน กล่าวว่า ขอเรียนว่าพวกเราทุกคนทำทุกสิ่งทุกอย่าง มอบทุกสิ่งทุกอย่างเท่าพลังของที่พวกเรามีอยู่ให้กับพี่น้องประชาชนคนไทย

“…เพราะฉะนั้นตัวเลขจะออกมาเท่าไหร่ พวกเราน้อมรับด้วยความขอบคุณ เราไม่มีอะไรที่เรากั๊กไว้อยู่แล้ว เราผลิตออกมาให้หมด เราใช้หมด เพื่อที่ทำให้พี่น้องชาวไทยได้ประโยชน์ เพราะฉะนั้นจะได้เท่าไหร่ นั่นคือความกรุณา ความเมตตาของพี่น้องประชาชนชาวไทยที่จะตัดสินพวกเรา…” นายอนุทินกล่าว

เมื่อถามว่า ช่วงหลังพรรคภูมิใจไทยเน้นหาเสียงในชุมชนเป็นพิเศษ มีความหมายอะไรหรือไม่ นายอนุทิน ปฏิเสธว่า ไม่ใช่ ไม่ใช่เลย เราก็หาเสียงทุกที่ เพียงเเต่ว่าเรามาลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชน ต้องการมาแก้ไขปัญหาปากท้องเป็นหลัก เพราะฉะนั้น การที่แก้ไขปัญหาปากท้องประชาชนให้เป็นรูปธรรม ก็ต้องมาพบปะกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชุมชน ประชาชนที่อยู่ในชุมชน ส่วนใหญ่หาเช้ากินค่ำ หรือต้องสร้างรายได้แบบวันต่อวัน ซึ่งเราก็ต้องมารับฟังปัญหา

Related Posts

Send this to a friend