POLITICS

’หมอวรงค์‘ จี้ ’ก้าวไกล‘ แสดงจุดยืนให้ชัดเจน ปม ’ทักษิณ‘ รักษาตัว รพ.ตำรวจ

กลุ่ม คปท. เข้าหารือ ’หมอวรงค์‘ ปม ’ทักษิณ‘ รักษาตัว รพ.ตำรวจ จี้ ’ก้าวไกล‘ แสดงจุดยืนให้ชัดเจน จวก หาเสียงลดความเหลื่อมล้ำ แต่กลับเงียบ นั่งตีกิน ขอให้ออกแรงช่วยภาคประชาชนบ้าง

วันนี้ (5 ม.ค. 67) เวลา 13:00 น. ที่ทำการพรรคไทยภักดี เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) นำโดยนายพิชิต ไชยมงคล และนายนัสเซอร์ ยีหมะ เข้าพบ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี เพื่อหารือเกี่ยวกับกรณีการรักษาตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่โรงพยาบาลตำรวจ

ภายหลังร่วมหารือร่วม 1 ชั่วโมง นพ.วรงค์ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา พรรคไทยภักดี และกลุ่ม คปท. มีการทำงานบนหลักการที่สอดคล้องกัน คือ หลักการของหลักนิติรัฐ นิติธรรม และเพื่อความถูกต้อง ซึ่งประเทศไทยขณะนี้ กำลังเผชิญกับปัญหาของนักโทษเทวดาชั้น 14 ที่สร้างความอึดอัดใจให้กับพี่น้องประชาชน และเป็นการทำลายหลักกฎหมายของประเทศที่ประชาชนรับไม่ได้

ดังนั้น ประเด็นที่สำคัญที่สุดในวันนี้คือเราไม่สนใจว่าใครจะสีอะไร แต่สิ่งที่จะต้องเกิดขึ้น คือหลักนิติรัฐ นิติธรรม หลักกฎหมาย และความถูกต้องของประเทศ ที่พวกเราเห็นพ้อง ร่วมมือกันในการต่อสู้กับต่อแนวคิดของกระทรวงยุติธรรม ที่สร้างความอัปยศต่อกระบวนการยุติธรรม

สำหรับการนัดทำกิจกรรมของกลุ่ม คปท. ในวันที่ 12 มกราคมนี้ ตนเองสนับสนุน และเชิญชวนพี่น้องที่รักความถูกต้องร่วมให้กำลังใจ แต่ในนามพรรคการเมืองของพรรคไทยภักดี มีข้อจำกัดเรื่อง พรป.พรรคการเมือง เกี่ยวกับการชุมนุมที่มีความหมิ่นเหม่ จึงไม่สามารถไปร่วมได้ ซึ่งรับสนับสนุนทุกฝ่ายที่ต่อสู้กับความไม่ถูกต้อง ความอัปยศครั้งใหญ่ของประเทศ ไม่สนใจความรู้สึกของประชาชน

นพ.วรงค์ ยังนำภาพของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมคณะ ที่ลงพื้นที่ในเรือนจำบางขวาง พร้อมระบุว่า คนแบบนี้หรอที่จะมาเป็นรัฐมนตรีว่าการยุติธรรม และดูแลหลักความเป็นธรรมในประเทศ เพราะกำลังทำผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.บ. ราชทัณฑ์ มาตรา 72 ที่กำหนดไว้ว่า ไม่มีใครมีสิทธิ์นำโทรศัพท์มือถือเข้าเรือนจำ แต่ทีมงานของ รมต. กำลังใช้โทรศัพท์อยู่ ซึ่งรัฐมนตรีจะทำอย่างไร ในเมื่อภาพดังกล่าวหลุดออกมาแล้ว

นพ.วรงค์ กล่าวอีกว่า ในการหารือแลกเปลี่ยนในวันนี้ ยังมีเรื่องที่คาดการณ์เกี่ยวกับนายกรัฐมนตรีหญิง ที่เป็นนักโทษหญิง หรือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีกระแสว่าจะเดินทางกลับประเทศไทย จึงขอเตือนไปยังรัฐบาลพรรคเพื่อไทยว่า “ท่านต้องใช้ความถูกต้องเพื่อชนะทุกสิ่งที่อย่าง อย่าใช้อำนาจที่กระทำแบบนักโทษชายชั้น 14 มาเอื้อประโยชน์ให้กับนักโทษหญิง เพราะหากยังทำแบบนี้อยู่ จะเป็นการเติมน้ำมันเข้ากองไฟ อย่าเอาความชั่วไปชนะใจประชาชน แต่ต้องเอาหลักการที่ดีไปชนะใจประชาชน“

ด้าน นายพิชิต ระบุว่า วันนี้กระบวนการที่ยุติธรรมไทย ถูกรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำเกิดขึ้นในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งไม่ใช่ประเด็นของพรรคการเมือง หรือของคนสีใดสีหนึ่ง กรณีของนายทักษิณ เป็นความร่วมกันรับผิดชอบของประชาชนคนไทย จึงได้มาหารือกันเพื่อให้เห็นแนวทาง ในการรักษากระบวนการยุติธรรมไทยให้เกิดความเท่าเทียม ตามแนวทางของกลุ่ม คปท. เพื่อกระจายข่าวสารให้เกิดความเข้าใจในรูปแบบเดียวกัน

โดยเรื่องนี้เป็นเรื่องของทุกพรรคการเมือง และอยากให้ทุกพรรคได้ตระหนักถึงกระบวนการยุติธรรม เพราะหลักของประเทศคือหลักนิติรัฐ หากมีพรรคการเมืองใดพรรคหนึ่งทำลายระบบนิติรัฐลงไป กฎหมายก็ไม่มีความศักดิ์สิทธิ์ จึงอยากเรียนเชิญทุกพรรคมาร่วมกันปกป้องระบบนิติรัฐของไทย

นายพิชิต ยังฝากไปถึงรัฐมนตรียุติธรรมด้วยว่า รมว.ยุติธรรม อภิปรายในสภา บอกว่า นายทักษิณเป็นนักสร้างสันติภาพในประเทศไทย ซึ่งหากไปศึกษาในประวัติศาสตร์ย้อนกลับไป 10 ปีที่ผ่านมา จะเห็นว่า มีพี่น้องที่บาดเจ็บล้มตายจากการออกมาปกป้องนายทักษิณเป็นจำนวนมาก และต้องติดคุก ครอบครัวแตกแยก ซึ่งคนแบบนี้ไม่ควรเป็นผู้สร้างสันติภาพ โดยวันนี้ได้กลับมาที่ประเทศไทยขอพระราชทานอภัยโทษ แต่กลับไม่อยู่ในเรือนจำ คนแบบนี้จึงไม่ใช่ผู้สร้างสันติภาพ แต่เป็นผู้สร้างความขัดแย้ง หากรัฐมนตรียุติธรรม มองไม่ออกก็ไม่สมควรเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

อย่างไรก็ตาม หลังจากวันนี้ ตนจะไปหารือกับนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ และคณะ ในการสร้างความร่วมมือ โดยกิจกรรมในวันที่ 12-14 ม.ค. นี้ คปท. จะแสดงจึดยืนเกี่ยวกับเรื่องนี้ เริ่มในเวลา 15:00 น.

ทั้งนี้ นายพิชิต ระบุว่า ตนยินดีพูดคุยกับทุกพรรค รวมทั้งพรรคก้าวไกล โดยมองว่าเป็นบทบาทของพรรคการเมืองที่ต้องร่วมกันออกมาปกป้องระบบนิติรัฐ อย่างน้อยยังมีเวลาพูดในสภา จึงอยากให้สส.แต่ละพรรคมีการหารือเรื่องดังกล่าวกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมโดยตรง เพราะที่ผ่านมารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมไม่เคยออกมาตอบคำถามสังคม มีเพียงแต่บ่ายเบี่ยงประเด็นและเลี่ยงตอบคำถามมาโดยตลอด

นายพิชิต ยังกล่าวอีกว่า ตนมองว่าพรรคก้าวไกลยังแสดงตัวในเรื่องนี้ไม่ชัดเจน ทั้งๆ ที่เป็นบทบาทของพรรคฝ่ายค้าน ในระบบรัฐสภา จึงอยากให้พรรคก้าวไกลแสดงจุดยืนมากกว่านี้ เพราะเรื่องนี้เป็นรูปธรรมของความเหลื่อมล้ำ​ ที่รัฐบาลใช้กฎหมายไปเอื้อประโยชน์แก่นักโทษเพียงคนเดียว เพราะที่ผ่านพรรคก้าวไกลรณรงค์เรื่องความเหลื่อมล้ำในสังคมมาโดยตลอด แต่วันนี้พรรคก้าวไกลกลับไม่ออกมาแสดงจุดยืน ทั้งๆ ที่สามารถทำได้ทันที

ด้านหมอวรงค์ กล่าวเสริมด้วยว่า การที่รัฐบาลเพื่อไทยทำแบบนี้ ตนวิเคราะห์ว่าพรรคก้าวไกลต้องได้ประโยชน์ เพราะรัฐบาลทำในสิ่งที่ไม่ดี ทำชั่ว ตนจึงอยากให้พรรคก้าวไกลออกมาเรียกร้องบ้าง เพราะเป็นพรรคการเมืองพรรคใหญ่ อย่ามัวแต่นั่งเฉยๆ หรืออย่ามัวแต่ตีกิน ต้องออกแรงมาช่วยประชาชนบ้าง มาทำในสิ่งที่ถูกต้องโดยไม่ต้องสนใจสีเสื้อ เพราะถ้าหากสิ่งที่พรรคก้าวไกลต้องการคือหลักนิติรัฐ นิติธรรม ความเสมอภาค ความเท่าเทียม ก็ต้องมาช่วยกันออกแรงในเรื่องดังกล่าวด้วย

Related Posts

Send this to a friend