POLITICS

มทภ. 2 เผย เลื่อนประชุม RBC ไปกลางเดือน ต.ค. หลังไทยยื่นข้อเสนอถอนกำลัง–ร่วมเก็บกู้ทุ่นระเบิด

แม่ทัพภาคที่ 2 เผย เลื่อนประชุม RBC ไปกลางเดือนตุลาคม หลังไทยยื่นข้อเสนอถอนกำลัง–ร่วมเก็บกู้ทุ่นระเบิด ปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรม รอฝ่ายกัมพูชาตอบกลับ

วันนี้ (4 ต.ค. 68) พล.ท.วีระยุทธ รักศิลป์ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) ไทย – กัมพูชา ด้านกองทัพภาคที่ 2 และภูมิภาคทหารที่ 4 ว่า เมื่อวานนี้เป็นการประชุมของกองเลขานุการของฝ่ายไทย และกัมพูชา ซึ่งจะมีการพูดคุยถึงรายละเอียดข้อเสนอกันอีกครั้ง โดยฝ่ายไทยมีการยื่นข้อเสนอให้กับฝ่ายกัมพูชา เช่น การถอนกำลังพล การเก็บกู้ทุ่นระเบิด ในพื้นที่ที่มีปัญหาการเผชิญหน้ากันอยู่ ซึ่งข้อเสนอเหล่านี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นที่ยังไม่ลงตัว และฝ่ายกัมพูชายังไม่ได้ตอบรับกลับมา จึงต้องรอยืนยันอีกครั้งหนึ่ง ก็คาดว่าน่าจะมีการเลื่อนประชุม RBC ออกไปประมาณกลางเดือนตุลาคมนี้

ส่วนข้อเสนอจากฝ่ายกัมพูชานั้น พล.ท.วีรยุทธ ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่เห็น เนื่องจากจะมีการเสนอกันไปมาก็จะต้องไปดูในรายละเอียดอีกครั้ง ขณะที่ข้อเสนอฝ่ายไทยยืนยันเตรียมข้อมูลไว้แล้ว โดยจะมีต้องนำผลผลิตจากการประชุม GBC มาปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรมในการประชุม RBC ทั้งการเก็บกู้ทุ่นระเบิด และการถอนอาวุธ แต่ในรายละเอียด ขณะนี้ยังเป็นเพียงแค่ตัวเปเปอร์ที่ส่งไปส่งมากันอยู่ระหว่างฝ่ายเลขานุการของไทยและกัมพูชา

เมื่อถามถึงข้อตกลงเก็บกู้ทุ่นระเบิดนั้น จะมีการเสนอให้เก็บกู้ในโซนที่พบทุ่นระเบิดจำนวนมากอย่างไรนั้น พล.ท.วีรยุทธ กล่าวว่า ไทยต้องมีการกำหนดพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ที่ไทยเห็นว่ามีทุ่นระเบิดวางใหม่จากการสู้รบที่ผ่านมา ซึ่งการทำแผนเก็บกู้ทุ่นระเบิดจะต้องทำให้ละเอียด แผนเก็บกู้ทุ่นระเบิดเดิมก็ต้องมีการรื้อใหม่ เนื่องจากพบว่ามีการวางทุ่นระเบิดใหม่ทับไปแล้ว ซึ่งจุดที่มีการวางทุ่นระเบิดใหม่ก็ต้องมาดำเนินการสำรวจ

ส่วนโซนที่พบทุ่นระเบิดวางใหม่จำนวนมากนั้น พล.ท.วีรยุทธ เปิดเผยว่าไล่มาตั้งแต่บริเวณช่องบกจ.อุบลราชธานี จนถึงบริเวณปราสาทตาเมือนตลอดแนว เพราะเป็นพื้นที่สู้รบกว่า 363 กิโลเมตร ระหว่างช่องบกจนถึงหลักเขตแดนที่ 8 ละหานทราย

เมื่อถามว่าหากการประชุมกองเลขานุการของฝ่ายไทย และกัมพูชาตกลงกันไม่ได้จะเลื่อนการประชุม RBC ออกไปอย่างไม่มีกำหนดหรือไม่ พล.ท.วีรยุทธ กล่าวว่า เป็นเรื่องทางเทคนิค แต่เราก็กำหนดไว้ว่าจะต้องให้เกิดผลเป็นรูปธรรม เพราะอาจจะถอนกำลังก็ต้องให้ชัดเจนว่าจะถอนอย่างไรวันที่เท่าไหร่ ซึ่งเป็นสิ่งที่กองทัพภาคที่ 2 คิดว่าจะต้องมีข้อมูลและมีการปฏิบัติที่ที่ชัดเจน

Related Posts

Send this to a friend