หน่วยงานบูรณาการเพื่อการดูแล เยียวยาผู้ประสบเหตุใช้อาวุธปืนที่พารากอน
กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สำนักงานตำรวมแห่งชาติ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย แถลงยืนยัน พร้อมเยียวยาผู้ประสบเหตุให้ดีที่สุด เตรียมตั้งศูนย์บัญชาการสถานการณ์ สื่อสารทุกสถานทูตที่เกี่ยวข้อง
วันนี้ (4 ต.ค. 66) ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พล.ต.ท. สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกันแถลงข่าวเรื่อง ผลการประชุมหารือเพื่อพัฒนามาตรการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่สาธารณะและแหล่งท่องเที่ยว
นายจักรพงษ์ กล่าวว่า วันนี้ได้เชิญสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อมาดูมาตรการช่วยเหลือนักท่องเที่ยว พร้อมขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต โดยในการประชุมได้พูดคุยกันถึงสถานการณ์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยตอนนี้จะจัดตั้งศูนย์บัญชาการสถานการณ์ (Situation Command Center) ที่กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อใช้สื่อสารกับสถานทูตต่างๆ ให้ได้ข้อมูลข่าวสารที่ตรงที่สุด เพื่อให้การดูแลครอบครัวของผู้ประสบเหตุในครั้งนี้ พร้อมยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้จบลงเรียบร้อย และไม่มีเหตุการณ์ต่อเนื่องเกิดขึ้นอีก
นางสาวสุดาวรรณ กล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บทุกคน จากเหตการณ์สุดวิสัยที่เกิดขึ้น พร้อมย้ำว่าไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น โดยเหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน 1 ราย และ ชาวพม่า 1 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 5 ราย เป็นชาวจีน 1 ราย ชาว สปป.ลาว 1 ราย และชาวไทย 3 ราย ยืนยันว่า จะให้การช่วยเหลือและดูแลอย่างดีที่สุด ทั้งผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ซึ่งตอนนี้ “ในหลวงและพระราชินี” ได้รับผู้บาดเจ็บไว้เป็นผู้ป่วยในพระราชานุเคราะห์
ด้าน พล.ต.ท. สำราญ กล่าวว่า ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ชี้แจงถึงเหตุการณ์ ผู้ก่อเหตุได้ก่อเหตุที่ห้างสรรพสินค้า โดยใช้อาวุธปืนประดิษฐ์ กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าควบคุมสถานการณ์ โดยสรุปเหตุการณ์ครั้งนี้ ถือว่ารับมือได้ดี และสรุปสถานการณ์ได้เร็ว
นางสาวฐาปนีย์ กล่าวว่า ในส่วนของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย มีการบริหารจัดการข่าวสารต่างๆ และมอนิเตอร์ เพื่อให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ รวมถึงต้องการสร้างภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นให้แก่ประเทศไทย
จากการประชุมก็จะมีการดำเนินการภายใน 3 ส่วน คือ
1.มาตรการความปลอดภัยที่อาจจะต้องมีการยกระดับในทุกพื้นที่ ทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศ
2.การเยียวยาฟื้นฟูสภาพจิตใจ และในส่วนของการดูแลความสะดวกผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ทั้งชาวไทยและต่างประเทศ
3.มาตรการสื่อสารภาพลักษณ์และสร้างความมั่นใจใน 3 ระยะ ได้แก่ ระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว โดยในระยะยาวจะส่งผลให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว