‘เศรษฐา’ยัน ดิจิทัล วอลเล็ต จ่ายก้อนเดียวจบ
‘เศรษฐา’ยัน ดิจิทัล วอลเล็ต จ่ายก้อนเดียวจบ เผย นัดคุย ผบ. เหล่าทัพ เพื่อฟังความเห็น แจง ไม่ได้ปาปากกา แค่วางบนโต๊ะ ขอโทษหากทำให้เข้าใจผิด
วันนี้ (4 ก.ย. 66) ที่ทำการพรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า วันนี้มาพูดคุยเรื่องดิจิทัล วอลเล็ต ถึงเรื่องขั้นตอนในการทำงาน มีการพบปะพูดคุยกับหลายภาคส่วน ยืนยันว่าไม่มีการแบ่งจ่าย แต่จะจ่ายครั้งเดียว 10,000 บาท ซึ่งช่วงเที่ยงวันนี้ มีนัดทานข้าวพูดคุยกับรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย โดยจะคุยเรื่องนโยบายการทำงาน ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ เพื่อให้รู้จักกันมากยิ่งขึ้น ตนเองมาจากภาคธุรกิจ ต้องคุยกับภาคการเมือง ให้เข้าใจตรงกัน และในวันพรุ่งนี้ (5 ก.ย. 66) มีกำหนดการเข้าทำเนียบรัฐบาลในช่วง 10.30 น.
เมื่อถามถึงการเข้าพูดคุยกับ ผู้บัญชาการเหล่าทัพ เมื่อวานนี้ นายเศรษฐา ระบุว่า ก็ไปรับฟังความคิดเห็นเพราะมีหลายเรื่องที่จะทำให้ลดช่องว่างระหว่างทหารกับประชาชน มีการรายงานว่าสถาบันทหารทำอะไรบ้าง ส่วนเรื่องนโยบายสมัครใจเกณฑ์ทหาร อยากให้มีแถลงการณ์ร่วมกันจะดีกว่า
สำหรับการเดินทางไปเจรจาเรื่องความมั่นคงกับทางสหรัฐอเมริกาที่สหประชาชาติในวันที่ 18 ก.ย. นี้ พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) จะเดินทางไปด้วย
ส่วนเรื่องการประชาสัมพันธ์ระหว่างกองทัพกับประชาชน นายเศรษฐา ระบุว่า ไม่อยากให้ใช้คำว่าติดขัด เพราะทหารทำหลายอย่างที่เป็นประโยชน์กับประชาชน วันนี้อยากช่วยดูว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง ซึ่งอยากให้ความเป็นธรรมกับทางกองทัพ หากสื่อสารได้ดีขึ้น ประชาชนก็จะได้รับทราบเรื่องดี ๆ ที่ทางกองทัพทำ ส่วนโครงการเรือดำน้ำ ยังไม่ได้คุยกัน เป็นการทำความรู้จักกันเท่านั้น หลังจากถวายสัตย์ฯ แล้ว คงได้พูดคุยอย่างเป็นทางการมากขึ้น และคงเห็นแนวทางในการทำงานร่วมกันระหว่างทหาร และรัฐบาล
ส่วนกระแสข่าวการทาบทามพลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา มาเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีนั้น นายเศรษฐา ระบุว่า ตนเองยังไม่ทราบเรื่องนี้ แต่ส่วนตัวแล้วมีความสนิทสนมกัน
เมื่อถามถึงการเดินสายคุยกับหน่วยงานต่าง ๆ ก่อนการแถลงนโยบายในสภานั้น นายเศรษฐา ระบุว่า ก็ทำอยู่ตลอด ทำทุกวัน ตอนนี้นโยบายของพรรคร่วมทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว และคงพูดคุยกับพรรคร่วมอีกครั้ง
ส่วนกรณีที่มีการจับผิดนายเศรษฐาว่ามีการเขวี้ยงปากกาหลังจากที่ปากกาเขียนไม่ติด ว่านายเศรษฐาดูเป็นคนขี้โมโหหรือไม่ นายเศรษฐาระบุว่า ก็อย่าใช้คำว่าจับผิด หากภาพที่ออกไปบ่งบอกถึงความไม่พอใจ ก็ขอโทษด้วย ซึ่งการพูดคุยกับวินมอเตอร์ไซค์ มีหลายประเด็น ตนเองก็ต้องรีบจด เพราะเดี๋ยวตอบคำถามไม่ได้ เขียนไปแล้วหมึกหมดก็เลยบอกทีมงาน และวางปากกาลงเฉย ๆ ไม่ได้ขว้าง เข้าใจว่าเป็นบุคคลสาธารณะ จะทำอะไรก็ต้องระมัดระวัง เนื่องจากภาพที่ออกไป แม้จะไม่ได้สะท้อนความรู้สึกของเราเอง แต่คนที่ดูอยู่ก็อาจจะเข้าใจผิดได้
เมื่อถามถึงเรื่องงบประมาณอาจไม่เพียงพอจนต้องกู้เงินเพิ่มนั้น นายเศรษฐา ระบุว่า ยังไม่ได้พูดคุย ไม่เคยบอกว่ามีปัญหา แต่อาจช้าไปบ้าง โดยเราอาสามาบริหารจัดการประเทศแล้ว ถ้ามีขีดจำกัดก็ต้องทำให้ได้ และต้องพูดคุยกับทางรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย
