เช็คเสียง ลงมติไม่ไว้วางใจนายกฯ และ 5 รัฐมนตรี

“ไหว้สา” อะไรที่ผิดพลาดไปผมก็ต้องขออภัย คำขอโทษจาก “ธรรมนัส” จะส่งผลต่อคะแนนลงมติไม่ไว้วางใจ “พล.อ.ประยุทธ์” ผ่านฉลุย จริงหรือไม่ วันนี้รู้ผล คาดเดิมพันตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คะแนนไว้วางใจจะมีไม่ต่ำกว่า 265-274 เสียง

คำยืนยันว่า พี่น้อง 3 ป.ยังรักกันดี จากปาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และมากันรันตี จากภาพการสวมกอดที่มูลนิธิป่ารอยต่อ ระหว่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ระหว่างการพบแกนนำพรรคพลังประชารัฐ ที่พล.อ.ประวิตร สวมบทเป็นกาวใจ ให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ได้ขอโทษยกมือไหว้สา พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมคำพูดว่า “อะไรที่ผิดพลาดไปผมก็ต้องขออภัย ผมทำไปเพราะเป็นเลขาธิการพรรคต้องดูแล ส.ส.ที่อยากให้นากยรัฐมนตรี สนใจ ส.ส.ในพรรคบ้าง พร้อมคำรับปากจาก นายกรัฐมนตรี ว่าสิ่งไหนที่ไม่ถูกใจจะปรับให้

การลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ที่จะมีขึ้นในเวลา 10.00 น.วันนี้ 4 ก.ย.จึงน่าจับตาอย่างยิ่ง จากจุดเปลี่ยนทางการเมือง ที่มีกระแสข่าว การคว่ำนายกรัฐมนตรี ตลอดการอภิปรายที่ผ่านมา เพราะหาก พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้รับความไว้วางใจ ตำแหน่งรัฐมนตรีก็สิ้นสุดลง รวมทั้งคณะรัฐมนตรีทั้งคณะ ต้องเลือกนายกรัฐมนตรีใหม่ 

กระแสข่าวหนาหู ถึงการแจกกล้วยทั้งเครือ เพื่อล้มนายกรัฐมนตรี ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องออกตัว ยืนยันไม่ปรับครม.และไม่ยุบสภา เพื่อกดดันอีกฝ่ายว่า เกมคว่ำนายกรัฐมนตรี ไม่สามารถกดดันให้ปรับ ครม.ได้ด้วย พร้อมกับกระแสข่าว การแจกถุงขนม 5 ล้านบาท สยบค่ากล้วย ที่มีข่าวว่าราคาสูงถึง 14 ล้านบาท 

คะแนนการลงมติไม่ไว้วางใจ 6 รัฐมนตรี วันนี้ จึงอาจมีผลการลงมิตไว้วางใจที่แตกต่างกัน จากการประชุมพรรคพลังประชารัฐ เมื่อวานนี้ พล.อ.ประวิตร ส่งสัญญาณชัดด้วยว่า ให้ลงมติไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ และรัฐมนตรีพรรค ที่คะแนนไม่เท่ากันก็ดี 

คะแนนไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จากคำมั่นที่นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล ให้คำมั่นว่า จะมีไม่ต่ำกว่า 265 เสียงนั้น มาจาก คะแนนเสียงของพรรคร่วมรัฐบาล ที่มี 271 เสียง วันนี้จะมี ส.ส.2 คนลาเพราะกักตัวโควิด-19 เป็นส.ส.พรรคพลังประชารัฐ 1 คน ส.ส.พรรคภูมิใจไทย 1 คน จึงจะเหลือคนที่ลงคะแนน 269 เสียง จะมีผู้ไม่ออกเสียง 4 คน เป็นประธานและรองประธานสภา และนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ที่เป็นฝ่ายค้านในพรรคเศรษฐกิจใหม่ 

แต่คาดหว่าเสียงไว้วางใจนายกรัฐมนตรี จะอยู๋ที่ 265-274 เสียง เพราะจะมีเสียงจากพรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่ย้ายตัว แต่ยังไม่ย้ายพรรค อีกประมาณ 9 เสียง มาจากพรรคก้าวไกล 5 เสียงที่ย้ายมาพรรคภูมิใจไทย จากเพื่อชาติ 2 เสียง พรรคประชาชาติ 1 เสียง และพรรคเพื่อไทย 1 เสียง

คะแนนของ พล.อ.ประยุทธ์​จะผ่านฉลุย ส่วนพรรคร่วมรัฐบาล ทั้งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.กระทรวงคมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.กระทรวงเกษตรฯ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ น่าจะไม่ต่ำกว่า 265 เสียง 

แต่สำหรับนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.กระทรวงแรงงาน และนายชัยวุฒิ ธนาคมนานุสรณ์ ยังต้องลุ้นกันตัวโก่ง ว่าจะมีเกมหักกันเองในพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ จากร้อยร้าว ระหว่าง กลุ่ม 3 ช.และกลุ่ม 4 ว.ที่หันไปหนุนนายกรัฐมนตรี ทั้งนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายอนุชา นาคาศัย และนายสุชาติ ชมกลิ่น ยังต้องจับตาแบบไม่กระพริบ ว่าสุดท้ายแล้ว ฝ่ายที่กลับมาหนุนพล.อ.ประยุทธ์ จะตายคาสภา หรือไม่

โดยคะแนนเสียงมติไว้วางใจ จะต้องมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนส.ส.ที่มีอยู่ในสภา ขณะนี้ 482 เสียง ต้องมีมากกว่า241 เสียงจึงผ่านความไว้วางใจ 

ล่าสุดในส่วนคะแนนเสียงพรรคร่วมรัฐบาล เพิ่ม 1 เสียง จากส.ส.พรรคภูมิใจไทย ที่หายจากโควิดแล้ว รวมเป็น 270 เสียง 

สำหรับจำนวนเสียงของพรรคร่วมรัฐบาล และพรรคร่วมฝ่ายค้านมีดังนี้

จำนวนเสียงพรรคร่วมรัฐบาล 271 เสียง

พรรคพลังประชารัฐ 119 เสียง
พรรคประชาธิปัตย์ 48 เสียง
พรรคภูมิใจไทย 61 เสียง
พรรคชาติไทยพัฒนา 12 เสียง
พรรครวมพลังประชาชาติไทย 5 เสียง
พรรคชาติพัฒนา 4 เสียง
พรรคพลังท้องถิ่นไท 5 เสียง
พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย 2 เสียง
พรรคพลังชาติไทย 1 เสียง
พรรคพลังธรรมใหม่ 1 เสียง
พรรคครูไทยเพื่อประชาชน 1 เสียง
พรรคประชาธรรมไทย 1 เสียง
พรรคประชาธิปไตยใหม่ 1 เสียง
พรรคประชาภิวัฒน์ 1 เสียง
พรรคพลเมืองใหม่ 1 เสียง
พรรคพลังไทยรักไทย 1 เสียง
พรรคไทรักธรรม 1 เสียง 
พรรคเศรษฐกิจใหม่ 6 เสียง

จำนวนเสียงพรรคร่วมฝ่ายค้าน 211 เสียง

พรรคเพื่อไทย 134 เสียง
พรรคก้าวไกล 53 เสียง
พรรคเสรีรวมไทย 10 เสียง
พรรคประชาชาติ 7 เสียง
พรรคเพื่อชาติ 5 เสียง
พรรคพลังปวงชนไทย 1 เสียง
พรรคไทยศรีวิไลย์ 1 เสียง