รมช.กลาโหม ขอ กัมพูชา ให้เกียรติทหารตัวเอง เก็บศพแนวชายแดน หวั่น เกิดโรคระบาด
รมช.กลาโหม ขอ กัมพูชา ให้เกียรติทหารตัวเอง เก็บศพบริเวณแนวหน้าชายแดน หวั่น เกิดโรคระบาดต่อประชาชน พ้อ ถ้าวิญญาณเขารับรู้ได้คงเสียใจ ยัน ยังไม่ส่งกลับ 18 เชลยทหารกัมพูชา ขอเก็บหลักฐานทุกอย่าง ป้องกันการบิดเบือน เผย ดูแลดี ไม่ให้กระทบร่างกายจิตใจตามอนุสัญญา ‘เจนีวา’ แม้ถูกตำหนิเป็นสุภาพบุรุษเกินไป
วันนี้ (4 ส.ค. 68) พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่าเมื่อวานนี้ได้มีการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมไตรภาคี ประกอบด้วยไทย กัมพูชา และมาเลเซีย ซึ่งได้มีการชี้แจงกัมพูชาเรื่องทหารเชลยศึก 18 คน หลังกัมพูชาเรียกร้องให้มีการควบคุมตัวอย่างดีตามอนุสัญญาเจนีวา ได้ให้คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ หรือ ICRC และองค์กรระหว่างประเทศเข้าไปดูแล้ว ซึ่งเขาก็มีความพอใจ ปฏิบัติตามอนุสัญญาเรียบร้อย พร้อมยืนยันว่า เราทำทุกอย่างถูกต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ แต่อาจจะมีหลายคนตำหนิว่า เป็นสุภาพบุรุษเกินไป แต่จะทำให้เราอยู่ได้ ไม่ถูกตำหนิจากนานาประเทศ
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า เชลยทั้ง 18 คนถูกจะส่งกลับเมื่อใด พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่าตอนนี้เราดูแลอย่างดี แต่ต้องสอบสวน ที่จริงแล้วหากมีความไว้ใจกัน 100% เราก็อาจจะส่งกลับได้เร็วกว่านี้ แต่เนื่องจากที่ผ่านมาเขาบิดเบือนทุกวัน เราจึงจำเป็นจะต้องสอบสวน และบันทึกข้อมูลหลักฐานทุกอย่าง เพราะต้องมานั่งคิดว่าถ้าส่งกลับไปแล้วเค้าจะมาบิดเบือนอย่างไรอีก
ดังนั้น ตอนที่เขาอยู่กับเรา เราต้องบันทึกทุกอย่าง เราจะได้ตอบเขาได้ในภายหลัง และยืนยันว่าเราจะไม่ทำให้เชลย 18 คนได้รับผลกระทบทางด้านร่างกายและจิตใจ พอตนพูดเรื่องนี้ทีไรก็จะถูกโจมตีจากบางคนว่าทำตัวเป็นสุภาพบุรุษขนาดกัมพูชาทำแบบนี้เรายังเป็นสุภาพบุรุษ ยืนยันว่า ตนต้องทำ คนอื่นจะไม่ทำก็ได้ เพราะตนเป็นผู้เจรจา คนที่เป็นผู้เจรจามัวแต่ไปต่อปากต่อคำ แล้วบรรยากาศจะเป็นอย่างไร เรื่องนี้ต้องเห็นใจตนด้วย
พล.อ.ณัฐพล กล่าวอีกว่ามีอีกเรื่องหนึ่งที่ได้พูดในที่ประชุมรัฐมนตรีกลาโหมไตรภาคีคือจากการปฏิบัติการที่ผ่านมามีทหารกัมพูชาบริเวณหน้าแนวฝ่ายเรา เสียชีวิตจำนวนมาก ซึ่งส่วนที่เสียชีวิตในฝั่งเรา เราก็ส่งคืนให้เขาอย่างสมเกียรติ แต่ก็เสียใจแทนทหารกัมพูชาที่เสียชีวิตตรงที่ว่า รัฐบาลกัมพูชาปฏิเสธว่าไม่ใช่ จะใช่หรือไม่ใช่ แต่ก็คือคนกัมพูชาที่เสียชีวิตฝั่งเรา เราก็ส่งคืนอย่างสมเกียรติตามอนุสัญญาเจนีวา แต่ที่ห่วงใย และได้พูดกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา คือทหารกัมพูชาที่เสียชีวิตหน้าแนวจำนวนมากยังไม่ได้ถูกเก็บศพกลับไป จึงอยากให้ทางการกัมพูชามาเก็บศพกลับไปเพื่อให้ถูกต้องตามสุขลักษณะ เพราะหากอยู่ไปนาน ๆ ก็จะเกิดโรคระบาดได้ ประชาชนของเขาที่อยู่บริเวณนั้นก็อาจจะได้รับเชื้อโรค และอีกเรื่องหนึ่งคือความสมเกียรติ และศักดิ์ศรีของความเป็นทหาร ไทยแม้จะเป็นคู่กรณีแต่เมื่อเสียชีวิตแล้วเราก็ให้เกียรติ
ส่วนศพทหารกัมพูชาที่ไทยได้ส่งกลับไปแม้กัมพูชาจะปฏิเสธ แต่ล่าสุดก็ได้รับศพกลับไปแล้ว ซึ่งเป็นที่น่าเสียใจ กับกำลัง พลและทหารที่เสียชีวิตถ้าวิญญาณเขารับรู้ได้เขาคงเสียใจ
