‘รังสิมันต์’ จี้นายกฯ สางดราม่าสีกากี หวั่นเป็นปัญหาคาราคาซัง
วันนี้ (4 ก.ค.67) นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติฟ้อง ป.ป.ช. ให้ตรวจสอบนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ปมแต่งตั้งให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งมีความผิดตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ว่า สุ่มเสี่ยง ต้องยอมรับว่าใน พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ หลักการคือมีเกณฑ์พิจารณาคนที่จะมาเป็น ผบ.ตร. ไม่ว่าจะเป็นหลักอาวุโส หรือความสามารถ ปัญหาคือเรื่องความสามารถของแต่ละคน ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร ใครที่โดดเด่น ซึ่งเรื่องนี้ไม่เคยถูกพูดคุยหรือนำเสนอ และมีความโปร่งเลย สุดท้ายถูกหาว่าเป็นเส้นสาย หรือสายสัมพันธ์กับใครต่อใคร เป็นสิ่งที่เราไม่อยากเห็น
คนที่เข้ามาเป็น ผบ.ตร.ไม่ควรจะเลือกจากคนที่มีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนายกฯ แต่ควรจะเลือกจากบุคคลที่มีความสามารถ และถูกยอมรับในหลักอาวุโสด้วย ส่วนเรื่องความสามารถ รัฐบาลมีหน้าที่ต้องชี้แจงให้เกิดความโปร่งใสให้ได้ ซึ่งเราก็ยังไม่เห็นรัฐบาลชี้แจงให้เกิดความกระจ่าง กลายเป็นว่าสังคมได้แต่จินตนาการ และตั้งคำถาม ซึ่งส่งผลเสียต่อรัฐบาล ทั้งนี้การตั้ง ผบ.ตร.มีความสำคัญต่อการเมืองและสังคมอย่างมาก สังคมได้แต่เคลือบแคลง ตนเองคิดว่าการที่ไม่สามารถจัดการเรื่องนี้อย่างโปร่งใส จะทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธาต่อรัฐบาลแน่นอน
นายรังสิมันต์ กล่าวว่าเรื่อง ผบ.ตร.คงคาราคาซังอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ คงใช้เวลาพิสูจน์ต่อไป แต่เชื่อว่าไม่ส่งผลดี เพราะเรื่องนี้ไม่ได้ขัดแย้งกันแค่ระดับพลตำรวจ แต่เป็นสาย แต่ละก๊กก็มีขบวนการและเครือข่ายของตัวเอง ซึ่งเกิดขึ้นในทุกระดับ ส่วนที่มีการวิเคราะห์ว่าฝ่ายการเมืองพยายามวางคนของตัวเอง เป็น ผบ.ตร.คนต่อไปนั้น ถ้ารัฐบาลไม่ได้คิดบนพื้นฐานของความสามารถ หรือจะแก้ปัญหาองค์กรตำรวจ แบบนี้ก็ใช้ไม่ได้ ทุกวันนี้มีทั้งปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น เกี่ยวข้องกับเว็บพนัน สิทธิสวัสดิการ เงินเดือนของตำรวจแทบจะไม่เพียงพออยู่แล้ว สุดท้ายก็ต้องไปรับไถ สร้างระบบอุปถัมภ์ และทำลายความยุติธรรม
ดังนั้นใครก็ตามที่มาเป็น ผบ.ตร.ต้องตอบคำถามให้ได้ว่าจะแก้ปัญหาเหล่านี้อย่างไร ถ้าแก้ไม่ได้ ก็ไม่มีคุณสมบัติเหมาะสม สิ่งเหล่านี้ควรจะมีความชัดเจน ถ้าตอบได้จะไม่มีใครสงสัย และจะได้พ้นจากระบบเส้นสาย ตนเองอยากเห็นองค์กรที่ใครทำดีได้ดี ใครทำชั่วก็ไม่สามารถอยู่ต่อได้