POLITICS

4 ผู้สมัคร โชว์วิสัยทัศน์แก้ปัญหาแรงงานนอกระบบ

เห็นพ้อง แก้ กม.จัดระเบียบแผงลอย – สร้างแอปฯ เรียกรถ กทม. ขึ้นทะเบียนไรเดอร์ และรถรับจ้าง

วันนี้ (4 พ.ค.65) กลุ่มแรงงานนอกระบบเมือง จัดเวทีแสดงวิสัยทัศน์ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ณ โรงแรมรัตนโกสินทร์ โดยมีตัวแทนจากเครือข่าย อาทิ สมาคมแท็กซี่ยานยนต์ไฟฟ้า E.V.A ชมรมหาบเร่แผงลอย กรุงเทพมหานคร ชมรมกลุ่มศิลปินและบันเทิงแห่งประเทศไทย สมาคมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า (EV) รับจ้างสาธารณะ และสมาคมไรเดอร์แห่งประเทศไทย ร่วมสะท้อนปัญหา

จากนั้นผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.สะท้อนวิสัยทัศน์ นำโดย นายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครอิสระ หมายเลข 3 เปิดเผยว่า เมื่อครั้งเป็นรองผู้ว่าฯ กทม.รับผิดชอบดูแลเรื่องเทศกิจมาก่อน การจัดระเบียบหาบเร่แผงลอยที่ผ่านมาเป็นไปตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ ในการกำหนดจุดผ่อนผันการค้าขาย

“ผมไม่ใช่ผู้ว่าฯ ของผู้ค้าหาบเร่เพียงคนเดียว แต่เป็นผู้ว่าฯ ของคนทางเท้าด้วย จึงจะพยายามกำหนดจุดทางการค้าใหม่ที่ถูกกฎหมายให้ได้มากที่สุด ส่วนปัญหาส่วย เกิดขึ้นเพราะจุดขายน้อยกว่าคนอยากขาย จึงมีการจ่ายเพื่อให้ตนเองได้เข้าระบบ”

กลุ่มศิลปินเป็นกลุ่มที่น่าสงสาร จึงต้องปลดล็อกเยียวยากลุ่มศิลปิน จัดโซนนิ่งให้บริการสถานบันเทิงตลอด 24 ชั่วโมง ขณะที่กลุ่มแท็กซี่ และจักรยานยนต์รับจ้าง ควรจะมีที่จอดรถ และระบบเข้าคิว นอกจากนี้ยังจะจัดทำที่พักสำหรับรถจักยานยนต์รับจ้างตามแนว BTS ทั่ว กทม. เปลี่ยนรถจักรยานยนต์ เป็น EV ให้สินเชื่อราคาถูก

“สิ่งแรกที่จะทำทันทีคือ จัดสรรงบประมาณ กทม.ให้ทั่วถึง เป็นผู้ว่าฯ ที่บริหารเงินได้ ใช้เงินเป็น”

นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 4 กล่าวถึงปัญหาหาบเร่แผงลอยว่า ผู้ว่าฯ กทม.ต้องคิดเสมอว่า ผู้ค้าหาบเร่แผงลอยเปรียบเสมือนครอบครัว อยู่กันแบบถ้อยทีถ้อยอาศัย หากมีผู้ว่าฯ กทม.ชื่อ “สุชัชวีร์” ทางเท้าจะเรียบ เดินอย่างปลอดภัยมีมาตรฐาน

“ผมเดินไป 50 เขต ส่วนใหญ่พี่น้องประกอบอาชีพหาบเร่แผงลอย ซึ่งเป็นกลุ่มที่จะยกระดับเศรษฐกิจ และผมขอยืนยันว่า จะเป็นผู้ว่าฯ ที่ไม่รับส่วย”

นโยบายของ “สุชัชวีร์” ผู้ค้าหาบเร่แผงลอยจะขายของได้ 7 วัน มีก๊อกน้ำประปาสะอาดบริการฟรีในทุกพื้นที่ เทศกิจเป็นมิตรกับพ่อค้า-แม่ค้า และบริการอินเทอร์เน็ตฟรีสำหรับทุกคน ส่วนการยกระดับหาบเร่แผงลอยเป็น SMEs จะเข้าไปอำนวยความสะดวกด้านการสัญจร เพื่อเอื้อให้เกิดการใช้จ่ายมากขึ้น

นายสุชัชวีร์ ระบุว่า ต้องสังคายนาระบบกล้องวงจรปิด และปรับปรุงถนน เพื่อเป็นสวัสดิการขั้นพื้นฐานสำหรับกลุ่มจักรยานยนต์รับจ้าง และไรเดอร์ รวมทั้งปรับกฎหมายที่ล้าสมัยเป็นอุปสรรคกับผู้ประกอบธุรกิจกลางคืน จัดตั้ง “Bangkok Job Center” เพื่อส่งเสริมการจ้างงาน ปรับปรุงกายภาพโครงสร้างถนนให้เอื้อกับการจอดรถรับผู้โดยสารของกลุ่มแท็กซี่

น.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัครจากพรรคไทยสร้างไทย หมายเลข 11 กล่าวว่า ปัญหาหาบเร่แผงลอยเป็นสิ่งที่พรรคไทยสร้างไทย ต้องการแก้เพื่อคนตัวเล็ก ปัญหาคือข้อกฎหมายที่ไม่เอื้อให้ประกอบอาชีพได้อย่างถูกต้อง ผู้ว่าฯ กทม.จึงต้องจัดระเบียบข้อกฎหมายให้สมดุลกับผู้ค้าหาบเร่ และคนเดินเท้า แต่ที่ผ่านมาพ่อค้าแม่ขายไม่เคยได้รับความสะดวกสบาย 80% ต้องจ่ายส่วย ดังนั้นพนักงาน กทม.ต้องเปลี่ยนมายเซ็ทสนับสนุนให้ผู้ค้าทำมาหากินได้

หากได้รับเลือกเป็นผู้ว่าฯ กทม. จะดึงบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด มาเป็นตัวกลางปล่อยเงินกู้ให้ผู้ค้ารายย่อย (Nano SMEs) จัดตั้งกองทุนเครดิตประชาชน เพื่อให้ทุกอาชีพเข้าถึงแหล่งเงินทุน ดันกรุงเทพฯ เป็น Legal Sandbox ยกเว้นกฎหมายที่เป็นปัญหากับคนกรุงเทพฯ อย่างน้อย 3 ปี โดยเฉพาะเรื่องวันและเวลาค้าขาย ทั้งนี้ยังเสนอให้จัดทำธรรมนูญของพื้นที่ เพื่อกำหนดกฎเกณฑ์การค้า เช่น “นโยบายข้าวสาร 24 ชั่วโมง” และเปิดพื้นที่สาธารณะให้ศิลปินเปิดหมวก สำหรับการส่งเสริมกลุ่มจักรยานยนต์รับจ้างและไรเดอร์ ขอเสนอให้สร้างแอปพลิเคชันเรียกรถของ กทม. โดยไม่เสียค่าหัวคิว

“สิ่งแรกที่ผมจะทำ คือ เรียกประชุมข้าราชการ กทม.เพื่อปรับมายเซ็ทจากการทำงานภายใต้ระบอบอุปถัมภ์ เปลี่ยนเป็นข้ารับใข้ของประชาชนอย่างแท้จริง พร้อมจัดทำระบบประเมินการทำงานของ กทม.”

นายโฆสิต สุวินิจจิต ผู้สมัครอิสระ หมายเลข 24 กล่าวว่า กทม.ต้องส่งเสริมคนทำมาหากินอย่างสุจริต หาบเร่แผงลอยถือเป็นสตาร์ตอัพสำหรับผู้มีรายได้น้อย เป็นที่พึ่งของผู้มีรายได้น้อย จึงต้องเร่งพักหนี้เพื่อให้ผู้ค้าหาบเร่เดินหน้าต่อ เปิดพื้นที่สำหรับค้าขายตลอด 24 ชั่วโมง และตลอด 7 วัน จัดตั้งศูนย์พัฒนาอาชีพธุรกิจยกระดับหาบเร่ เป็น SMEs ส่วนปัญหาส่วย หากผู้ว่าฯ ไม่รับปัญหาจะไม่เกิดขึ้น

การแก้ปัญหาของกลุ่มศิลปินบันเทิง ต้องขยายเวลาการทำงานให้ครบ 24 ชั่วโมงสอดรับกับความต้องการของนักท่องเที่ยวต่างชาติ เปิดศูนย์สันทนาการให้เด็กรุ่นใหม่เข้ามาเรียนรู้ศิลปินอาวุโส สำหรับปัญหาจุดจอดของรถรับจ้างโดยเฉพาะหน้าศูนย์การค้า สร้างเป็นแอปพลิเคชันเรียกรถสำหรับคน กทม. และจับมือกับรัฐบาล สนับสนุนการใช้รถรับจ้าง EV เพื่อให้ กทม.เป็นเมืองสะอาด

นายโฆสิต แนะว่า กทม.ต้องขึ้นทะเบียนรถจักรยานยนต์รับจ้าง และไรเดอร์ พัฒนาความรู้เรื่องขับขี่ปลอดภัย และการป้องกันโควิด-19 พร้อมเพิ่มประกันอุบัติเหตุ 300,000 บาท ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ

Related Posts

Send this to a friend