‘ชัยชนะ’ แนะ นายกฯ เป็นผู้นำประเทศต้องรับฟังคนวิจารณ์ ยันทำหน้าที่ฝ่ายค้านเต็มที่

‘ชัยชนะ’ โต้ ‘เศรษฐา’ อย่าพูดลอย ๆ หลังเหน็บฝ่ายค้านโลกงง ขอระบุให้ชัดว่าเป็นใคร พรรคไหน แนะเป็นผู้นำประเทศต้องรับฟังคนวิจารณ์ ยันทำหน้าที่ฝ่ายค้านเต็มที่

วันนี้ (4 เม.ย. 67) ที่อาคารรัฐสภา นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ถึง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ว่าเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังที่ “โลกเซ็ง” ก่อนที่นายเศรษฐาจะตอบกลับไปว่า “ฝ่ายค้านโลกงง วันหนึ่งจะเป็นฝ่ายค้าน อีกวันหนึ่งก็ขอเข้าร่วมรัฐบาล”

นายชัยชนะ กล่าวว่า สิ่งที่นายกฯ บอกว่าฝ่ายค้านจะขอเข้าร่วมรัฐบาล ขอให้ระบุออกมาเลยว่าเป็นใคร พรรคไหน อย่าพูดลอย ๆ เพราะผู้นำประเทศต้องมีวุฒิภาวะ การจะออกมาพูดกับสังคมให้น่าเชื่อถือ ต้องระบุว่าเป็นใคร การถามตอบในสภาการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นหน้าที่ที่ฝ่ายค้านต้องวิจารณ์และแนะนำรัฐบาล โดยสิ่งที่ผู้นำประเทศควรทำคือการรับฟังความคิดเห็นจากฝ่ายค้านและนำไปแก้ไขในจุดที่บกพร่อง

“หากทำตัวเป็นซุปเปอร์แมนไม่ฟังใคร ผมคิดว่าบริหารประเทศไม่ได้ ด้วยผู้นำที่มีวุฒิภาวะมีหลักการในการทำงาน สิ่งไหนที่ผิดต้องกล้ารับผิด สิ่งไหนที่ยังไม่ถูกต้อง ไม่ทำตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน” นายชัยชนะ กล่าว

สำหรับบรรยากาศการอภิปรายของฝ่ายค้านวานนี้ ก็ต้องยอมรับว่าเป็นบรรยากาศการเมืองที่ดี เนื่องจากการประท้วงมีน้อยมาก โดยฝ่ายค้านได้หยิบยกข้อเท็จจริง ที่รัฐบาลยังไม่ได้ทำตลอด 7 เดือน มาวิจารณ์และแนะนำในสภาผู้แทนราษฎร พร้อมถามกลับว่าการที่นายกรัฐมนตรีออกมาพูดแบบนี้คิดอย่างไร ขอให้นายกรัฐมนตรีเรียกสติ ให้ดีตั้งสติให้ดี ฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล นั่นคืองานการเมือง หลักเดียวกัน คือ การนำพาประเทศชาติให้มีความมั่นคง

นายชัยชนะ มองว่าการอภิปรายของฝ่ายค้านวานนี้ เป็นบรรยากาศการเมืองที่ดี เนื่องจากการประท้วงมีน้อยมาก โดยฝ่ายค้านได้หยิบยกข้อเท็จจริง ที่รัฐบาลยังไม่ได้ทำตลอด 7 เดือน มาวิจารณ์และแนะนำ ซึ่งเป็นบรรยากาศที่ดีแล้ว การที่นายกฯ ออกมาพูดอย่างนี้ ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่านายกฯ คิดอะไร

ส่วนกระแสข่าวที่ออกมาว่าพรรคประชาธิปัตย์มีแนวโน้มจะไปร่วมกับรัฐบาล นายชัยชนะ ยืนยันว่าข่าวก็คือข่าว เป็นเพียงการคาดเดา เหมือนหมอดูทำนาย ถ้าเป็นจริงก็เหมือนทำนายถูก เป็นเพียงการคาดการณ์ แต่นั่นคือข่าว ส่วนตัวยังไม่ทราบเลยว่ามีข่าวนี้มาได้อย่างไร และที่มีกระแสว่าเป็นการปล่อยข่าวเอง จะปล่อยไปเพื่ออะไร เราเป็นฝ่ายค้าน และวานนี้ก็ทำหน้าที่ในการอภิปรายอย่างครบถ้วน ทำอย่างเต็มที่

“การที่มากล่าวหาลอย ๆ และยึดตามข่าวที่เป็นอยู่ ยึดตามใจตนเองก็มองว่าไม่ใช่ ประเทศนี้เป็นของประชาชนไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง” นายชัยชนะ กล่าว

ส่วนที่ยืนยันได้หรือไม่ว่าจะไม่มี สส.ประชาธิปัตย์ ไปร่วมรัฐบาลในการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งหน้า นายชัยชนะ กล่าวว่าจะยืนยันได้อย่างไร การปรับคณะรัฐมนตรีไม่ใช่หน้าที่ฝ่ายค้านแต่เป็นหน้าที่ของรัฐมนตรี เรื่องอนาคตที่ยังมาไม่ถึงยังพูดไม่ได้ แต่ปัจจุบันนี้ยังเป็นฝ่ายค้านอยู่ ขณะนี้ยังไม่ได้มีพูดคุยกับสมาชิกพรรคในเรื่องนี้ แต่ยืนยันว่าข่าวที่ออกมาก็เป็นเพียงข่าว ต้องคิดด้วยว่าข่าวที่ออกมาก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ออกมาเพื่ออะไร ทำไมถึงไม่ออกหลังจากนี้ ทำไมต้องออกมาก่อนล่วงหน้าการอภิปราย 1-2 วัน ต้องมองการเมืองด้วย

เมื่อถามว่าถูกวางยาใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า คิดได้ทั้งหมด จะโดนวางยาก็ได้ หรืออาจจะมาจากผู้ประสงค์ดีหรือร้ายก็ได้ เข้าใจการเมืองไทย แต่อยากจะบอกว่าบรรยากาศทางการเมืองเปลี่ยนแปลงไปแล้ว เมื่อหยิบยกข้อมูลข้อเท็จจริงมาอภิปราย ก็ไม่มีการยกมือคัดค้าน ซึ่งนายกณ ต้องรับในข้อวิจารณ์ หากเป็นซุปเปอร์แมนไม่ต้องยอมรับ ทำคนเดียวได้เป็นซุปเปอร์แมน แต่วันนี้ต้องทำงานร่วมกับคน 67 ล้านคน สภาผู้แทนราษฎร ทั้ง 500 คน ต้องยอมรับข้อเท็จจริง นโยบายต่าง ๆ ที่แถลงไว้ แล้วทำไม่ได้ ก็ต้องถูกทวงถาม

นายชัยชนะ กล่าวว่า ขอให้ตามการอภิปรายในวันนี้ เพราะการอภิปรายตามมาตรา 152 เป็นการเสนอแนะทางความคิด แนะนำติติงรัฐบาล หลักการในการอภิปรายในข้อมูลและข้อเท็จจริงในการบริหารประเทศอยู่ที่การอภิปรายตามมาตรา 151 ซึ่งต้องรอสมัยการประชุมหน้า แต่หากอภิปรายเรื่องการทุจริตคอรัปชั่น ต้องรอให้รัฐบาลได้ใช้งบประมาณก่อน