POLITICS

‘มงคลกิตติ์’ ขอครอบครัวละเสียง มั่นใจได้กลับสภา ชูนโยบายดึงงบคาสิโน

‘มงคลกิตติ์’ ขอครอบครัวละเสียง มั่นใจกลับสภาฯ แน่ รอจับมือพรรค ส.ส. มากสุด เตือน รทสช. เป็นฝ่ายค้าน “เบา ๆ กับรัฐบาลหน่อย” ชูนโยบายดึงงบคาสิโนอุดหนุนประชาชน ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จชต. “เอาบังเกอร์คืนราชการ”

วันนี้ (4 เม.ย. 66) นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ให้สัมภาษณ์กับ The Reporters ก่อนนำยื่นสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ ณ ศาลาว่าการ กทม.2 (ดินแดง) เขตดินแดง กทม.

นายมงคลกิตติ์ เปิดเผยว่า ตั้งใจจะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อทั้งหมด 30 คน แต่เอกสารไม่ครบถ้วน จึงทำการยื่นสมัครแค่ 27 คน แล้วจะมีการสมัครเพิ่มในภายหลัง

นายมงคลกิตติ์ ยังได้กล่าวแนะนำ นายพิเชษฐ สถิรชวาล อดีต ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เป็นผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 2 ของพรรคไทยศรีวิไลย์ และประธานยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจ พรรคไทยศรีวิไลย์ เท่ากับมีอดีต ส.ส. ถึง 5 คน

“กลับ (สภาฯ) มันได้กลับอยู่แล้ว เพียงแต่จะกี่คนเท่านั้นเอง ก็ต้องแล้วแต่พี่น้องประชาชนทางบ้าน”

นายมงคลกิตติ์ ยังระบุถึงนโยบายของพรรคไทยศรีวิไลย์ทั้งเรื่องนโยบาย บัตรคนจน 500,000 ใบ มูลค่า 3000 บาทต่อเดือน บัตรคนชรา 5000 บาทต่อเดือน
เงินผดุงเกียรติ์ทหารผ่านศึก ชั้น 2-4 อีก 267,000 นาย รวมทั้งเงิน อสม. อพปร. และคนพิการ เดือนละ 3000 บาทต่อเดือน นโยบายเรื่องการเสียชีวิตมอบเงินจำนวน 5 แสนบาท โดยนำงบประมาณทั้งหมดจากการเปิดเศรษฐกิจพิเศษธุรกิจคาสิโน ซึ่งคาดการณ์ว่าแต่ละโซนจะทำเงิน 5 หมื่นล้านบาท ถือเป็นการหาเงินจากต่างประเทศอย่างเดียว ไม่รบกวนเงินในประเทศ นอกจากนั้น ยังมีนโยบายการอัดฉีด 150,000 บาทต่อครัวเรือน โดยการผ่อนชำระ

นอกจากนโยบายด้านเศรษฐกิจ นายมงคลกิตต์ ยังได้กล่าวถึงนโยบายการปฏิรูปขบวบการยุติธรรม ด้วยการออกพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สำนักงานทนายรัฐโดยให้ทนายความ 20,000 อัตราว่าความให้ทั้งโจทก์และจำเลย โดยที่ประชาชนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เพื่อให้เกิดความยุติธรรมมากขึ้น รวมถึงการแก้ไข พ.ร.บ. คดีอาญา โดยจะแยกกระบวนการยุติธรรมออกเป็นส่วนๆ เพื่อการตรวจสอบและถ่วงดุล อาทิ การให้สถาบันนิติเวชวิทยา ซึ่งสังกัดกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติในปัจจุบัน ย้ายไปสังกัดกระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานพิสูจน์หลักฐานซึ่งปัจจุบันอยู่ภายใต้สังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติเช่นเดียวกัน ไปสังกัดกับกระทรวงยุติธรรม

นอกจากนั้น ยังได้ระบุถึงการแก้ไข พ.ร.บ. จราจรทางบก โดยจะยกเลิกส่วนแบ่งค่าปรับจราจร และให้เน้นเรื่องการปรับทางปกครอง เช่น การพักหรือยึดใบอนุญาตขับรถ โดยระบุถึงอัตราค่าปรับว่าจะต้องไม่เกิน 2.5% ของรายได้ต่อเดือน

นายมงคลกิตติ์ ยังได้กล่าวถึงนโยบายในการแก้ปัญหาความขัดแย้งสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยจะมีการสนับสนุนให้ชาวมุสลิมเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์คนละครั้งในชีวิต รวมถึงยกเลิกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ฉุกเฉินฯ และคืนทหารในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้อยู่ในสภาวะปกติ ให้สามารถมีนักท่องเที่ยวและเศรษฐกิจที่ดี เรียกว่าเอาบังเกอร์คืนราชการไป

“ทุกนโยบายเราทำได้หมด ขอเพียงครอบครัวละหนึ่งคะแนน ป้ายหาเสียงเราไม่เยอะ รถแห่เราไม่เยอะ ขอประชาชนไปดูที่หน่วยเลือกตั้งว่าพรรคไทยศรีวิไลย์เบอร์อะไร จะไม่ทำให้พี่น้องประชาชนผิดหวัง เพราะพรรคเราไม่ซื้อเสียง ไม่ทุจริตการเลือกตั้ง ไม่เหมือนพรรคอื่น มีไม่เกินประมาณ 10%”

พรรคไทยศรีวิไลย์ ยังเสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเพียงหนึ่งชื่อ คือ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ซึ่งนายมงคลกิตติ์ ระบุว่า “เป็นไปตามโพล นิด้าโพล”

ส่วนทิศทางในอนาคตจะจับมือกับพรรคที่มีจำนวน ส.ส. มากที่สุด หรือพรรคที่มีเสียงสนับสนุนจากสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) นายมงคลกิตติ์ ตอบว่า จะจับมือกับพรรคที่มี ส.ส. มากที่สุด และไม่คิดถึง ส.ว. เพราะไม่มีประโยชน์อะไรในจุดนี้ ให้เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยปกติ

นายมงคลกิตติ์ ยังกล่าวถึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาว่า ท่านไม่ได้เป็น ส.ส. อยู่แล้ว ท่านไม่ได้ลงบัญชีรายชื่อ ส่วนพรรคของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ คงได้เป็นพรรคฝ่ายค้านอยู่แล้ว ก็ต้องเบา ๆ กับพวกของนายมงคลกิตติ์หน่อย เพราะจะเป็นรัฐบาล

Related Posts

Send this to a friend