POLITICS

‘ภูมิธรรม’ คุย ผู้ช่วย รมต.มั่นคงฯ จีน ปมคอลเซ็นเตอร์ เผย 2 ชาติ เห็นพ้องแก้ปัญหา

‘ภูมิธรรม’ คุย ผู้ช่วยรัฐมนตรีมั่นคงฯ จีน ปมคอลเซ็นเตอร์ เผย 2 ชาติ เห็นพ้องแก้ปัญหา ผุด เวทีหารือดึงเมียนมาร่วม ยอม รับจีนมีข้อมูลเยอะ – ชื่นชมไทยซีลชายแดน บอก ‘รังสิมันต์’ ให้เปิดชื่อมาเลยจะจัดการให้ อย่าบอกแค่อักษรย่อ

วันนี้ (4 ก.พ. 68) ที่กระทรวงกลาโหม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังหารือกับ นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงและสาธารณะ สาธารณรัฐประชาชนจีน และคณะ เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ บริเวณแนวชายแดนไทย – เมียนมา

นายภูมิธรรม เปิดเผยว่า ทางการจีนมาประชุมกับกระทรวงกลาโหมในระดับปฏิบัติงาน โดยพูดคุยกับ พล.อ.ธราพงษ์ มะละคำ รองปลัดกระทรวงกลาโหม ที่เป็นหัวหน้าคณะเจรจา ซึ่งได้คุยเรื่องงานที่จะต้องร่วมมือกัน แต่ยังไม่ได้รับรายงานหลังจากการพูดคุย และมาเยี่ยมตนเองอย่างไม่เป็นทางการ โดยนำความปรารถนาดีของรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงของจีนมาให้ ซึ่งตนเอง และรองนายกฯ ความมั่นคงจีน และอีกหลายคนได้พูดคุยกันมาต่อเนื่องเป็นเดือนแล้ว ในหลายเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เป็นปัญหา เพราะคิดว่าปัญหาเหล่านี้หากประเทศใดประเทศหนึ่งดำเนินการแก้ไขคงไม่จบ แต่ต้องเกิดจากหลายๆ ส่วนพูดคุยกัน ซึ่งเขาก็มีข้อมูลในหลายส่วนเยอะเหมือนกัน

อีกทั้ง เรื่องนี้ทำความเสียหายกับทุกประเทศ ซึ่งไทยก็เสียหาย โดยในหนึ่งปีมีผู้เป็นเหยื่อ 557,500 ราย สูญเสียเงินกว่า 68,000 ล้านบาท หากคิดเป็นรายวันตกวันละ 80 ล้านบาท เพราะฉะนั้นเราก็ต้องจัดการ รวมถึงการซีลชายแดนไม่ใช่แค่เรื่องยาเสพติด แต่รวมไปถึงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อาชญากรรม และการค้ามนุษย์ ตามแนวชายแดน ซึ่งเขาก็อยากให้เราทำแต่เราทำไปก่อนแล้ว และจีนได้ขอบคุณและชื่นชมไทย

นอกจากนี้ จีนอยากให้ไทยช่วยตัดเส้นทางลำเลียง เพื่อช่วยสกัดกั้นทุกทาง ส่วนถึงขั้นปิดชายแดนหรือไม่นั้น คงต้องพิจารณา แต่ได้บอกไปแล้วว่าในการตัดสินใจเรื่องนี้ต้องเป็นความเห็นร่วมกันในฐานะที่มีปัญหาร่วมกัน และต้องเคารพอธิปไตยของประเทศไทยด้วย ซึ่งจีนก็ตอบรับ นอกจากนี้ยังมีแนวคิดการจัดประชุมร่วม 3 ฝ่าย ระหว่างไทย จีน และเมียนมา

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ที่หลายคนมองว่าทำไปแล้วจะมีปัญหากับภาคธุรกิจที่ได้รับสัมปทานหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ถ้ากระทบกับความมั่นคงภายในสามารถจัดการได้ ตามที่ได้ระบุจำนวนเหยื่อ 500,000 กว่าราย มูลค่าความเสียหาย 68,000 ล้านบาท มันเสียหายอยู่แล้ว ซึ่งการประชุม สมช.วานนี้ เขาชี้แล้วว่าเป็นปัญหาภัยความมั่นคง วันนี้เพื่อให้ชัดเจนเป็นทางการมากยิ่งขึ้น จะใช้มติ สมช. ส่วนคำสั่งตัดไฟนั้นจะเร็วสุดได้เย็นนี้หรือในวันพรุ่งนี้หรือไม่นั้น รับว่าเป็นเรื่องด่วน แต่จะแค่ไหนอย่างไรนั้นยังไม่ได้ประชุม

นายภูมิธรรม ระบุว่า วันนี้เป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ในชั้นต้นตกลงกันว่าเราควรจะร่วมมือกัน เพราะไม่สามารถให้ประเทศใดประเทศหนึ่งจัดการได้ จัดการที่ไทยก็ไปโผล่ที่ประเทศอื่น โดยเราจะต้องทำหลายที่ไม่ใช่เฉพาะแค่ จ.ตาก ยังมีจังหวัด แม่ฮ่องสอน เชียงราย กาญจนบุรี ก็ยังมี เพราะฉะนั้นมาตรการนี้เราจะเริ่มจากจุดต่างๆ นี้ไป

นายภูมิธรรม ยืนยันว่า การมาในครั้งนี้ไม่ใช่การกดดันประเทศไทย เพราะสิ่งที่จีนขอมาเราทำมาอยู่แล้ว และการที่เขาเสนอมาก็ตรงกับที่เราเห็น เรามีปัญหาร่วมกันจะแก้ปัญหาร่วมกัน แต่ต้องเคารพอธิปไตยของแต่ละประเทศ เขาก็บอกว่าเขาไม่มีเหตุผลที่จะต้องมากดดันอะไรเรา และก็เคารพในอำนาจอธิปไตยของบ้านเรา

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ นายรังสิมันต์ โรม สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ที่ออกมาระบุว่า พลตำรวจตรี ต.เต่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และการพนันนั้น นายภูมิธรรม ตอบว่า “อย่าพูดเป็นแบบอักษรย่อ หรือดราม่า มาบอกผมเลย และเอาหลักฐานมาให้ด้วย ผมจัดการเอง มาพูดแบบนี้ ผมจะไปเดาได้อย่างไรว่า ต.เต่าที่ใด ต.เต่า เต็มไปหมดเลย ในสระก็มี”

Related Posts

Send this to a friend