รมว.-ปลัด ทส. ย้ำไม่เคยเรียกรับทรัพย์เพื่อโยกย้าย ขออย่าปรักปรำ
รอเผยผลคืบหน้าสอบข้อเท็จจริงอธิบดีหลังครบ 7 วัน ย้ำ ทำงานโปร่งใสตรวจสอบได้ เตรียมเรียกทุกรายชื่อที่ปรากฏบนซองเงินมาสอบ
วันนี้ (4 ม.ค. 66) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงความคืบหน้าในกรณี นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ที่ถูกเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมตัว พร้อมหลักฐานซองที่ใส่เงิน
นายวราวุธ ระบุว่า วันนี้เริ่มต้นการทำงานปีใหม่ของกระทรวง ได้มอบนโยบายเน้นย้ำให้ความสำคัญกับประชาชน รวมถึงข้าราชการในกระทรวงทุกระดับ และยังย้ำถึงการทำงานที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ ตรงไปตรงมา และรวดเร็ว ที่สำคัญที่สุดไม่มีนโยบายที่จะปกป้องใคร ผิดถูกว่าไปตามกฎหมาย ส่วนความคืบหน้า ขณะกรรมการชุดตรวจสอบ กรณีนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ที่ถูกจับกุมพร้อมหลักฐานเงินสด มีการเรียกรับเงินแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการในกระทรวงนั้น ซึ่งตามกรอบกำหนดเวลาคือ 7 วัน ซึ่งตอนนี้ถ้านับวันที่รวมวันหยุดปีใหม่ก็ใกล้ครบ 7 วันแล้ว แต่ถ้านับวันตามระดับราชการยังไม่ถึง 7 วัน
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า คณะกรรมการได้เรียกเฉพาะบุคคลที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำ ส่วนที่มีรายชื่อปรากฎตามข่าวก็ต้องนำมาสอบให้หมด ขณะนี้มีเพียงอธิบดีฯ ที่ถูกสอบสวน ส่วนผอ.สำนักงบประมาณ ก็จะถูกเรียกมาสอบปากคำต่อไป เช่นเดียวกับนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ทางกรรมการก็ต้องเรียกมาสอบสวนเพราะถือว่าเป็นคนที่แจ้งเบาะแสและให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่
ส่วนข้อเสนอของมูลนิธิสืบนาคะเสถียรที่เรียกร้องให้รัฐมนตรีและบุคคลที่เกี่ยวข้องไปดูแลข้าราชการที่ถูกโยกย้ายไม่เป็นธรรมนั้น ได้รับเรื่องไว้แล้ว ซึ่งรัฐมนตรีได้สั่งการให้ตรวจสอบ ขณะเดียวกับเห็นว่า การแต่งตั้งโยกย้ายตำแหน่งในสังกัดการปกครอง อำนาจของอธิบดีอาจจะดูตามความเหมาะสม แต่หากอะไรที่ไม่เป็นธรรม ก็ต้องกลับมาดูรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นการขอย้ายเพื่อกลับภูมิลำเนา ไปหาครอบครัว อยู่กับพ่อแม่ จะปรักปรำอธิบดีทั้งหมดไม่ได้ แต่ยืนยันว่าการดำเนินการตรวจสอบทั้งหมดต้องโปร่งใสและเป็นธรรม
ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า เงินที่เตรียมไว้ในวันนั้น กำลังจะไปมอบให้คนระดับสูง แต่ถูกบุกจับเสียก่อนนั้น นายจตุพร กล่าวว่า ก็ต้องย้อนกลับไปสอบสวน จะไปกล่าวหาว่านำเงินไปมอบให้คนนั้น คนนี้ไม่ได้ และยืนยันว่าตนเองต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย วันนี้ยังไม่รู้เลยว่าเงินที่เห็นในข่าวมาจากใคร ซึ่งต้องไปสอบสวนอีกที แต่ที่ชัดเจนแล้วคือเงินอยู่ในห้องทำงานของอธิบดีแน่นอน ส่วนจะไปมอบให้ใครที่ไหนก็ต้องไปตรวจสอบต่อ อย่าไปปรักปรำใคร และคนพูดก็ต้องรับผิดชอบ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าเงินที่พบภายในห้องจะถูกนำไปส่งต่อให้คนที่เป็นรัฐมนตรีหรือปลัดฯ หรือไม่นายจตุพร กล่าวว่า ถ้าเกิดพาดพิงระบุชื่อ จะต้องฟ้องร้องกัน จะมากล่าวหาแบบนี้ไม่ได้ ทุกอย่างต้องชัดเจน วันนี้ขอให้รอกระบวนการสอบสวนก่อน แต่ตนเองยืนยันว่าทำงานแบบตรงไปตรงมา ผิดให้ว่าไปตามผิด
