‘ไทยก้าวใหม่’ ชู นโยบายรื้อระบบการศึกษา – ทำได้จริง เรียนฟรีถึง ป.ตรี ไม่มีหนี้ เรียน AI ตั้งแต่ ป.1 นำเทคโนโลยีมาใช้ทุกระดับชั้น
‘ไทยก้าวใหม่’ ชู นโยบายรื้อระบบการศึกษา – ทำได้จริง เรียนฟรีถึง ป.ตรี ไม่มีหนี้ เรียน AI ตั้งแต่ ป.1 นำเทคโนโลยีมาใช้ทุกระดับชั้น ยกเลิกงานครูที่ไม่ใช่การสอน อัพสกิล-รีสกิล ทั้งเด็กและวัยทำงาน ด้าน ‘สุชัชวีร์’ มอง ภัยที่เลวร้ายที่สุดคือ ปัญญาภัย พร้อมชมบูธการใช้เอไอในชีวิตประจำวัน
วันนี้ (3 พ.ย. 68) พรรคไทยก้าวใหม่ นำโดย นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หัวหน้าพรรคไทยก้าวใหม่ ร่วมแถลงนโยบายพลิกโฉมการศึกษาไทย โดยระบุว่า ทุกวันนี้ประเทศบริหารแบบไม่มีความรู้ และไม่มีปัญญาทำให้ปัญหาใหญ่ขึ้น ต้องระวังอุทกภัย วาตภัย และอัคคีภัย ซึ่งเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติ ซึ่งภัยที่น่ากลัวที่สุด คือภัยจากความไม่รู้ จากความไม่มีปัญญา ที่เราเรียกว่า “ปัญญาภัย” ซึ่งยิ่งใหญ่กว่าภัยทั้งมวล และวันนี้เกิดขึ้นในประเทศไทยแล้ว หลายคนไม่สามารถเข้าถึงการศึกษาที่ดีมีคุณภาพ พรรคไทยก้าวใหม่ จึงชูเรื่องการศึกษาเพราะการศึกษาคือ การแก้จน คือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงประเทศ และประเทศจะเปลี่ยนแปลงได้ต้องเริ่มต้นจากห้องเรียน วันนี้ที่ประเทศเต็มไปด้วยภัยทั้งหลายยาแก้เดียว คือ เรื่องการศึกษา
ต่อมา นายวราวิช กำภู ณ อยุธยา รองหัวหน้าพรรคไทยก้าวใหม่ กล่าวเปิดนโยบายด้านการศึกษา ว่า รัฐบาลแก้ปัญหาผิดวิธี เพราะเน้นผลประโยชน์ระยะสั้นเพื่อให้ได้คะแนนนิยม โดยการแจกเงิน เพื่อหวังจะได้คะแนน เป็นการซื้อเวลาแบบไม่สร้างอนาคต รัฐบาลเล่นง่าย แต่กำลังทำลายอนาคตของชาติ นโยบายของรัฐบาลไม่มีการลงทุนกับคนเลยแม้แต่บาทเดียว
พรรคไทยก้าวใหม่ เชื่อว่าคนไทยทุกคนคือต้นน้ำของเศรษฐกิจดังนั้นสิ่งที่เราต้องทำ คือการลงทุนสร้างคน และคนเท่านั้นที่จะเป็นทางรอดทางเดียวของประเทศ เพราะเราไม่เคยลงทุนสร้างคนมาก่อนเลย เราจะสร้างทุนมนุษย์สร้างคนไทยทุกคนให้มีขีดความสามารถสูงขึ้น เราจะทำทันที โดยแบ่งคนไทยออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือกลุ่มอนาคต ที่กำลังเรียนอยู่ และกลุ่มคนปัจจุบันคือคนที่จบไปแล้ว

ซึ่งนโยบายที่จะนำไปช่วยกลุ่มคนปัจจุบันคือ ต้องเอาเทคโนโลยีไปช่วยคนตัวเล็ก เกษตรกร SME และมนุษย์เงินเดือนที่ต้องการความช่วยเหลือจากภาครัฐ ได้แก่
1.ให้ทุนกับเกษตรกรที่มีบุตรหลานเป็นยุวเกษตรอัจฉริยะ โดยจะส่งอุปกรณ์และคนลงไปสอน 2.นโยบายพลิกชีวิต SME รายย่อย จะไม่สอนแต่จะส่งทีมไปช่วย 3.สกิลปังกระเป๋าตุง ด้วยการทำรีสกิล/อัพสกิล
ขณะที่กลุ่มอนาคต เราต้องรื้อโครงสร้างการศึกษาทั้งระบบ เพราะมีความเหลื่อมล้ำ เด็กหลุดออกจากระบบจำนวนมาก เพราะฉะนั้นเด็กไทยต้องมีทักษะในอนาคต คนมาไม่ตรงปัญหาการศึกษาที่ผลิตคนไม่ตรงกับความต้องการของตลาด ทั้งมหาลัยและอาชีวะ ทำให้ต้องมี 5 นโยบายรื้อระบบการศึกษา 1.Digital transformation ทำแพลตฟอร์มสำหรับการศึกษาระดับชาติที่เป็น Big Data ที่ไม่ใช่แค่กระทรวงศึกษา อาชีวศึกษา แต่รวมถึงอุดมศึกษาด้วย, ต้องมีระบบการจัดการโรงเรียน ที่จะต้องไม่ใช่หน้าที่ของครู, ความรู้ที่ดีขึ้นระบบออนไลน์ เพื่อให้ครูรุ่นใหม่ได้ศึกษา และจะต้องมีครูเพิ่มขึ้นจาก 4 แสนคน เป็น 8 แสนคน โดยใช้ AI เป็นครูผู้ช่วยในการทำการเรียนการสอน และจะนำงานวิจัยขึ้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์ 2.Re-Engineering ต้องบริหารจัดการแบบกระจายอำนาจ, ยกเลิกภารกิจครูที่ไม่เกี่ยวกับการสอนโดยสิ้นเชิง, ยกเลิกระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการเรียนการสอน, เรียนรู้ได้จากผู้เชี่ยวชาญ, ครูครบชั้น ครูตรงวุฒิต้องมี, งบประมาณต้องมีการเสนอขึ้นมาจากเขต 3.Re-Design เด็กวันนี้ต้องมีทักษะ 4C และเน้นการเรียนรู้แบบทำความเข้าใจ, จะต้องมีภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ 2 ต้องสอน AI ตั้งแต่ ป.1, เลิกฟัง จด ท่องสอบ และสร้างอาชีวะเฉพาะทาง และต้องเพิ่มสาขาในมหาลัยให้มากขึ้น 4.อัพสกิล รีสกิล ข้าราชการทุกระดับชั้นที่เกี่ยวกับการศึกษาต้อง up skill ทั้งหมด ครูอาชีวะต้องไปทำงานตอนปิดเทอม 5.โรงเรียนดีใกล้บ้าน จะลดความเหลื่อมล้ำ มีครูตรงวุฒิครบชั้นและทันสมัยได้
ฉะนั้นเราจะเลิกทน เลิกจน ลงทุนสร้างคนกับไทยก้าวใหม่ ฉะนั้นถ้าเราเป็นรัฐบาล ปีหน้าเศรษฐกิจจะโตเป็น 2% ส่วนนโยบายสำหรับเด็กจะต้องเรียนฟรีถึงปริญญาตรี ไม่มีหนี้ เรียน 3 ปีเพียงพอแล้ว ยกเว้นบางวิชาชีพ ต้องจะเพิ่มอาหารเช้า 5 วัน 5 หมู่ 10 มื้อส่งลูกเรียนได้เงิน
นโยบายสำหรับคนเรียนจบแล้ว ได้แก่ เลิกทำงานไร้ประโยชน์, เลิกทำงานที่เพิ่มภาระและไม่ใช่หน้าที่ของตัวเอง, เลิกทำวิทยฐานะแบบไร้เหตุผล, มีเงินใช้ระหว่างเรียน และ Portfolio แบบดิจิทัลตลอดชีวิต
ด้าน นายสุชัชวีร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นโยบายการศึกษาของรัฐบาลไทยก้าวใหม่เราต้องรื้อ และนี่คือสิ่งที่ทำได้จริงพรรคไทยก้าวใหม่ทำแล้ว และจะทำให้กับโรงเรียนทุกโรงเรียนในประเทศไทย
จากนั้น นายสุชัชวีร์ และนายวราวิช ได้เดินเยี่ยมชมบูธ เกี่ยวกับการใช้เอไอ มาประยุกต์ใช้กับการศึกษา การเกษตร













