‘ราเมศ’ ย้อน ‘ณัฐวุฒิ’ ปราศรัยให้ผู้ชุมนุมเผาบ้านเมือง ได้ชดใช้ค่าเสียหายหรือยัง

‘ราเมศ’ ย้อน ‘ณัฐวุฒิ’ ปราศรัยให้ผู้ชุมนุมเผาบ้านเมือง ได้ชดใช้ค่าเสียหายหรือยัง หลังพาดพิง ‘อภิสิทธิ์’ เหตุสลายการชุมนุมปี 53 ยัน ศาลฎีกาตัดสินแล้วไม่ได้ทำผิด ขณะคนใส่ร้าย-แกนนำผู้ชุมนุม ถูกตัดสินให้จำคุก

นายราเมศ รัตนะเชวง รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ พาดพิงถึง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในเหตุการณ์ปี 2553 ว่าคดีที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมในปี 2553 นายอภิสิทธิ์ได้ผ่านกระบวนการยุติธรรมทุกขั้นตอนและถึงที่สุดแล้ว มีการพิสูจน์จนสิ้นกระแสความ นายอภิสิทธิ์ไม่ได้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหา มีคำพิพากษาศาลฎีกา มีคำวินิจฉัยของ ปปช. มีผลการพิจารณาของรายงานของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อปรองดองแห่งชาติ (คอป.) มีเหตุผลรองรับชัดเจน

ในกระบวนการยุติธรรม ศาลชี้ชัดว่าการชุมนุมเป็นการชุมนุมโดยไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มีอาวุธ มีกลุ่มชายชุดดำเข้ามาก่อความไม่สงบ มีการยุยงจากแกนนำให้เผาบ้านเผาเมือง ศาลฎีกามีคำตัดสินให้แกนนำมีความผิดต้องชดใช้ค่าเสียหาย

นายราเมศ ระบุว่า มีเจ้าหน้าที่กลั่นแกล้งตั้งข้อหานายอภิสิทธิ์ฐานฆ่าผู้อื่น ซึ่งเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวชื่อ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ ปัจจุบันอยู่ในเรือนจำ นอกจากนี้ มีคนใส่ร้ายนายอภิสิทธิ์ในทำนองเป็นฆาตกรสั่งฆ่าประชาชนระหว่างการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง คดีนี้ศาลฎีกาตัดสินแล้ว คนใส่ร้ายถูกจำคุกโดยไม่รอลงอาญา จำเลยที่ใส่ร้ายคือ นายจตุพร พรหมพันธุ์ คดีผ่านมาหลายปีแล้ว

ส่วนแกนนำที่ปราศรัยบนเวทียุยงให้ผู้ชุมนุมเผาอาคารบ้านเรือนในกรุงเทพมหานคร ศาลฎีกาได้ตัดสินให้แกนนำมีความผิดในทางแพ่งต้องชดใช้ค่าเสียหาย ซึ่งนายณัฐวุฒิคือหนึ่งในจำเลย อยากถามว่าไปชดใช้ค่าเสียหายหรือยัง ทั้งนี้ นายณัฐวุฒิทราบข้อมูลต่าง ๆ เหล่านี้ดี จะให้องค์กรไหนตรวจสอบอีก ในเมื่อกระบวนการยุติธรรมได้ตรวจสอบแล้วยุติว่านายอภิสิทธิ์ไม่มีความผิด ไม่อยากให้ใช้วาทกรรมเพื่อทำลายกันในทางการเมือง ทุกคนต้องยอมรับกระบวนการยุติธรรม การนำข้อมูลไปบิดเบือนเพียงเพื่อประโยชน์ฝ่ายตนเองเป็นแนวคิดที่ล้าหลัง