นายกรัฐมนตรี พร้อม 3 รมต. ลงพื้นที่ จ. สุรินทร์ ตรวจเยี่ยมกองกำลังสุรนารี
พร้อมรับฟังสรุปสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา ก่อนลงนามสมุดตรวจเยี่ยม “ขอบคุณทหารที่รักษาอธิปไตย” อวยพร ให้ชนะ แคล้วคลาด ขณะแม่ทัพภาคที่ 2 ป้ายแดง ย้ำมีความพร้อมแผนเผชิญเหตุ – สร้างขวัญกำลังใจ ดูแลสวัสดิการทหารอย่างมีประสิทธิภาพ
วันนี้ (3 ต.ค. 68) เวลา 11.45 น. ที่กองบัญชาการกองกำลังสุรนารี นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย พล.อ. ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์, นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย, พล.ท. อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม, พล.อ. อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด, นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และคณะผู้บริหารหน่วยงานความมั่นคงฯ เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ มาที่ท่าอากาศยานสุรินทร์ภักดี จ. สุรินทร์ เพื่อลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา และตรวจเยี่ยมประชาชน ติดตามการช่วยเหลือ และเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบ
ต่อมา นายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางมาที่กองบัญชาการกองกำลังสุรนารี จ. สุรินทร์ โดยมี พล.ท. วีระยุทธ รักศิลป์ แม่ทัพภาคที่ 2, พล.ต. สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับ โดยนายกรัฐมนตรี นำคณะ ถวายราชสักการะพระรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ก่อนจะร่วมถ่ายภาพหมู่ร่วมกัน
จากนั้น นายกรัฐมนตรี และคณะ ได้ร่วมฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา จ. สุรินทร์ โดยมีแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นผู้รายงานสถานการณ์ ว่า ขอบคุณที่นายกรัฐมนตรีที่มาตรวจเยี่ยมศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ซึ่งทางศูนย์ปฏิบัติการตามแนวความคิดรักษาความมั่นคงตามแนวชายแดน ตามพันธกิจ 5 ประการ เพื่อสร้างความมั่นคงและสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัยตามแนวชายแดน ซึ่งยังคงมีเงื่อนไขที่สำคัญดังนี้ ด้านลาว ปัญหาที่สำคัญคือ ปัญหาสันดอนในแม่น้ำโขง ที่เกิดจากสนธิสัญญาที่มีมาในอดีต และปัญหายาเสพติด มีผลการจับกุมยาบ้า ยาไอซ์ในปริมาณมากที่สูงขึ้น
ขณะที่ กัมพูชามีปัญหาสำคัญคือ ปัญหาแนวชายแดน ปัญหาเรื่องเขตแดน และการลักลอบตัดไม้ ได้มอบให้กองกำลังสุรนารีรับผิดชอบ 5 จังหวัด และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง โดยมีแนวทางปฏิบัติที่สำคัญดังนี้ ปัญหาเส้นเขตแดนในห้วงที่ผ่านมา เกิดปัญหาความขัดแย้งจนถึงการใช้กำลังทางทหาร ส่งผลให้เกิดความสูญเสียแก่กำลังทหารและประชาชน ตั้งแต่วันที่ 24 – 28 กรกฎาคม 2568 ได้มีการเจรจาข้อตกลงหยุดยิง ที่ประเทศมาเลเซีย
ส่วนหน่วยในพื้นที่ปัจจุบัน ได้วางกำลังควบคุมระยะสำคัญ ที่จะได้เปรียบทางยุทธวิธี จัดตั้งจุดศูนย์กลางเพิ่มมาตรการเฝ้าตรวจ ทั้งกำลังพล และเครื่องมือ ปรับปรุงที่มั่นดัดแปลงให้แข็งแรง รวมถึงเส้นทางที่มีการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ปรับปรุงแผนเผชิญเหตุให้สอดคล้องกับสถานการณ์ โดยให้ความสำคัญกับการจัดการเหตุการณ์ การดำเนินการ และการยุทธ์ ให้มีความพร้อมในการเผชิญสถานการณ์ เพื่อปฏิบัติได้ตามแผนที่กำหนด อีกทั้งกำกับดูแลเรื่องสวัสดิการกำลังพลทุกระดับ เสริมสร้างขวัญ และกำลังใจ เพื่อให้ปฏิบัติภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้อุดมการณ์ของกองทัพบก เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามในสมุดเยี่ยมของกองบัญชาการกองกำลังสุรนารีว่า “ขอเป็นกำลังใจ และขออำนวยพรให้พี่น้องทหารปฏิบัติภารกิจรักษาอธิปไตยของชาติทุกคน จงประสบชัยชนะ และแคล้วคลาดจากภัยอันตรายทั้งปวง ด้วยความเคารพ และขอบพระคุณยิ่ง” ก่อนจะร่วมมอบสิ่งของบำรุงขวัญ และให้กำลังใจให้กับกำลังป้องกันชายแดนของกองกำลังสุรนารี
อย่างไรก็ตามการลงพื้นที่วันนี้ของนายอนุทิน ถือว่าเป็นครั้งแรก ตั้งแต่ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้สวมเครื่องแบบกองอาสารักษาดินแดน ติดยศนายกองใหญ่ เทียบเท่ายศพลเอก ซึ่งเป็นยศของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการกองอาสารักษาดินแดน กระทรวงมหาดไทย












