POLITICS

‘ภูมิธรรม’ ชี้ แก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องฟังความเห็นรอบด้าน เตรียมถามความเห็นหลายฝ่าย

‘ภูมิธรรม’ เผย ตั้งคณะกรรมการศึกษาแนวทางทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว ชี้ ต้องฟังความเห็นให้รอบด้าน เตรียมถามความเห็นหลายฝ่าย รอ ‘ก้าวไกล’ ส่งชื่อ คาดประชามติชัดเจนภายในสิ้นปีเร่งแก้ไขให้เสร็จภายใน 4 ปี

วันนี้ (3 ต.ค. 66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แถลงข่าวเรื่องแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า นายกรัฐมนตรีได้ลงนามจัดตั้งคณะกรรมการศึกษาแนวทางการทำประชามติ แก้ไขปัญหาความคิดเห็นที่แตกต่าง โดยจะร่างรัฐธรรมนูญผ่านการทำประชามติก่อน หลักการคือจะไม่แตะต้องหมวด 1 – 2 และไม่แตะต้องพระราชอำนาจ แต่มีกระบวนการที่เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น และต้องเสร็จสิ้นภายใน 4 ปี ของการทำงานรัฐบาล รวมถึงกฎหมายลูกด้วย

นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า สำหรับวิธีการในการทำประชามติ มีแนวทางดังนี้ 1. ประชาชน 50,000 คนเข้าชื่อ ซึ่งวิธีนี้ต้องใช้เวลาตรวจสอบตัวตนค่อนข้างมาก 2. ยื่นเสนอผ่านรัฐสภาใช้เวลามากเช่นกันและอาจตกได้ และ 3. ให้คณะรัฐมนตรีมีมติทำประชามติ ครม. ซึ่งถือเป็นการลัดขั้นตอน จึงตั้งคณะกรรมการเพื่อจัดทำ โดยมีหลักการเดียวกัน แต่อาจแตกต่างในรายละเอียด

นายภูมิธรรมระบุว่า คณะกรรมการมีทั้งสิ้น 35 คน ด้วยความคิดที่ต้องการให้ครอบคลุมที่สุด โดยจะเริ่มจากไปคุยกับคนจากกลุ่มวิชาชีพต่าง ๆ เช่น สภานักศึกษา กลุ่มนักธุรกิจ สมาคมธนาคาร ประมง นักท่องเที่ยว กลุ่มเกษตรกร นายกสมาคมนักข่าว ซึ่งล้วนเป็นผู้ได้รับผลกระทบ อยากให้ครอบคลุมทุกภาคส่วน เพื่อให้ได้ความคิดเห็นที่กว้างขวางที่สุดเท่าที่ทำได้ รวมทั้งจะเชิญตัวแทนพรรคการเมืองทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ซึ่งวันนี้ นายกรัฐมนตรีได้ลงนามในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 256/2566 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นแตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 โดยมีตนเองเป็นประธาน ซึ่งวางกรอบไว้ว่า 3 – 4 เดือน หรือสิ้นปีนี้ จะมีข้อสรุปในการทำประชามติ และขณะนี้ยังรอรายชื่อจากทางพรรคก้าวไกลว่าจะส่งใครมาเป็นคณะกรรมการ

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจะต้องมีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็ต้องสำรวจความเห็นทำประชามติอีกครั้ง รวมถึงดูกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ให้รอบคอบ การทำประชามติ 1 ครั้ง ใช้เงินกว่า 4 – 5 พันล้านบาท นับเป็นงบประมาณจำนวนมาก หากทำประชามติหลายครั้งก็จะสูญเสียงบประมาณในส่วนนี้ ถ้าตามข้อกฎหมายทำได้ ก็พร้อมประสานกันจะดีที่สุด ทำให้ลดระยะเวลาในการทำงานด้วย

ส่วนหาก พรรคก้าวไกลไม่ส่งชื่อเข้าร่วมคณะกรรมการรัฐธรรมนูญฉบับนี้จะเป็นที่ยอมรับหรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า “ผมก็ยังรอการมาร่วมในกรอบรัฐธรรมนูญแบบนี้ ควรมาร่วมกันทำทุกฝ่าย แต่ถ้าไม่พร้อม ไม่สนใจ เราก็มีเวทีการรับฟังความเห็น ซึ่งจะบันทึกความเห็นต่าง เพื่อนำมาพิจารณา หวังว่าจะหาจุดร่วมกันได้”

สำหรับข้อกังวลของพรรคก้าวไกลที่ไม่ส่งรายชื่อเนื่องจากรอความชัดเจนว่า สสร. จะมาจากการเลือกตั้งหรือแต่งตั้งนั้น นายภูมิธรรม ระบุว่า เรื่องนี้ก็ต้องมาเสนอกันในที่ประชุม พรรคก้าวไกลไม่ใช่ทั้งหมดของตัวแทนประชาชน เป็นเพียง 1 ความเห็น ถ้าคุยกันจบ ก็เดินหน้าต่อ ถ้าไม่ผ่านก็ต้องไปต่อเหมือนกัน

ในกรณีที่มีาการตั้งกรอบไว้ว่าจะไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญในหมวด 1 หรือ หมวด 2 นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไป เราดูจุดสำคัญในปัญหา เราพยายามสลายความขัดแย้ง หาทางให้ประเทศไปต่อได้ จึงงดเว้นไปก่อน เราต้องทำรัฐธรรมนูญให้ผ่านให้ได้

ส่วนรายชื่อและแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญของ iLaw จะนำมาปรับใช้ด้วยหรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า ตอนแรกเราจะเชิญมาร่วมเป็นหนึ่งในตัวแทนคณะกรรมการด้วย แต่เห็นไปออกรายการ ว่าไม่อยากเป็นตัวแทนมาเพื่อแสตมป์ให้ว่ายอมรับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ จึงไม่ได้มาร่วมด้วย แต่ยืนยันว่าจะรับฟังเสียงจากตัวแทนภาคประชาชน

สำหรับความชัดเจนเรื่องวันในการลงประชามติของประชาชนนั้น นายภูมิธรรม ระบุว่า การประชุมครั้งหน้าจะชัดเจนยิ่งขึ้น ตอนนี้วางเวลาไว้คร่าว ๆ แล้ว แต่ต้องรอดูก่อน และเรื่องการทำประชามติไม่ควรเกินเดือนธันวาคม จะพยายามทำให้เร็วที่สุด หรือถ้าไม่เสร็จก็ต้องมีเหตุผลอธิบายประชาชน โดยคาดว่าจะบวกลบไม่เกิน 3 เดือน

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าได้หารือเบื้องต้นในที่ประชุมหรือไม่ว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้จะไม่ถูกทำรัฐประหารแล้วถูกฉีกทิ้งอีก นายภูมิธรรม ตอบว่า เรื่องฉีก หรือไม่ฉีกเป็นวัฒนธรรมทางการเมือง ให้พี่น้องรับรู้ว่าการทำรัฐประหาร คนส่วนใหญ่ไม่อยากเห็น เพราะก็พิสูจน์แล้วว่า ทำให้กลไกอำนาจไปรวมศูนย์ แม้ใช้ไปในทางที่เกิดประโยชน์บ้าง แต่ก็ไร้ผล ครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้นก็ทำให้ประเทศล้มเหลวพอสมควร ขึ้นอยู่ที่สำนึกของพี่น้องประชาชนที่มากขึ้น ก็จะทำให้รัฐประหารเกิดขึ้นได้ยาก

ส่วนการตั้งข้อสังเกตว่าคณะกรรมการชุดนี้มีสัดส่วนจากพรรคเพื่อไทยมากกว่าพรรคอื่น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ได้คิดเรื่องจำนวน เราเอาคนไปทำงาน จะจำนวนมากน้อยแค่ไหนก็ไม่เป็นผล เพราะเรามีเป้าหมายเพื่อผลักดันเรื่องนี้ให้เสร็จ

Related Posts

Send this to a friend