‘โรม’ ขอทุกฝ่ายโหวตหนุนแก้ รัฐธรรมนูญ ม.272 เตือน สว.อย่าทำองค์ประชุมล่ม
‘โรม’ ขอทุกฝ่ายโหวตหนุนแก้ รัฐธรรมนูญ ม.272 เตือน สว.มีวุฒิภาวะ อย่าใช้วิชามารทำองค์ประชุมล่ม
วันนี้ (3 ส.ค.66) นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล เปิดเผยถึงการพิจารณาวาระแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ในวันพรุ่งนี้ (4 ส.ค. 66) ว่าศาลรัฐธรรมนูญเลื่อนวินิจฉัยคำร้องขอสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ในประเด็นที่มีปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับการยื่นญัตติซ้ำของรัฐสภา ขัดกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ สุดท้ายนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา มีข้อสั่งการให้เลื่อนการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีออกไป และจะมีการพิจารณาวาระที่พรรคก้าวไกลยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ปิดสวิตช์ สว.
เราไม่สามารถที่จะมีนายกฯ ตามความต้องการของพี่น้องประชาชน ซึ่งเป็นผู้ทรงอำนาจสูงสุดของประเทศ การโหวตนายกฯ ที่มีการเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลจบลงด้วยการที่ สว.ส่วนใหญ่ไม่ให้ความเห็นชอบ ชัดเจนว่าหากไม่มีมาตรา 272 เราคงมีนายกฯ แล้ว มาตรา 272 ที่ไม่ชอบด้วยประชาธิปไตยมาตั้งแต่ต้น กลายเป็นหล่มทางการเมือง เราต้องรีบเอาหล่มทางการเมืองนี้ออก เพื่อให้มีนายกฯ ของประชาชน
หล่มมาตรา 272 สะท้อนรัฐบาลเสียงข้างมากแบบพิสดาร ที่ไม่ได้เกิดจากอุดมการณ์ที่ใกล้เคียงกัน เป็นขบวนการผสมพันธุ์ข้ามสปีชีส์ เป็นไปได้ว่าจะมีการตั้งรัฐบาลที่ไม่สนใจอุดมการณ์ที่ต้องกัน เปิดโอกาสให้ สว.ตั้งเงื่อนไขกับพรรคการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง 14 ล้านเสียง
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่าเราจะปล่อยให้มาตรา 272 เป็นอุปสรรคทางการเมืองต่อไปทำไม เราไม่มีความจำเป็นที่จะต้องคงมาตรา 272 ไว้ โดยกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญและปิดสวิตช์ สว.ใช้เวลาไม่นาน หากพรุ่งนี้สามารถโหวตวาระแรกได้ คาดว่ากระบวนการพิจารณาสามวาระ น่าจะจบภายในหนึ่งเดือน และประกาศในราชกิจจานุเบกษาภายในเดือน ก.ย.นี้ ทำให้ สว.ไม่มีอำนาจลงมติโหวตนายกฯ จบความแปลกประหลาดทางการเมือง ไม่ต้องพึ่งพา สว. และรัฐบาลเสียงข้างน้อย
หากเห็นชอบเรื่องนี้จะเป็นทางลงบันไดหนีไฟให้กับ สว.ที่ต้องการเป็นสวิตซ์ตนเอง จากการรวบรวมข้อมูล สว.ที่เคยเห็นชอบกับการยกเลิกมาตรา 272 อยู่ประมาณ 63 คน ที่ผ่านมาพวกท่านพูดเสมอว่าอยากปิดสวิตช์ตนเอง ดังนั้นการพิจารณาในวันพรุ่งนี้ต้องช่วยกันปิดสวิตช์มาตรา 272 เพื่อเอา สว.ออกจากสมการเลือกนายกฯ
ทั้งนี้ยังได้ยินมาว่ามีความเป็นไปได้ที่อาจจะทำให้องค์ประชุมล่ม ไม่สามารถพิจารณาการยกเลิกมาตรา 272 ได้ จึงหวังว่าทุกฝ่ายอย่าใช้วิชามารทำให้องค์ประชุมล่ม หวังว่าทุกท่านจะมีความจริงใจต่อประชาชนเพื่อทำหน้าที่อย่างมีวุฒิภาวะ ให้ประชาชนมีศรัทธากับการทำหน้าที่ของรัฐสภาต่อไป
เมื่อถามว่าหวังว่าการแก้ไขมาตรา 272 จะเป็นการปลดล็อกการเลือกนายกฯ หรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่าหากการพิจารณาผ่านวาระแรกได้ ทุกฝ่ายต้องทบทวนตนเอง เราคาดหวังว่าจะเป็นบันไดหนีไฟให้ สว.ที่ไม่อยากมีส่วนร่วมในการโหวตนายกฯ เสียดายที่สุดท้ายกระบวนการโหวตนายกฯ ครั้งที่ 2 เกิดขึ้นก่อน หลักการที่สำคัญคืออำนาจในการเลือกนายกฯ ไม่ควรตกอยู่ในมือของคนที่ไม่ได้รับการเลือกตั้งจากประชาชน และไม่มีเหตุผลที่จะไม่ลงมติให้ความเห็นชอบเรื่องนี้
“ขอเรียกร้องต่อ 8 พรรค หวังว่าจะไม่มีการใช้เหตุผลว่าจะทำให้ สว.ไม่พอใจ หากพวก สว.อยากปิดสวิตช์ตัวเองนี่คือโอกาส”
ส่วนที่นายสมชาย แสวงการ สว.เสนอให้เลื่อนการแก้ไขมาตรา 272 ออกไปก่อน นั้น นายรังสิมันต์ ระบุว่าไม่เกี่ยวข้องกับการรอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ขอให้นายสมชายกลับไปอ่านรัฐธรรมนูญให้ดี มันเป็นคนละเรื่องกัน กระบวนการโหวตเรื่องนายกฯ เป็นกระบวนการที่จะต้องทำตามรัฐธรรมนูญ เราเข้าใจความหวังดีของประธานสภาฯ แต่กระบวนการโหวตเรื่องนายกฯ ไม่เกี่ยวข้องกับกระบวนการที่ศาลรัฐธรรมนูญจะต้องตัดสิน
