POLITICS

‘เพื่อไทย’ เชื่อไทยลีกยังมีความนิยมสูง เตือนสมาคมฟุตบอลฯ แก้ปัญหาให้รัดกุม

‘เพื่อไทย’ เชื่อไทยลีกยังมีความนิยมสูง เตือนสมาคมฟุตบอลฯ แก้ปัญหารัดกุม ชี้ให้ความสำคัญลีกรอง เป็นรากฐานพัฒนาเยาวชนและฟุตบอลไทย

วันนี้ (3 ก.ค. 66) นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ส.ส.เลยและคณะทำงานกีฬา พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ทีมฟุตบอลในไทยลีกหลายทีมจะขอแยกตัวมาบริหารจัดการเองว่า การประชุมสภากรรมการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จะมีผลต่อวงการกีฬาฟุตบอลของไทย โดยการดำเนินการของสมาคมฯ และบริษัทไทยลีกฯ เป็นกิจการภายใน แต่การตัดสินใจจะส่งผลกระทบถึงประชาชนหลายภาคส่วน พรรคเพื่อไทยจึงเสนอความเห็น ดังนี้

ประเด็นความพยายามในการแยกลีก T1 ออกจากการบริหารของสมาคมฟุตบอลนั้น สมาคมไม่มีแนวคิดที่จะแยกลีก T1 ออกจากสมาคม การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นก่อนการเปิดลีกเพียง 40 วัน และอยู่ในช่วงที่นายกสมาคมฟุตบอลใกล้หมดวาระ แม้การแยกลีกออกจากการบริหารของสมาคมฟุตบอลเป็นแนวทางที่ทำกันในหลายประเทศ แต่การตัดสินใจที่กระชั้นชิด จะส่งผลต่อลีกรองด้วย สมาคมฟุตบอลจึงควรดำเนินการจัดการแข่งขันฟุตบอลลีกในปีที่จะถึงให้ลุล่วงไปก่อน

ควรมีการทบทวนสาเหตุของความล้มเหลว เพื่อเป็นบทเรียนตัดสินใจสำหรับการเปลี่ยนแปลงโดยให้ความสำคัญในการพัฒนา T2 และ T3 เพื่อเป็นเวทีการพัฒนาเยาวชนและรากฐานฟุตบอลไทย และให้เป็นหน้าที่ของนายกสมาคม และสภากรรมการชุดใหม่ ที่จะนำเสนอเป็นนโยบายต่อสโมสรสมาชิกในการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลที่กำลังจะมาถึงต่อไป

ประเด็นเรื่องประมูลลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดที่ไม่มีผู้เข้าแข่งขัน ทำให้เอกชนได้ลิขสิทธิ์ยื่นเสนอราคาต่ำนั้น ยังเชื่อมั่นว่าไทยลีกมีมูลค่าทางการตลาดสูง โดยเฉพาะในปี 2566 นี้ การดึงตัว ชนาธิป สรงกระสินธ์ กลับมา จะเพิ่มกระแสความนิยมในฟุตบอลลีกของไทยเพิ่มขึ้น

“สมาคมฟุตบอลยังคงมีทางเลือกและวิธีการอีกหลายรูปแบบในการหาผู้สนับสนุนที่จะให้เงินสนับสนุนที่เหมาะสม และเชื่อมั่นว่าจะมีเอกชนที่เห็นถึงความคุ้มค่าในการลงทุน ที่นอกจากเหตุผลทางธุรกิจแล้ว ยังมีเหตุผลทางด้านสังคม เพื่อประโยชน์ของเยาวชน และคนในชาติที่จะได้ดูกีฬาต่อไป” คณะทำงานกีฬาพรรคเพื่อไทย กล่าว

Related Posts

Send this to a friend