POLITICS

‘ภูมิธรรม’ แจงผลงานรัฐบาล 6 เดือน ขอฝ่ายค้านหยุดสร้างวาทกรรทเสียดสี

‘ภูมิธรรม’ แจงผลงานรัฐบาล 6 เดือน เงินน้อยแต่เพื่อนเยอะ ขอฝ่ายค้านหยุดสร้างวาทกรรทเสียดสี อภิปรายในกรอบ

วันนี้ (3 เม.ย. 67) นายภูมิธรรม เวชชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ชี้แจงในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งที่ 32 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 2) ในญัตติการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ว่า เมื่อเช้านี้ มี สส. หลายคนอภิปรายว่านายกฯ ไปต่างประเทศไปทำการตลาดหรือทำตลก มองแล้วเสียดาย แทนที่จะให้กำลังใจกลับทับถมกันในเรื่องไม่ดี การไปต่างประเทศได้พูดคุยเจรจากับบริษัทใหญ่ ๆ หลายบริษัทในต่างประเทศมีการเซ็น MOU เพื่อร่วมลงทุนในไทย สส.ฝ่ายค้านโกหกตัวเองหรือไม่ ไทยมีศักยภาพในการพัฒนา และยกระดับตัวเองในเวทีโลก เพราะเคยอยู่ในยุครัฐบาลรัฐประหารหรือไม่ จึงคุ้นชินกับภาพแบบนั้น ขอให้ทุกฝ่ายสร้างความมั่นใจ สร้างความน่าเชื่อถือ การเสียดสีไม่มีประโยชน์ต่อประเทศชาติ

ส่วนที่ฝ่ายค้านบอกว่าหลายเรื่องยังไม่ได้ดำเนินการเพราะยังไม่มีงบประมาณ และเกิดการคอรัปชั่นนั้น 6 เดือนที่ผ่านมา ทำโครงการไปแล้วโดยยังไม่ได้ใช้เงิน รัฐบาลนี้เงินน้อยแต่เพื่อนเยอะ เงินไม่ได้มีค่าอะไร เช่นเดียวกับกระทรวงพาณิชย์ที่ตนเองกำกับดูแล นำซีรีส์วาย ยูริ โรดโชว์ทำให้เป็นอันดับ 1 ในหลายประเทศ จึงอยากเรียกร้องว่าเงินที่มีจำนวนมากนั้นมาจากเงินเดือนข้าราชการ ไม่ได้เป็นงบลงทุน อย่าพูดความจริงครึ่งเดียว ต้องมองความจริง

เมื่อเช้ามีสมาชิกพูดว่าการส่งออกช่วงนี้ย่ำแย่ ก่อนรัฐบาลนี้เข้าบริหารในเดือน ม.ค.66 การส่งออกติดลบ ในช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปี 66 ติดลบเพียง 1% เท่านั้น ซึ่งเป็นการเติบโตอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลใช้กลยุทธ์ทางการตลาดเชิงรุก มีการเยือนประเทศผู้ค้าทางยุทธศาสตร์ อย่างประเทศจีนเองได้มีการพูดคุยกับประธานหอการค้าในหลาย ๆ มณฑล การเจาะตลาดจีนนั้นเล็งเห็นว่าเป็นตลาดที่มีประชากรและการอุปโภคบริโภคเยอะ ทำให้มีเม็ดเงินเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ยืนยันว่าไม่ได้อยู่นิ่ง การเดินทางไปเยือนของนายกฯ ไม่ใช่การสร้างชื่อเสียงเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการต่อยอดความสัมพันธ์อันดีงามระหว่างไทยและจีน และไม่ได้ใช้งบประมาณเยอะมีเพียงค่าเดินทางและค่าที่พักของทีมงานที่ไปด้วยเท่านั้น

การเปิดการค้าตลาดใหม่ และต่อยอดการค้าตลาดเดิมนั้น ไม่เพียงแค่ในมณฑลใหญ่ ยังมีการขยายตลาดไปยังเมืองรอง นอกจากนี้ไม่ได้ยึดเพียงแค่ตลาดจีน ยังได้เดินทางไปประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อให้กลุ่มอินฟลูเอนเซอร์ทางโซเชียลมีเดีย ได้ลิ้มลองอาหารไทย เพื่อประชาสัมพันธ์อาหารไทย สิ่งเหล่านี้เป็นการทำงานในช่วงที่ไม่มีเงินของรัฐบาลชุดนี้

และจากการพูดคุยกับกลุ่มซิโนเปค ซึ่งเป็นผู้ขายน้ำมันรายใหญ่และมีปั๊มน้ำมันกว่า 30,000 แห่งในประเทศจีนให้เซ็น MOU กับไทยและนำข้าวหอมมะลิของไทย ให้กับลูกค้าของปั๊ม หากเติมน้ำมันตามที่กำหนด สิ่งเหล่านี้คือผลงานที่รัฐบาลซึ่งถูกกล่าวหาว่าไม่ได้ทำอะไรเลย มัวแต่โชว์ ขอฝ่ายค้านช่วยกันทำงาน และเชื่อว่าหากมองตรงประเด็น ความเป็น สส. ซึ่งยังเป็นคนหนุ่มสาว จะช่วยสร้างประโยชน์ให้กับประเทศชาติ ดีกว่าเอาวาทกรรม การเสียดสีมาต่อว่ากัน ดังที่บอกว่าจะทำการเมืองใหม่ด้วยกัน ฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาลสามารถทำงานร่วมกันได้

นายภูมิธรรม กล่าวต่ออีกว่าทุกอย่างที่พูดนั้นอยู่ในกรอบเวลา ฝ่ายค้านมีเวลาตั้งเยอะ ขออย่ากลัวการชี้แจง ขอให้ทั้งสองฝ่ายมีเหตุผลและประชาชนจะเป็นคนตัดสิน และการอภิปรายทั่วไป มาตรา 152 นั้น ควรอยู่ในกรอบที่พอดี ไม่ใช่การอภิปรายเหมือนมาตรา 151 ประเทศชาติเป็นของทุกคนไม่ใช่คนใดคนหนึ่ง อยากเห็นการใช้เวทีนี้ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ทางการเมือง

Related Posts

Send this to a friend