POLITICS

‘จุรินทร์’ เปรียบ ‘เศรษฐา’ บินเก่งเหมือนแมลงวัน บินไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยแต่ไม่ได้อะไร

‘จุรินทร์’ เปรียบ ‘เศรษฐา’ บินเก่งเหมือนแมลงวัน บินไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยแต่ไม่ได้อะไร ห่วงรัฐบาลขายฝันจัดแต่อีเวนต์ ถามเศรษฐกิจไทยวิกฤต เศรษฐีไหนจะมาลงทุน ห่วงระเบียบราชทัณฑ์ใหม่ผุดคุกทิพย์โมเดลซ้ำสอง เจอนักโทษเทวดาตัวใหม่

วันนี้ (3 เม.ย. 67) นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฐ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งที่ 32 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 2) ในญัตติการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ว่ารัฐบาลชุดนี้บริหารราชการแผ่นดินมา 7 เดือน เกินกว่า 1 ใน 8 ของวาระ 4 ปีแล้ว จึงสมควรแก่เวลาที่จะต้องส่งสัญญาณเตือนรัฐบาลในสิ่งที่เห็นว่ารัฐบาลกำลังเดินผิดทาง และพร้อมสนับสนุนรัฐบาลในสิ่งที่รัฐบาลทำเพื่อประโยชน์ของประชาชน

ก่อนมีการเสนอญัตติรัฐบาลพยายามสร้างกระแสว่าจะอภิปรายไปทำไม เพราะยังไม่ได้ใช้งบประมาณสักบาท มองว่าเป็นการตีหน้าซื่อกลางแดดชัด ๆ แม้งบประมาณยังไม่บังคับใช้ แต่รัฐบาลสามารถใช้งบประมาณไปพลางก่อนได้ ตั้งแต่เดือน ต.ค.66 จนถึงปัจจุบัน 6 เดือนเต็ม สำนักงบประมาณได้จัดสรรงบให้รัฐบาลใช้ไปแล้ว 1.837 ล้านล้านบาท และรัฐบาลที่อ้างว่างบประมาณฯยังไม่ผ่าน ใช้เงินไปแล้ว 1.524 ล้านล้านบาท คิดเป็น 83% ของเงินที่สำนักงบจัดสรรให้ ใช้ไปแล้ว 44% ของวงเงินงบประมาณทั้งหมด เป็นการแลบลิ้นปลิ้นตาหลอกประชาชน ถ้าจะโกงก็โกงได้

7 เดือนรัฐบาลใช้เงินไปแล้วแต่ยังสอบตก เพราะรัฐบาลชุดนี้มัวแต่ใช้การตลาดนำการบริหาร เอาแต่สร้างภาพ แต่หลังภาพทุกวงการลงมติเกือบเป็นเอกฉันท์ว่า ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน วัน ๆ มีแต่อีเวนต์ จนกระทั่งคนไทยสำลักอีเวนต์ 6 เดือน นายกรัฐมนตรีบินไปบินมาอ้างว่า 14 ประเทศ กับอีก 1 เขตเศรษฐกิจ เป็นนายกฯ 180 วัน อยู่เมืองนอกแล้ว 52 วัน มีคนถามว่าบินไปทำการตลาด หรือทำการตลก ที่บอกว่าไปทำการตลก เพราะอยู่เมืองไทย ประกาศลั่นโลก เศรษฐกิจไทยกำลังวิกฤต แต่เมื่อไปถึงเมืองนอกกลับเชิญเขามาลงทุน มหาเศรษฐีโลกที่ไหนจะป่วยเอาเงินมาลงทุนในประเทศที่กำลังวิกฤต แต่ถ้าเขาจะมา เพราะเขาไม่เชื่อในตัวนายกฯ แต่เชื่อมั่นในเศรษฐกิจไทยที่สั่งสมมาเป็นเวลานาน

นายกฯ พยายามแสดงบทบาทเซลล์แมน แต่ในฐานะเซลล์แมนปิดการขายได้หรือยัง หรือมีแต่สัญญาซื้อขาย แค่เอาฝันมาฝาก ตัวอย่างไม่กี่วัน นายกฯ สั่งให้ที่ปรึกษาแถลงข่าวใหญ่โต ผลการโรดโชว์ของนายกรัฐมนตรี สร้างเม็ดเงินลงทุน 5.58 แสนล้านบาทใน 10 ปี ยิ่งแถลงยิ่งตอกย้ำว่าเป็นแค่การตลาด เพราะยังไม่รู้ว่าจะเป็นจริง หรือฝันทิพย์ นอกจากนี้ยังมีเรื่อง Tomorrowland ที่คนในรัฐบาลโพสต์ผ่านเว็บไซต์ทางการของรัฐบาลไทย แต่ผู้จัดยังระบุว่า ไม่ได้ยืนยันจะมาจัดในเมืองไทย นั่นหมายถึงการปฏิเสธที่สุภาพที่สุดของการตอบโต้รัฐบาลไทย

ตนเองอยากให้สำเร็จ และเอาใจช่วยให้สำเร็จ แต่สิ่งที่อยากบอกนายกรัฐมนตรีคือ คนไทยเขาอยากได้ของจริง ไม่ใช่การตลาด อะไรที่ยังไม่ใช่ยังไม่ต้องตีปี๊บเพราะมันเสียเหลี่ยม คนไทยไม่ได้กินแกลบ พูดอะไรที่มันยังไม่ใช่เขาจับได้ คนไทยอยากเห็นนายกฯ ของเขาบินเหมือนเหยี่ยวมากกว่าแมลงวันที่บินทั้งวัน แต่ยังไม่ได้อะไร นอกจากสร้างภาพว่าบินโดยที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย แต่เหยี่ยวบินไม่พลาดเป้า เพราะเหยี่ยวไม่ทำการตลาด

นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่าตราบใดที่รัฐบาลนี้ก้าวไม่พ้นคนชอบอวดบารมี รัฐบาลนี้จะมีปัญหาทางการเมืองตลอดไป และขอความกรุณาคนในรัฐบาลอย่าไปโทษคนอื่นว่า ทำไมก้าวไม่พ้นบุคคลคนนี้เสียที เพราะสาเหตุที่ก้าวไม่พ้นคือ นายกรัฐมนตรี หัวหน้าฝ่ายบริหารของไทยลงทุนนั่งรถประจำตำแหน่งไปพบถึงบ้าน และยินดีเปิดโอกาสให้รัฐมนตรีขึ้นไปเยี่ยมคาราวะ

ด้าน นายไชยวัฒนา ติณรัตน์ สส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นประท้วง ไม่นึกไม่ฝันว่าคนที่เคยเป็นถึงอดีตรองนายกฯ หัวหน้าพรรคการเมืองหนึ่งจะมีการพูดถึงบุคคลภายนอก เป็นสิ่งที่ไม่เคารพข้อบังคับการประชุม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ พ.ศ.2560 กฎกระทรวงออกปี 63 ระเบียบออกปี 64 ท่านจุรินทร์ก็นั่งอยู่ใน ครม. ทำให้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้องปิดไมค์ และวินิจฉัยว่าญัตตินี้เป็นญัตติการอภิปรายเสนอแนะรัฐบาลโดยไม่มีการลงมติ แม้จะไม่ใช่ไม่ไว้วางใจ แต่เป็นการเสนอแนะต้องมีที่มาที่ไป

นายจุรินทร์ จึงอภิปรายต่อว่าที่เป็นปัญหาทางการเมือง เนื่องจากปัญหานายกฯ หลายคน บางคนบอกแค่วาทกรรม แต่นี่คือปัญหาใหญ่ทางการเมืองอีกปัญหาที่รัฐบาลเศรษฐากำลังเผชิญ เพราะมันสะท้อนความไม่เชื่อมั่น และการด้อยค่านายกฯ ตามรัฐธรรมนูญ ทำให้คนเข้าใจว่า นายกฯ ไม่ได้มีแค่คนเดียว ไม่ได้มีแค่นายกฯ นิด ยังมีนายกฯ ใหญ่ และนายกฯ เล็ก ก่อให้เกิดปัญหาในการบริหารการเมือง ทำให้เกิดอำนาจซ้อนอำนาจ รัฐบาลนี้กลายเป็นรัฐบาลหุ่น นายกฯ จึงหงุดหงิดทุกครั้งที่ถูกถามเรื่องนี้ เพราะมันเป็นคำถามดิสเครดิตนายกฯ และส่งผลต่อการบริหารราชการแผ่นดิน อย่างน้อยก็กระทบสมาธิในการทำหน้าที่ และการใช้อำนาจที่ไม่รู้ว่าใครใหญ่กันแน่ในรัฐบาล

ปัญหาต่อมาคือ รัฐบาลนี้เต็มไปด้วยรัฐมนตรีที่ไร้ประสิทธิภาพ เพราะฉะนั้นจึงมีทั้งรัฐมนตรีที่โลกลืม รัฐมนตรีผิดฝาผิดตัว รัฐมนตรีต่างตอบแทน รัฐมนตรีทำตามเฉพาะกิจ และรัฐมนตรีที่โลกเซ็ง เช่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จ้องแต่แยกเขี้ยวใส่ผู้ว่าฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย แต่ในหน้าที่นั้นพบว่า รายได้ 4 เดือนต่ำกว่าเป้า จึงขอฝากนายกฯ ปรับ ครม. เที่ยวนี้ ช่วยดูรัฐมนตรีที่โลกเซ็งด้วย

ขณะที่ปัญหาเศรษฐกิจมหภาค ภาพรวมเศรษฐกิจไม่ได้สร้างความเชื่อมั่นให้คนไทยและโลกได้ ดูจากตัวเลข GDP ในไตรมาส 4 คาดไว้ 2.0 แต่ทำได้แค่ 1.9 โตต่ำกว่าเป้าเดิมที่กำหนดไว้ สภาพัฒน์ฯ ยังประเมินว่าเศรษฐกิจจะโตแค่ 2.0-2.3 เป็นโจทย์สำคัญที่นำมากราบเรียนให้รัฐบาลรีบแก้ให้ถูกทางโดยด่วน

ส่วนปัญหาเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท คนไทยหลายคนเลิกเชื่อเบื่อทวงแล้ว เพราะเจอลูกหนี้ประเภทท่องคาถา ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย เมื่อวานมีมติทำนองว่า จะไปแก้งบประมาณฯ 2568 ให้ขาดดุลเพิ่มขึ้น 1.5 แสนล้าน เพื่อนำไปใช้กับนโยบายเงินดิจิทัลวอลเล็ต ไม่มีอะไรใหม่ ยังกู้มาแจก เปลี่ยนจากออก พ.ร.บ.เงินกู้ มาเป็นเงินกู้จาก พ.ร.บ.งบประมาณ พ.ศ. 2568

คนไทยไม่อยากเห็นรัฐบาลนี้ก่อกรรมเพิ่ม ตนเองในฐานะผู้แทนราษฎรคนหนึ่ง จึงอยากถามนายกฯ 3 ข้อ และขอให้ช่วยตอบด้วยตนเอง ในฐานะที่เป็นฝ่ายบริหาร คุมเสียงข้างมากในสภาฯ จะทำหลักนิติธรรมให้เข้มแข็งกับประเทศได้หรือไม่ โดยจะปล่อยให้เกิดคุกทิพย์โมเดลมาใช้ซ้ำสองหรือไม่ ส่วนระเบียบใหม่ที่กรมราชทัณฑ์กำหนดออกมา ให้ไปติดคุกที่บ้านได้ และระเบียบนั้นจะรวมคดีทุจริต หรือคดีมาตรา 157 ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่

นายจุรินทร์ ขอความกรุณานายกฯ อย่าตอบว่าขึ้นอยู่กับคณะกรรมการราชทัณฑ์ที่มาจากหลายหน่วยงาน เพราะมันเป็นลิงหลอกเด็กที่ดูถูกประชาชน ถ้าเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีคดี มาตรา 157 ติดคุกที่บ้านได้ หลักนิติธรรมของไทยจะต้องถูกตั้งคำถามอีกครั้ง เพราะจะต้องเผชิญกับนักโทษเทวดาตัวใหม่ รวมถึงการนิรโทษกรรมที่มองว่าเป็นดาบสองคม ถ้าใช้ให้ถูกจะเป็นการสร้างความปรองดองให้กับประเทศ ถ้าใช้ผิดทางเป็นการสร้างความขัดแย้งให้กับประเทศได้อีก จึงขอถามว่ารัฐบาลนี้มีนโยบายที่จะนิรโทษกรรมคดีทุจริตด้วยหรือไม่

“อย่าคิดได้คืบเอาศอก เพราะในอดีตเคยมีคนพังเพราะไม่รู้จักพอมาแล้ว ที่เตือนเพราะเมื่อถึงวันนี้ มีผู้ไปยื่นร้องต่อองค์กรต่าง ๆ เฉพาะกรณีนักโทษเทวดารวมแล้ว 24 เรื่อง สิ่งที่นายกฯ และพวกได้ทำกับหลักนิติธรรมของประเทศไว้ จะเป็นระเบิดเวลาที่ตั้งไว้ รอวันระเบิดใส่ตนเองในอนาคต ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายดลบันดาลให้ทุกท่านดวงตาเห็นธรรมโดยทั่วกันด้วยเทอญ” นายจุรินทร์ กล่าวทิ้งท้าย

Related Posts

Send this to a friend