ประชาธิปัตย์ เรียกร้องรัฐบาล เร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญ อย่าถ่วงเวลา
ชี้ สสร. ควรมาจากการเลือกตั้ง และการคัดเลือกจากรัฐสภา พร้อมย้ำจุดยืน แก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ ไม่แตะหมวด 1-2
วันนี้ (3 ก.พ. 67) เวลา 10:30 น. นายราเมศ รัตนเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน กรณีกับการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์แสดงจุดยืนว่า การแก้ไขเพิ่มเติมควรจะแก้ไขเป็นประชาธิปไตยให้สมบูรณ์มากขึ้น และพรรคให้ความสำคัญเรื่องนี้มาโดยตลอด เพราะรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันยังไม่มีความเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ เพราะในเรื่องโครงสร้างการเข้าสู่อำนาจของฝ่ายบริหาร และฝ่ายนิติบัญญัติบางส่วน และมีการริดรอนสิทธิของประชาชนในหลายๆ เรื่อง ลดอำนาจประชาชน กระบวนการยุติธรรม และการลดน้อยถอยลงเรื่องการปราบปรามทุจริต
จุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ เรากำหนดให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ มีจำนวน 200 คน มาจากการเลือกตั้งจากประชาชนแต่ละจังหวัด 150 คน และกำหนดให้ สสร. มาจากผู้เชี่ยวชาญสาขากฎหมายมหาชน สาขารัฐศาสตร์ หรือ รัฐประศาสนศาสตร์ 10 คน มีการกำหนดให้ผู้ที่มีประสบการณ์ด้านการเมืองและการบริหารแผ่นดิน 10 คน โดยใน 2 ส่วนนี้มาจากการคัดเลือกของอธิบการบดีแห่งประเทศไทย และให้ สสร. มาจากนักเรียน นิสิต นักศึกษา 10 คน ที่มาจากการผ่านกระบวนการรับสมัคร ให้ กกต. เลือกเป็นตัวแทนของนักเรียนนิสิตนักศึกษา ส่วนอีก 20 คนมาจากการคัดเลือกจากรัฐสภา ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นร่างที่พรรคประชาธิปัตย์ยื่นต่อสภาชุดที่ผ่านมา และการกำหนดอายุสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ จะต้องมีประสบการณ์ มีความอาวุโส และมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์
สำหรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ขอเรียกร้องไปยังรัฐบาล ตามที่รัฐบาลเคยให้คำมั่นสัญญาไว้ การตั้งคณะกรรมการของรัฐบาล ที่ตั้งเมื่อตอนเข้าไปบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งตอนนี้เวลาได้ผ่านมานานพอสมควรแล้ว ซึ่งมองว่า ประชาชนไม่ได้คาดหวัง ต่อคณะกรรมการที่รัฐบาลตั้งขึ้นแล้ว เพราะเสมือนว่าถูกตั้งขึ้นมาเพื่อถ่วงเวลาการแก้ไขเพิ่มเติม รธน. เชื่อว่าทั้งหมดจะมีการถกเถียงในสภาเพื่อให้เกิดการตกผลึก และเป็นข้อตกผลึกที่เป็นจุดหมายเดียวกัน นำไปสู่การยกร่างรัฐธรรมนูญที่มีความเป็นประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้น โดยพรรคประชาธิปัตย์มีจุดยืนว่า เราต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้มีความเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และจะต้องไม่มีการแก้ไขเพิ่มเติมในหมวด 1-2












