‘ประเสริฐ’ คาด พ.ร.ก.ปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีบังคับใช้ ก.พ.นี้
‘ประเสริฐ’ คาด พ.ร.ก.ปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีบังคับใช้ ก.พ.นี้ พร้อมยกระดับการทำงานให้รวดเร็วกว่ามิจฉาชีพ
วันนี้ (3 ก.พ. 68) การประชุมวุฒิสภา นายสุทนต์ กล้าการขาย สมาชิกวุฒิสภา ตั้งกระทู้ถาม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ถึงการดำเนินการที่เกี่ยวกับมาตรการการการป้องกันและปราบปรามการหลอกลวงทางออนไลน์ผ่านโซเชียลมีเดีย และบริการโทรคมนาคม
นายประเสริฐ ชี้แจงว่า คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบร่างพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ .. ) พ.ศ. …. โดยมีหลักการสำคัญ คือ การขยายขอบเขตการระงับธุรกรรมครอบคลุมสินทรัพย์ดิจิทัล พร้อมระงับการให้บริการโทรคมนาคม หากพบว่าเลขหมายโทรศัพท์ดังกล่าวอาจถูกใช้ทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี คุ้มครองสิทธิและคืนเงินให้ผู้เสียหาย
นอกจากนี้ ยังเพิ่มบทกำหนดโทษสำหรับผู้กระทำการเก็บรวบรวมใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในครอบครอง โดยมิชอบหรือโดยทุจริต พร้อมกำหนดความรับผิดชอบของผู้ที่เกี่ยวข้องซึ่งกำหนดให้สถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ ผู้ให้บริการโทรคมนาคม หรือสื่อสังคมออนไลน์ มีส่วนรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นกับผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งคาดว่าร่างกฎหมายฉบับนี้จะประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษา ภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้
สำหรับการบูรณาการ มีการกำกับควบคุมดูแลโดยประสานสมาคมธนาคารไทย สมาคมธนาคารพาณิชย์ และธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อให้มีมาตรการที่เข้มงวดในการเปิดบัญชี ทั้งบัญชีบุคคลธรรมดา และบัญชีนิติบุคคล ส่วนเรื่องซิมม้า ได้ประสานงานกับสำนักงาน กสทช. เพื่อตรวจสอบผู้ครอบครองตั้งแต่ 6 ซิมเป็นต้นไป ซึ่งหากเกินจากจำนวนนี้จะต้องมายืนยันตัวตน และแสดงตนกับทางสำนักงาน กสทช. พร้อมตรวจสอบการโทรศัพท์ที่เกิน 100 สายต่อวัน ยืนยันว่าขณะนี้จำเป็นต้องยกระดับการทำงานให้รวดเร็วกว่ามิจฉาชีพ












